อุแว้! อุแว๊!!
"ใจเย็นครับคนดี แม่ขอขยับตัวแป๊บหนึ่งก่อน" พอขยับตัวได้ที่หญิงสาวก็เอื้อมมือไปอุ้มลูกจากเปลเด็ก เพื่อที่จะนำมานอนด้านข้าง..แล้วให้นม
"ธรรมดาผ่าคลอดน้ำนมจะไม่ค่อยมี โชคดีนะที่น้ำนมของหนูยังไหลดีอยู่" ป้าที่มาเฝ้าลูกสาวข้างเตียง เห็นเวลาให้นมเด็กก็ดูดตลอด
"ยังดีค่ะ ที่ยังมีเรื่องโชคดีอยู่บ้าง" ถ้าน้ำนมของเธอไม่ไหล นั้นมันคือเรื่องใหญ่เลย ต้องได้เจียดเงินส่วนที่เหลือมาซื้อนมผง
พอกินนมอิ่มแล้วเด็กน้อยก็ไม่งอแง หญิงสาวได้แต่นอนมองหน้าลูก ทำไมแกต้องเกิดมาหน้าเหมือนพ่อด้วย ทั้งๆ ที่ไม่เคยเห็นหน้าเขาเลย พอคิดมาถึงตรงนี้ลูกของเธอก็มีรอยยิ้มขึ้นมา
"ยิ้มทำไมหมาน้อย หนูมีแม่แค่คนเดียวพอแล้ว" เหมือนเด็กน้อยจะรู้ว่าแม่กำลังคิดอะไรอยู่..เธอก็เลยตำหนิลูกเบาๆ
"เออป้าลืมไปเลย หนูตั้งชื่อให้ลูกหรือยัง"
"ตั้งแล้วค่ะ"
"หน้าตาน่ารักแบบนี้ ชื่อคงจะน่ารักนะ"
"น่ารักค่ะ แกชื่อหมาน้อย"
"ห๊ะ?"
พอลูกยิ้มตอนที่เธอกำลังจะคิดถึงเรื่องพ่อของแก หญิงสาวเกิดงอนลูกขึ้นมา..ก็เลยใส่ชื่อหมาน้อยไปเลย
"ป้าคะฝากเจ้าหมาน้อยแป๊บหนึ่งได้ไหม หนูจะไปเข้าห้องน้ำ" อาการของเธอรู้สึกเหมือนว่าจะปวดปัสสาวะ หรืออุจจาระมาพร้อมกัน
หญิงสาวรีบยันกายค่อยๆ ลุกขึ้นทันทีที่ฝากลูกไว้กับคนข้างเตียง แต่พอเท้าถึงพื้นเท่านั้นแหละ น้ำคาวปลาที่มันค้างคาอยู่ก็ได้ไหลออกมา จนล้นผ้าอนามัยที่พยาบาลใส่ไว้ให้..นองเกลื่อนพื้น
อัปสรสุดาถึงกับหน้าเปลี่ยนสี เพราะมันเป็นห้องรวม และเธอก็ไม่มีญาติมาช่วยเรื่องนี้
..และอีกเรื่องตอนนี้คืออยากจะเข้าห้องน้ำมาก หญิงสาวจำเป็นต้องได้ทิ้งทุกอย่างไว้ตรงนั้นเพื่อตรงไปที่ห้องน้ำ และมันก็ไหลผ่านขาเรียวลงสู่พื้นตลอดเวลาที่ก้าวเดิน
"ใครมาเชือดกันตรงนี้เนี่ย!!" พยาบาลคนนี้ขึ้นชื่อว่าปากไม่ดีประจำห้องนี้เลยก็ว่าได้
"เตียงนี้เขาไปเข้าห้องน้ำเดี๋ยวคงออกมา"
"ทำไมถึงไม่รู้จักระมัดระวังตัวเองบ้าง กลิ่นเหม็นฟุ้งไปทั่วห้อง" เพราะกลิ่นน้ำคาวปลาจะเหม็นมาก ยิ่งเป็นห้องรวมแบบนี้หลายคนต่างก็รู้สึกขยะแขยง
"ขอโทษค่ะเดี๋ยวฉันทำความสะอาดเอง" ยังไม่เสร็จธุระจากห้องน้ำเลยด้วยซ้ำ หญิงสาวต้องได้รีบออกมา เพราะได้ยินเสียงโวยวาย
"ทีหน้าทีหลังระวังหน่อย ไม่ใช่ว่ากลิ่นมันจะหมดไปง่ายๆ ต้องได้นั่งดมอยู่แบบนี้ทั้งวันอีก" เพราะพยาบาลก็ได้อยู่ร่วมห้องเดียวกับแม่หลังคลอด..แต่คนละล็อค
ดวงตางามมองต่ำลงไปดูที่พื้น ทำยังไงเธอถึงจะก้มลงไปเช็ดคราบพวกนี้ได้ แค่เดินยังไม่มีแรงจะเดินเลย
"มัวทำอะไรอยู่..นี่เครื่องทำความสะอาดรีบทำสิ" พยาบาลคนเดิมหยิบที่ทำความสะอาดมาส่งให้แบบไม่ค่อยพอใจ
"ขอโทษด้วยนะคะ" หญิงสาวพนมมือขึ้นไหว้ แต่ดูเหมือนอีกฝ่ายไม่อยากจะรับคำขอโทษเลย
ยิ่งเช็ดก็เหมือนยิ่งเลอะ น้ำคาวปลาที่มีคราบเลือดติดอยู่
จะก้มลงไปนั่งก็ไม่ได้ เธอต้องได้เอาเท้าค่อยๆ ขยับผ้าเพื่อทำความสะอาด
"ม๊ะ.. เดี๋ยวป้าช่วย หนูมาเอาลูกดีกว่า" ที่ป้าข้างเตียงไม่ได้ช่วยแต่ทีแรกเพราะมัวอุ้มลูกให้เธอ
"ขอบคุณค่ะป้า" หญิงสาวไม่ปฏิเสธความช่วยเหลือนี้ เพราะเธอไม่ไหวแล้วจริงๆ ถ้ายังยืนอยู่ตรงนี้ สงสัยว่าต้องได้ลำบากอีกหลายคนแน่ถ้าล้มลงไป
อัปสรสุดานอนมองป้าที่ก้มลงไปเช็ดๆ ถูๆ คราบน้ำคาวปลาที่เป็นสีแดงให้ แล้วพลอยคิดถึงแม่ขึ้นมา ถ้าแม่อยู่ด้วยในตอนนี้คงจะดี
พอจิตใจเริ่มจะอ่อนแอเธอต้องได้รีบสลัดทุกอย่างออก เพราะเธอจะอ่อนแอไม่ได้
บ่ายวันเดียวกัน..
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไฟแค้น