"เมื่อกี้พี่ว่าอะไรนะ" มือที่อุ้มลูกอยู่เริ่มจะไม่มีเรี่ยวแรง แต่ก็ต้องได้กอดเขาไว้ให้แน่น
"ตอนนี้แม่ของเราอยู่โรงพยาบาล" ดัมมี่พูดพร้อมกับจ้องมองผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าแบบสำรวจ เธอดูเปลี่ยนไปมาก แต่เค้าโครงความสวยไม่ได้ลดน้อยลงเลย หรืออาจจะสวยกว่าเดิมด้วยซ้ำ เพราะดูมีน้ำมีนวลขึ้น
"แม่" หญิงสาวพูดได้แค่นี้ก็เงียบไป คงถึงเวลาแล้วที่เธอจะกลับไปเผชิญทุกอย่าง หนีแบบนี้อีกต่อไปคงไม่ได้
"เรากลับมาอยู่ประเทศไทยตั้งแต่เมื่อไร" เรื่องที่เธอไปอยู่เมืองนอกดัมมี่รู้ดี แต่เขาไม่รู้ว่าเธอกลับมาแล้ว
"นานแล้วค่ะ..ว่าแต่พี่ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ได้" เพราะที่นี่เป็นจังหวัดเขตชายแดนเลยก็ว่าได้
"เหยียบเล็บคนใหญ่คนโตมา..ก็เลยถูกย้าย" เขารู้ดีว่าใครเป็นคนอยู่เบื้องหลังของการถูกสั่งย้ายในครั้งนี้
"หมายความว่ายังไงคะ"
"ช่างมันเถอะมันผ่านไปแล้ว ว่าแต่เราเตรียมตัวเลยนะ คืนนี้พี่จะพากลับบ้าน"
"ขอบคุณค่ะ" หญิงสาวไม่ปฏิเสธที่ดัมมี่จะพากลับ เพราะถ้าให้หารถกลับเองคงลำบากมากแน่
ดัมมี่มองดูเด็กคนนี้หน้าตาคุ้นมาก แต่เขาเพิ่งเคยเห็นทำไมถึงคุ้นหน้าเด็กคนนี้จัง เขาไม่กล้าถามอะไร..เพราะมันคือเรื่องส่วนตัว แต่ถึงยังไงเขาต้องพาเธอกลับไปหาแม่ก่อน
หลายชั่วโมงผ่านไป.. อัปสรสุดาเก็บของเฉพาะที่จำเป็น เธออุ้มลูกน้อยนั่งรถมากับดัมมี่
ระหว่างทางที่นั่งรถมาเจ้าหมาน้อยก็ดื้อมาก จับนั่นแงะนี่ เด็กไม่ค่อยได้นั่งรถแบบนี้เท่าไร เวลาไปหาหมอแม่ก็พานั่งสองแถว
รวมๆ แล้ว เธอนั่งรถมากับดัมมี่ 10 ชั่วโมงได้
"ตอนนี้แม่อยู่โรงพยาบาลไหนคะ"
"เดี๋ยวพี่พาไป"
ดัมมี่ใช้เวลาไม่นาน เขาก็พาเธอมาถึง....
@โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง
ทำไมคุณแม่ถึงมารักษาที่นี่.. หญิงสาวแค่สงสัย เพราะโรงพยาบาลนี้ขึ้นชื่อว่าแพงมาก
ดัมมี่ขออุ้มหมาน้อยช่วย แต่อัปสรสุดาไม่ยอม เพราะถ้าเปลี่ยนมือแล้วลูกเธอต้องตื่นแน่ รวมทั้งเด็กเป็นคนที่ติดมือแม่มาก เธอสอนลูกมาแบบนี้เอง เพราะกลัวว่าลูกจะไปกับคนแปลกหน้า
ลิฟต์ได้ถูกกดขึ้นไปชั้นที่ 20 ซึ่งเป็นชั้นvวีไอพีเลยก็ว่าได้
พอลิฟต์เปิดออก หญิงสาวก็เริ่มใจไม่ดี ..คงไม่ใช่เขาใช่ไหม..สิ่งเดียวที่เธอคิดอยู่ก็คือ เขาต้องเป็นเจ้าของไข้ของแม่แน่
พอเดินเข้าไปใกล้ห้องเจอผู้ชายที่นั่งอยู่ด้านนอก เหมือนเป็นบอดี้การ์ด.. แบบนี้ใช่เลย แต่หญิงสาวก็ได้เตรียมตัวเตรียมใจไว้แล้ว
"ห้องนี้แหละ" ดัมมี่หยุดยืนที่หน้าห้อง
"เดี๋ยวก่อน" บอดี้การ์ดที่เฝ้าอยู่แถวนั้นรีบเดินมาขวางไว้ "ห้องนี้ไม่ใช่ว่าใครจะเข้าไปได้ง่ายๆ" บอดี้การ์ดคนนี้เข้ามาใหม่ก็เลยไม่รู้จักทั้งสอง
"ฉันเป็นลูกสาวของคนป่วยที่อยู่ในห้องนี้" เธอมองดูชื่อป้ายที่ติดอยู่ด้านหน้า มันคือชื่อของแม่เธอจริงๆ
"ลูก?" บอดี้การ์ดรีบถอยไป แล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรรายงาน
แกร้ก.... เสียงประตูถูกเปิดเข้าไปเบาๆ
"แม่" น้ำตาของเธอไหลเมื่อมองไปเห็นผู้เป็นแม่นอนใช้เครื่องช่วยหายใจอยู่บนเตียงคนป่วย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไฟแค้น