"ใช่จ้า.." สุดาแค่ดูสายตาของหลานสาวก็รู้แล้วว่าเธอคงจะสงสัยเรื่องที่สิงหราชเรียกนางว่าแม่ "สิงหราชคือสิงหาลูกชายของป้าเอง"
..ทำไมโลกมันถึงกลมแบบนี้ จะเล่นตลกอะไรกับเราอีก.. หญิงสาวได้แต่คิดว่า ที่เธอเจอมายังไม่สาหัสพอใช่ไหม เอาเลยอยากจะเล่นตลกอะไรกับชีวิตเธอก็จัดมาให้พอใจ
"ดีใจกับคุณป้าด้วยนะคะ ในที่สุดก็เจอลูกชาย" สมัยก่อนตอนที่แม่ของเธอไปเยี่ยมแม่ชี ..อัปสรสุดาขอไปด้วยตลอด ก็เลยสนิทกับพวกท่าน และแม่ของเธอก็เล่าเรื่องทุกอย่างให้ฟัง
สุดาได้แต่มองหน้าหลานสาว ทีแรกหมายปองเธอไว้ว่าจะได้เป็นลูกสะใภ้ แต่ก็ไม่เป็นไร ดูท่าทางแล้วลูกชายคงจะชอบคนพี่มากกว่า เพราะตอนออกจากห้องไปเห็นโอบเอวกันด้วย
ดึกๆ ของคืนเดียวกันนั้น..
"แกจริงๆ ด้วย ทำไมแกหายไปแบบนี้ รู้ไหมว่าทุกคนเป็นห่วง" พอนาฬิการู้ข่าวจากพี่ชายก็รีบมาที่โรงพยาบาล
"แกอย่าเพิ่งพูดอะไรเลย ถ้าแกรู้เรื่องนี้แล้ว แสดงว่าเรื่องนั้นแกก็คงจะรู้แล้วใช่ไหม" โชคดีที่ตอนนี้สิงหราชได้ให้คนมารับแม่ของเขากลับไปนอนที่บ้านแล้ว อัปสรสุดาก็เลยพูดกับเพื่อนได้สะดวกหน่อย
"เรื่องเด็กคนนั้นเหรอ ตกลงเป็นลูกของแกจริงเหรอ?" นาฬิกาเห็นเด็กก่อนที่จะขึ้นมาด้านบนแล้ว เพราะตอนนี้เด็กนอนหลับอยู่กับพี่ชายที่รถ
"ใช่แล้วลูกของฉัน..นาฬิกาฉันฝากลูกไว้กับแกหน่อยได้ไหม ช่วงนี้ฉันอยากจะดูแลแม่"
"ได้สิ งานฉันก็ไม่ได้ทำ เดี๋ยวจะดูแลให้"
"แกจำไว้นะ..ห้ามให้ใครอุ้มลูกฉัน แกห้ามพาลูกฉันออกมาข้างนอก"
"ทำไม? แกกลัวอะไร..อย่าบอกนะว่า??" นาฬิกาเริ่มจับต้นชนปลาย และเดาได้ว่า เด็กคือลูกของเพื่อนรักและก็ผู้ชายคนนั้น
"ใช่แล้ว"
"อะไรนะ!? ทำไมชีวิตของแกถึงเจอแต่เรื่องแบบนี้" การที่นาฬิกาท้อเรื่องหางาน ตอนนี้มันเล็กน้อยมาก ถ้าเทียบกับชีวิตของเพื่อนแล้ว
"เรื่องนี้เป็นความลับสุดยอดระหว่างเราสองคน แม้แต่พี่ดัมมี่แกก็ห้ามเล่าให้ฟัง ถ้าใครถามแกบอกว่าฉันมีลูกกับพี่ดัมมี่"
"แกจะบ้าเหรอ!..คือพี่ดัมมี่เขาา..เออๆๆ ก็ได้ เดี๋ยวฉันจะช่วยคุยกับพี่ดัมมี่ให้" นาฬิกาคิดว่าทำตามเพื่อนก็ดีเหมือนกัน อัปสรสุดาจะได้ไม่ต้องคิดมาก และหนีไปแบบนี้อีก.. แต่กับพี่ชายนี่สิจะคุยยังไงดี..ในเมื่อเขาก็มี...อยู่แล้วว
เช้าวันต่อมา..
"คุณหมอคะ ตกลงแม่ฉันเป็นอะไร"
หมอมาตรวจดูอาการแบบนี้ทุกเช้า และเช้านี้ก็เช่นกัน
"คุณคือลูกสาวของคนป่วยเหรอครับ"
"ใช่ค่ะ"
"ทางทีมแพทย์วินิจฉัยออกมาแล้วคงจะเป็นอาการ GIVE-UP-ITIS ภาวะยอมแพ้ จิตตาย.. หรืออีกชื่อที่ทุกคนรู้จักกันก็คือการตรอมใจ"
"คุณแม่มีทางจะรักษาหายไหมคะ"
"ที่จริงคนไข้ได้สติอยู่นะครับ แต่เพียงแค่ว่าท่านไม่อยากรับรู้เรื่องอะไรอีกแล้ว"
"หนูต้องทำยังไงบ้างคะคุณหมอ"
"ถ้าอาการนี้มันเกิดจาก การที่คนป่วยคิดถึงลูกสาวที่หายไปมากจนจิตตาย ก็มีแค่คนคนนั้นเท่านั้นที่จะทำให้คนป่วยกลับคืนมาได้เป็นปกติ"
"หนูจะพยายามค่ะ"
แล้วหมอก็แนะนำให้เธอคุยกับแม่บ่อยๆ ให้ท่านรับรู้ว่าตอนนี้เธอกลับมาแล้ว
หญิงสาวพยายามทำตามที่หมอแนะนำ เวลาเช็ดตัวอัปสรสุดาก็พยายามชวนแม่คุย แต่ในเวลานี้ไม่ใช่แค่ปลอบใจแม่แต่เธอต้องปลอบใจตัวเองด้วย เพราะที่แม่เป็นแบบนี้ ก็เพราะการตัดสินใจของเธอในครั้งนั้น แต่ในเมื่อมันทำอะไรไม่ได้แล้วเธอก็ต้องเลือกทำปัจจุบันให้ดีที่สุด
"แม่คะ แม่ได้ยินเสียงน้องไหม น้องกลับมาแล้วนะ"
ในขณะที่หญิงสาวกำลังคุยกับแม่อยู่นั้นประตูห้องก็ได้ถูกเปิดเข้ามา..ใบหน้างามรีบมองไป เพราะกลัวว่ามันจะเป็นเขา
"ทานอะไรบ้างหรือยังจ๊ะ ป้าเตรียมของมาให้ทานเยอะเลย"
"ลำบากคุณป้าแย่เลยค่ะ"
"ไม่ได้ลำบากอะไรเลยลูก..ป้าเต็มใจทำ"
"น้องยังไม่ได้ถามเรื่องนั้นเลย ทำไมคุณป้าสึกออกมาล่ะคะ"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไฟแค้น