"หมาน้อย!!" หญิงสาวไม่รอฟังว่าเขาจะพูดอะไรต่อ เธอเดินตรงเข้ามาแล้วกระชากตัวของลูกออก "ถ้าคุณยังมาวุ่นวายกับลูกชายของฉันอยู่ ฉันจะแจ้งความ"
"หึ! แจ้งความ?..ทำไมไม่แจ้งกับคนที่บอกว่าเป็นพ่อเขาเลยล่ะ เป็นตำรวจไม่ใช่เหรอ แต่เอ้..ได้ยินข่าวว่าถูกย้ายไปแล้วนี่ ทำไมยังเห็นวนเวียนอยู่แถวนี้อีกล่ะ"
"คุณ!! ฝีมือของคุณใช่ไหม" ได้ยินแค่นี้หญิงสาวก็พอจะเดาได้แล้ว ว่าคนที่ดัมมี่บอกว่าไปเหยียบเล็บเข้าคือใคร
"แมะ" หมาน้อยตกใจเสียงที่แม่ตะคอก เด็กน้อยเบะปากกำลังจะร้องไห้
"โอ๋.... คนดีไม่ร้องนะลูก หนูง่วงแล้วใช่ไหมครับ เรากลับเข้าไปนอนกันดีกว่า" อัปสรสุดาจำเป็นต้องได้ทิ้งความโมโหไว้ตรงนั้นก่อน แต่เธอไม่ยอมปล่อยเรื่องนี้ไปแน่ ..พี่ดัมมี่ต้องมาเดือดร้อนเพราะเราเองเหรอเนี่ย
พอประตูห้องบานนั้นถูกปิดลง ชายหนุ่มก็ชูนิ้วเพื่อเรียกให้ลูกน้องเข้ามาใกล้ "ให้ผลตรวจออกมาเร็วที่สุด" เขาสั่งลูกน้องแต่สายตาก็ยังมองที่ประตูบานนั้น
"หนูห้ามไปเล่นกับผู้ชายคนนั้นอีกนะลูก รู้ไหมว่ามันอันตราย" หญิงสาวตำหนิลูกชายทันทีที่เข้ามาถึงในห้อง "นี่รอยอะไร" เธอมองดูที่นิ้วชี้ของลูกเหมือนมีอะไรทิ่ม
"แหมมๆๆ"
"อะไรนะ..หนูหิวเหรอ" ..ตายแล้วลืมถามนาฬิกาว่าลูกทานข้าวหรือยัง
"แหมม" ดวงตากลมโตที่ไร้เดียงสา มองจ้องใบหน้าของแม่ แบบอยากจะสื่อให้แม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่
"เดี๋ยวแม่ไปดูในตู้เย็นก่อนนะ..ว่ามีอะไรให้หนูกินได้ไหม" หญิงสาวเดินไปเปิดตู้เย็นดู "ไม่มีอะไรที่หนูจะกินได้เลย เราคงต้องได้ลงไปซื้อข้างล่างแล้วล่ะ" โชคดีที่หน้าโรงพยาบาลยังมีร้านสะดวกซื้อ
อัปสรสุดาอุ้มลูกเปิดประตูออกมา เพราะคิดว่าเขาคงจะไปแล้ว แต่เธอคิดผิด ..พอประตูบานนั้นเปิดออก ก็เจอเขายังนั่งอยู่ที่เดิม
..เป็นบ้าอะไร ทำไมไม่กลับไปหาแฟนตัวเองสักที หญิงสาวต้องรีบอุ้มลูกเดินผ่านหน้าเขาออกมา
มือเรียวยื่นไปกำลังจะกดลิฟต์ลงชั้นล่าง แต่ถูกมือของใครอีกคนแย่งกดเสียก่อน
"จะไปไหน"
พอลิฟต์เปิดออก เธอก็รีบเข้าไปด้านใน โดยที่ไม่ตอบคำถาม
"ป่ะ" เด็กน้อยยิ้มแป้นเมื่อเห็นว่าคนที่เขาอยากจะเล่นด้วยตามเข้ามาในลิฟต์
"ฉันถามว่าเธอจะไปไหน"
"คุณเลิกยุ่งกับชีวิตของฉันสักทีได้ไหม"
"ใครอยากจะยุ่งกับชีวิตของเธอ"
"ก็สิ่งที่คุณกำลัง.." หญิงสาวเริ่มขึ้นเสียง และเสียงของเธอก้องในลิฟต์มาก จนทำให้ลูกตกใจ เธอก็เลยต้องได้หยุดพูด
พอประตูลิฟต์เปิดออกคนตัวเล็กก็รีบอุ้มลูกออกมา
ออกมาถึงด้านนอกหญิงสาวก็ตรงเข้าร้านสะดวกซื้อ โดยที่ไม่สนใจคนที่เดินตามมาเลย
..ชายหนุ่มหายใจโล่งขึ้น เพราะคิดว่าเธอจะหอบลูกหนีไปอีก
"ไม่เอาของเล่นครับ!" หญิงสาวแอบตำหนิลูกเบาๆ เมื่อเห็นหมาน้อยพยายามคว้าเอาของเล่นที่แขวนอยู่ในร้านนั้น
เธอเดินมองดูว่า มีอะไรที่สามารถจะให้รองท้องลูกได้ในยามวิกาลบ้าง
"หนูกินขนมปังกับนมไหมลูก เดี๋ยวพรุ่งนี้ร้านค้าเปิดแม่จะมาซื้อโจ๊กให้" เพราะถ้าเป็นโจ๊กในร้านแบบนี้ เธอไม่อยากให้ลูกกิน..โจ๊กสำเร็จรูปพวกนี้ปรุงรสเยอะเกินไป
"แกหิวข้าวเหรอ" เขายังเดินตามมาติดๆ แต่ก็หยิบนั่นจับนี่เหมือนไม่สนใจ พอได้ยินเธอคุยกับลูกก็อดที่จะถามไม่ได้
"แม่บอกไม่ให้เอาของเล่นไง" เดินไปมุมไหนก็มีแต่ของเล่นแขวนอยู่ตามชั้น และหญิงสาวก็ไม่ได้สนใจคำถามของเขาเลย
พอเธอได้นมและขนมปังก็รีบออกจากร้าน ส่วนคนที่เดินตาม เห็นว่าเด็กจะคว้าเอาอะไรบ้าง..เขาก็หยิบไปจ่ายตังค์ทั้งหมด
"ไหนหนูบอกว่าหิวไงลูก" พอขึ้นมาถึงชั้นบนเธอก็เอานมกล่องให้ลูกดูด..แต่ลูกชายกินแค่นิดเดียว
ที่เด็กไม่กินก็เพราะงอนแม่ไม่ซื้อของเล่นให้ เรื่องนั้นแม่อย่างเธอรู้ดี แต่เงินของเธอจะใช้ฟุ่มเฟือยไม่ได้
แกร้ก... พอประตูเปิดออก ก็เห็นมือของใครบางคนยื่นถุงเข้ามาวางไว้ แล้วประตูก็ถูกปิด โดยที่เจ้าของมือนั้นไม่ได้เข้ามาในห้องเลย
เด็กน้อยรีบกระโดดลงจากโซฟาวิ่งมาที่ถุง
"หมาน้อยไม่เอาลูก!" หญิงสาวรีบเดินมาแย่งถุงออกจากมือของลูกชาย
"แง้~" เสียงร้องไห้ของเด็กดังลั่นขึ้น เมื่อเห็นสิ่งที่อยากได้ถูกแม่แย่งไป
"อ๊อก" จังหวะที่กำลังวุ่นวายอยู่กับลูกนั้น..ก็ได้ยินเสียง
"แม่!!" อัปสรสุดาทิ้งความสนใจจากลูกชายแล้วตรงเข้ามาหาผู้เป็นแม่ เพราะตอนนี้ท่านลืมตามองมาที่เธอกับหมาน้อย
"ถ้างั้นฉันกลับนะ สายๆ ว่าจะเข้าไปสมัครงานอีกที่"
"ฉันก็เลยต้องทำให้แกลำบาก"
"ฉันชินแล้วแหละ ถึงไปสมัครก็ไม่แน่ว่าเขาจะรับ"
"ทำไม"
"ช่วงนี้คนตกงานเยอะ คนก็เลยหางานใหม่เยอะเหมือนกัน"
พอนาฬิกากลับไปเพียงไม่นานประตูห้องก็ถูกเปิดเข้ามา โดยผู้หญิงสองคน..นั่นก็คือ
"ดีใจจังเลยที่เธอฟื้นแล้ว" สุดารีบตรงเข้ามากุมมือเพื่อนรักไว้
แก้วกานดาได้แต่ส่งยิ้มและพยักหน้าไห้นิดหนึ่ง เพราะไม่ค่อยมีเรี่ยวแรงที่จะขยับหรือพูด
"เห็นหลานแล้วใช่ไหม" สุดาแอบมองสายตาของแก้วกานดาที่มองไปดูเด็ก ตอนนี้กำลังหลับปุ๋ยอยู่บนโซฟา
"แล้วคุณสิงห์ไปไหน" ผู้หญิงอีกคนก็คืออัจฉราภรณ์ เธอพยายามมองหาเขาแล้ว..แต่ก็ไม่เจอ
"แล้วตาสิงห์ล่ะจ๊ะ" แม่ของเขาถามซ้ำอีกคน เพราะว่าลูกชายโทรไปบอก ว่าคุณน้าฟื้นแล้ว นางก็เลยรีบออกมาจากบ้าน ..จังหวะที่กำลังจะออกมาก็เจอกับอัจฉราภรณ์พอดี ทั้งสองก็เลยมาพร้อมกัน
"ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ" คำถามนี้จะไม่ตอบก็ไม่ได้ หญิงสาวก็เลยตอบออกไปแบบผ่านๆ
อีกมุมหนึ่งของโรงพยาบาลนั้น..
กระดาษในมือของสิงหราช ได้ถูกเจ้าของมือนั้นขย้ำแบบจงใจ..เมื่ออ่านดูสิ่งที่เขียนอยู่ในนั้นจนแน่ชัดแล้วว่า...
ถ้าใครตั้งใจฟังคงจะได้ยินเสียงที่เขากัดฟันไว้แน่น ..ดวงตาคมเริ่มแดงกล่ำขึ้นมาจนเห็นได้ชัด
"เสี่ยครับ" ลูกน้องพร้อมที่จะรับคำสั่ง
"พวกมึงไม่ต้องทำอะไร เดี๋ยวกูจัดการเอง"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไฟแค้น