"พี่สิงห์.. ไปไหนมาคะ" พออัจฉราภรณ์รู้ว่าเป็นใครที่เปิดประตูเข้ามา ก็รีบเดินเข้าไปควงแขน เหมือนกับแสดงความเป็นเจ้าของในตัวเขา
"ออกไปทำธุระนิดหน่อยครับ"
"แล้วคุณหมอว่ายังไงบ้างล่ะลูก..เกี่ยวกับอาการของคุณน้า"
"คงต้องอยู่โรงพยาบาลอีกนานครับ และค่าใช้จ่ายคงจะบานตะไทเลยแหละ" ประโยคหลังเขาจงใจพูดให้ใครบางคนได้ยิน
..ค่าใช้จ่าย นี่เราลืมไปได้ยังไง ตอนนี้ค่ารักษาของแม่จะปาเขาไปกี่ล้านแล้ว หญิงสาวลอบถอนหายใจ แต่ก็ไม่ได้หันไปมองคนที่กำลังพูด
"ไหนลูกบอกว่า.." แม่เริ่มจะสงสัยกับคำพูดของลูกชาย
"ผมว่าคุณแม่กับคุณฟ้ากลับไปก่อนดีกว่าครับ คุณน้าคงต้องการพักผ่อนแล้ว" เขาต้องรีบชิงพูด ก่อนที่แม่จะพูดอะไรขึ้นมามากกว่านี้
"แต่แม่ว่า" สุดาคิดว่าจะมาเฝ้าเพื่อนรัก และคืนนี้อาจจะนอนค้างที่นี่ด้วย
"เดี๋ยวคุณหมอจะเข้ามาดูอาการของคุณน้าแล้ว..เชิญคุณแม่กับคุณฟ้ากลับตอนนี้เลย" ชายหนุ่มพยายามผลักดันให้ทั้งสองออกจากห้องไปก่อน เพราะสิ่งที่เขาจะจัดการ..ให้ใครได้ยินด้วยไม่ได้
"ถ้ามีอะไรก็โทรกลับไปหาแม่นะ"
"แต่ฟ้าว่าจะชวนคุณไปทานข้าว" ยังไม่ได้พูดอะไรมากไปกว่านั้น พวกลูกน้องก็มาเชิญ ตัวของทั้งสองออกจากห้องไปก่อน
พอทางสะดวกหมอก็เข้ามา..
"แม่ฉันเป็นอะไรคะคุณหมอ" อัปสรสุดาเห็นว่าคุณหมอตรวจนั่นเช็คนี่
"เราไปคุยกันข้างนอกดีกว่าครับ"
หญิงสาวก็เลยเดินตามหลังคุณหมอออกไป ..ส่วนสิงหราชเดินนำหน้าไปก่อนแล้ว
"อะไรนะคะ" สายตางามตวัดมองมาที่ผู้ชายอีกคนเมื่อได้ยินสิ่งที่หมอพูด "คือฉัน.." แล้วหญิงสาวก็หันกลับไปพูดกับหมออีกครั้ง
"ถ้าคนไข้ยังได้รับการรักษาแบบต่อเนื่อง อีกไม่นานคงจะอาการดีขึ้นถึงขั้นกลับบ้านได้เลย แต่เงินค่ารักษาในส่วนนี้อาจจะสูงหน่อย ทางญาติสู้ไหวไหม" ประโยคนี้คุณหมอหันไปพูดกับชายหนุ่มที่ยืนอยู่ข้างเธอ
"คุณหมอคุยกับลูกสาวของท่านได้เลยครับ"
"คือ..ฉัน" ใบหน้าที่เปี่ยมไปด้วยความหวังเริ่มหมองลง.. เพราะเธอคิดว่าจะไม่มีเรื่องอะไรอีกแล้ว "ฉันขอเวลาก่อนได้ไหมคะเดี๋ยวจะไปแจ้งอีกที"
"ได้สิครับ แต่อย่านานนะ เพราะเราจะได้เริ่มรักษาคนไข้เลย" จบคำพูดหมอก็ขอตัว
พอหมอเดินไปแล้ว สิงหราชก็เดินตามไป
"คุณ.." หญิงสาวรีบเรียกเขาไว้ก่อน เพราะตอนนี้เธอไม่เห็นใครแล้วที่จะช่วยเรื่องนี้ได้
ชายหนุ่มแกล้งไม่ได้ยินยังเดินต่อไป
"คุณรอก่อนสิ" คนตัวเล็กรีบเดินตามให้ทัน แต่ขาของเขาก็ยาว จนเธอต้องได้เดินแกมวิ่ง
"คุณเรียกผมเหรอ" เขาพูดพร้อมกับมองซ้ายมองขวา ดูว่าเธอเรียกใครกันแน่
"ก็มีอยู่แค่สองคนฉันจะเรียกใครล่ะ"
"เรียกผมทำไม"
"คุณก็ได้ยินเรื่องที่คุณหมอพูดเมื่อกี้แล้ว ฉันอยากให้คุณช่วย"
"ช่วยเรื่องอะไร"
"เรื่องค่าใช้จ่าย" เสียงของเธอเบาลง
"คุณเห็นผมเป็นสถานสงเคราะห์หรือไง ที่ผ่านมาคุณคิดว่าผมยังหมดเยอะไม่พออีกเหรอ"
"ฉันขอร้องนะคะ"
แต่ตอนนี้เธอไม่มีทางเลือกอื่นอีกแล้ว หญิงสาวจำเป็นต้องได้ตกลง เพราะเขาบอกว่าจะจัดการเรื่องแม่ให้ด้วย
หนึ่งชั่วโมงผ่านไป
"แล้วก็บอกให้แม่กลับบ้าน พอกลับไปไม่นานก็ให้คนไปรับมา อะไรของแกเนี่ยตาสิงห์"
"ฝากแม่ดูแลคุณน้าต่อด้วยนะครับ"
"แล้วหนูน้องไปไหน" สุดามองหาอัปสรสุดา และหลานตัวน้อยๆ ก็ไม่เห็นอยู่ในห้องนี้
"เธอคงจะไม่อยู่สักพัก" แล้วชายหนุ่มก็ให้เหตุผลแม่ไว้ ถึงแม้ว่าจะมีโกหกบ้าง แต่เรื่องนี้เขาต้องจัดการให้ได้
คฤหาสน์หลังใหญ่โตของสิงหราช
ที่ชายหนุ่มต้องให้แม่ไปอยู่ที่โรงพยาบาล ก็เพราะว่าถ้าแม่อยู่ที่บ้านหลังนี้ เขาคงจะจัดการกับผู้หญิงดื้อแบบเธอลำบากแน่
"แมะ" เด็กน้อยไม่รู้เรื่องอะไรพอเข้ามาถึงด้านในก็ดิ้นลงจากวงแขนของผู้เป็นแม่อย่างเดียว
"หมาน้อยจะดื้อไม่ได้นะลูก!!"
ชายหนุ่มที่เพิ่งเดินเข้ามาก็ขัดใจกับชื่อนี้มาก
"ไม่มีชื่อที่จะตั้งให้ลูกแล้วหรือไง คนบ้าอะไรตั้งชื่อลูกว่าหมาน้อย" เขาอยากจะพูดคำนี้มานานแล้ว ตั้งแต่ได้ยินที่เธอเรียกชื่อลูก ทีแรกคิดว่าเรียกเล่นๆ พอสืบไปสืบมาลูกชายของเธอชื่อหมาน้อยจริง
"ฉันจะตั้งยังไงก็ได้นี่มันลูกของฉัน" เธอพูดพร้อมกับมองกวาดไปทั่วบ้าน ทำไมบ้านของเขาถึงเงียบจัง
และเขาก็มองตามสายตาเธอ จนสายตาของทั้งสองมาหยุดอยู่ที่ เดียวกัน..นั้นก็คือหมาน้อย ที่กำลังรื้อของ
"แม่บอกอย่าดื้อไงหมาน้อย!!"
"หึ..เหมือนโดนหลอกด่ายังไงไม่รู้" ชายหนุ่มพูดออกมาเบาๆ จะขำก็ขำไม่ออก ..หมาน้อยงั้นเหรอ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไฟแค้น