หลายวันต่อมา..
ทางกรมตำรวจจับได้ว่าวันงานเลี้ยงดัมมี่ได้ทำผิด เพราะกล้องวงจรปิดจับได้ว่าเขาเข้าห้องไปกับพนักงานของโรงแรมนานจนผิดสังเกต
และพนักงานคนนั้นเดินโซซัดโซเซออกมาเหมือนถูกล่วงละเมิดทางเพศ
ดัมมี่ก็เลยถูกตรวจสอบ และผลออกมา..ก็คือว่าเขาผิดจริง
ที่จริงถ้าเขาไม่ไปขัดแข้งขัดขาใครเข้า ก็ไม่มีใครตรวจสอบเรื่องนี้ แต่ด้วยความที่เขาเป็นที่รักของท่านผู้กำกับก็เลยมีคนที่ไม่ชอบหน้า
โรงแรมที่จัดงานเลี้ยงวันนั้น..
พอข่าวนี้แพร่กระจายออกไป.. เมรีก็ถูกจับตามอง และเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ของเพื่อนร่วมงาน
ที่จริงเธอไม่ได้ถูกไล่ออก ..เพราะความผิดไม่ได้หนักหนาอะไร แต่ตอนนี้กลับมีประเด็นใหม่ขึ้นมา..ว่าเธอยอมพลีกายให้กับข้าราชการระดับสูง เพื่ออยากจะเลื่อนขั้นตัวเอง
"อะไรนะคะ" มีเจ้าหน้าที่เข้ามาขอพบหญิงสาวที่ทำงาน และแจ้งบอกว่าให้เธอไปให้ปากคำที่สถานีตำรวจ "ขอโทษค่ะฉันไปไม่ได้" หญิงสาวตอบออกไปทันทีที่เข้าใจความหมาย
"เมรี!" ผู้จัดการกลัวว่าเมรีจะก่อเรื่องขึ้นอีก ก็เลยเข้ามาตักเตือน..และให้คำมั่นเหมาะว่า พรุ่งนี้เมรีจะไปที่สถานีตำรวจ
เพื่อนหลายคนมองแบบยิ้มเยาะเย้ย คิดว่าเธอคงจะเจอแน่ เพราะนายตำรวจใหญ่คนนั้นมีแฟนสาวเป็นถึงลูกสาวของผู้กำกับ
เมรีคิดว่าเรื่องคงจะจบลงไปแล้ว เธอกับเขาคงจะไม่ต้องได้เจอหน้ากันอีก แต่ทำไมถึงเป็นแบบนี้ หญิงสาวเหนื่อยใจมาก เพราะเธอจำเป็นต้องได้ไปให้ปากคำ ในฐานะผู้เสียหาย ทั้งๆ ที่เธอไม่ได้แจ้งความเอาผิดอะไร
"อย่าก่อเรื่องให้โรงแรมอีกแล้วกัน ถ้าไม่งั้นใครก็ช่วยไม่ได้นะพี่ไม่เอาไว้แน่"
เย็นวันเดียวกันที่บ้าน..
"ค่าเช่าบ้านมาแล้วนะ ถ้ามีเงินก็ช่วยกันจ่ายหน่อย" มันคือเสียงพี่สะใภ้ เพราะเมรีมาพักอาศัยอยู่กับพี่ชาย ทั้งสองไม่มีญาติที่ไหน พ่อแม่ก็เสียไปแล้ว และพี่ชายก็มีครอบครัวและมีลูกเป็นของตัวเอง
"ฉันรอเงินเดือนออกเดี๋ยวช่วยค่ะ" เงินแต่ละเดือนก็ไม่ใช่จะมากมายอะไร แทบจะใช้เดือนชนเดือน เพราะค่ากินค่าอยู่ ค่าเดินทาง และอะไรอีกจิปาถะ เพราะเธอก็คือมนุษย์เงินเดือนคนหนึ่ง
"อย่าแกล้งทำเป็นลืมแล้วกัน" พี่สะใภ้ก็ปากจัดใช้เล่น กลัวแต่ว่าน้องสามีจะมาอยู่กินฟรี ทั้งๆ ที่เธอก็ช่วยทุกเดือน แต่ช้าหน่อยเพราะกว่าเงินเดือนออก
บ้านหลังนี้มีสองห้องนอน เธอเป็นผู้อาศัย ก็เลยต้องได้นอนด้านนอก เพราะอีกห้องก็คือห้องของหลาน
บางวันถ้าร้อนหน่อยหญิงสาวก็ออกมากางมุ้งนอนระเบียงหน้าบ้าน..บ้านหลังนี้เป็นบ้านปูนชั้นเดียว ระเบียงหน้าบ้านเกือบจะติดกับถนน ..มีรั้วไม้เก่าๆ ล้อมรอบ
อย่างเช่นคืนนี้ เธอก็ออกมากางมุ้งนอนด้านนอก ..ในห้องนอนของพวกเขามีแอร์ แต่ตรงที่เป็นห้องโถงที่เธอใช้นอนอบอ้าวมาก พอได้ออกมานอนด้านนอกก็เย็นสบาย มีลมพัดโชยตลอด
ทำไมชีวิตของเราถึงไม่โรยด้วยกลีบกุหลาบเหมือนคนอื่นบ้าง ..แต่พอคิดถึงว่าคนอื่นเจอหนักกว่าเธออีก..ก็มีกำลังใจที่จะสู้ขึ้นมาหน่อย
เช้าวันต่อมา..
เมรีต้องได้รีบตื่นแล้วเก็บที่นอนเข้าไปไว้ด้านใน เพราะถ้ารอให้พี่สะใภ้ตื่นก่อน ก็คงต้องถูกบ่นอีกแน่ว่าทำเกะกะทางเดิน
หญิงสาวอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ก่อนออกจากบ้านยังลอบถอนหายใจ เพราะเธอต้องได้ไปที่โรงพักก่อน
คนตัวเล็กเดินออกมารอรถเมล์ที่หน้าปากซอย
สถานีตำรวจ..
พอมาลงรถเมล์ที่หน้าสถานีตำรวจ เธอก็เดินเข้าไปแบบไม่ค่อยมั่นใจ ..นี่ตกลงเธอเป็นผู้เสียหายหรืออะไรกันแน่ เพราะเหมือนกับถูกบังคับให้มามากกว่า
พอหญิงสาวเข้ามาด้านใน ก็เป็นที่จับตามองของคนในนี้มาก
"คนนี้ใช่ไหม" เสียงคนที่อยู่ในนั้นถามกัน แต่ละคนใส่ชุดเครื่องแบบ ซึ่งเธอไม่ได้มองหรอกว่าพวกเขายศตำแหน่งอะไรกันบ้าง
"หนูคือพนักงานโรงแรมคนนั้นใช่ไหมครับ"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไฟแค้น