"ตอนนี้พักอยู่ที่ไหน" ที่จริงเขายังไม่ได้เตรียมคำพูดที่จะคุยกับเธอเลยด้วยซ้ำ และรู้สึกประมาทยังไงไม่รู้
"กับพี่ชาย" เมรีตอบออกไปโดยที่ยังหันหลังให้
"แล้วนอนอยู่ตรงไหนของบ้าน" จากที่ไม่มีเรื่องจะคุยตอนนี้เริ่มมีแล้ว.. เพราะถ้าพูดถึงบ้านของพี่ชาย..ดัมมี่รู้ดีว่าที่นั่นเป็นยังไง
บ้านหลังนั้นมีแค่สองห้องนอนและเจ้าของบ้านก็จองไปหมดแล้ว
"ระเบียงทางเข้าบ้าน" เธอพูดไปตามความจริง..ไม่ได้ต้องการให้เขาสงสารเลย
"ไม่รู้หรือไงว่าตรงนั้นมันอันตรายแค่ไหน"
คนตัวเล็กหันกลับมาด้วยแรงของอีกฝ่าย
"อันตรายแล้วไงคะท่านสารวัตร"
"ไปเก็บของ" จบคำพูดมือแกร่งจูงแขนของอีกฝ่ายให้เดินตามมาที่รถ..แต่หญิงสาวก็สะบัดออกอย่างแรง
"จะให้เก็บไปไหน"
"คุณอย่าลืมนะว่าตอนนี้สถานะของคุณคือภรรยาผม หรือคุณจะให้การเท็จ" คนหัวดื้อแบบเธอต้องเจอกฎหมายเข้าขู่ เพราะเธอเป็นคนให้การเองว่าเป็นภรรยาของเขา
"นี่คุณ!" ดวงตาดุดันได้มองอีกฝ่าย เธอคิดถูกหรือคิดผิดกันแน่ที่ช่วยเขาไว้
"หรือจะให้กลับไปบอกพวกท่านว่าคุณให้การเท็จดี"
"คนเลว!"
"ขอบคุณที่ชม"
"นี่!!" เมรีกำลังจะต่อว่ามากกว่านี้..แต่ด้านหลังของเขาเริ่มมีตำรวจเดินออกมา 2-3 คน เพราะตอนนี้ก็ใกล้เวลาจะเลิกงาน
นี่เธอวุ่นวายกับโรงพักนี้ตั้งแต่เช้าจนเย็นเลยเหรอ ข้าวเที่ยงก็ยังไม่ได้ทาน แต่โชคดีที่ตอนเช้าหาอะไรทานระหว่างทางที่มาแล้ว
"ท่านสารวัตรเบาได้เบาหน่อยนะ" ตำรวจในเครื่องแบบที่เดินผ่านไปพูดออกมาแบบไม่ค่อยจริงจังนัก
"เราไม่รู้กันเลยนะเนี่ย ถ้าไม่เกิดเรื่องนี้ขึ้นมาก่อน" แล้วพวกเพื่อนตำรวจก็หันไปคุยกัน เพราะแต่ก่อนดัมมี่ก็ประจำอยู่ที่สถานีตำรวจนี้แต่ไม่มีใครรู้เลยว่าเขามีภรรยาแล้ว
"จะยืนให้เขาแซวตรงนี้อีกนานไหม..ถ้ากลุ่มใหม่ออกมาหนักกว่านี้อีกนะ" พูดเหมือนจะขู่อีกนั่นแหละ
หญิงสาวมองคนตัวสูงแบบหน้าบึ้งตึง แต่จำเป็นต้องได้เดินตามไปที่รถ
"ขึ้น" ชายหนุ่มไม่พูดเปล่ายังเปิดประตู แล้วนำตัวเธอขึ้นไปนั่งด้านข้างคนขับ
"คุณจะไปไหน" ขับรถออกมาสักพักเธอก็เห็นว่าทางที่ไปคุ้นตามาก
"บ้านพี่คุณ"
"จอดตรงนี้แหละ ฉันกลับเองได้"
แต่ชายหนุ่มก็ไม่จอด เขายังขับรถต่อไปจนมาถึงจุดหมายปลายทาง
"รถใครมา" พี่สะใภ้เดินออกมาดู "ตำรวจมาทำไม" เห็นแค่ผู้ชายที่ใส่ชุดตำรวจลงจากรถมาก็ตกใจ แต่ไม่ได้ทำอะไรผิดทำไมต้องตกใจด้วย..มันเป็นสัญชาตญาณที่มีกันทุกคน
"หน้าคุ้นๆ" มองไปอีกทีเห็นน้องสาวของสามีลงจากรถมาด้วย..ก็ถึงบางอ้อ
"สวัสดีค่ะ คุณดัมมี่นั่นเอง" รีบเดินเข้ามาพูดเสียงอ่อนเสียงหวาน พร้อมกับยกมือไหว้ก่อน
"สวัสดีครับ" ชายหนุ่มไหว้กลับแบบเป็นมารยาท แต่ก็รู้ว่าพี่สะใภ้ของเธอนิสัยยังไง คำว่าปากหวานก้นเปรี้ยวยังเทียบไม่ได้กับผู้หญิงคนนี้
"ทำไมมาด้วยกันได้คะ ไหนเห็นบอกว่าเลิกกันไปแล้วไม่ใช่เหรอ" และคำนี้ก็ไม่น่าจะพูดออกมา..แต่ก็ออกมาจนได้
ตอนที่เมรีมาขออาศัยอยู่กับพี่ชาย พี่สะใภ้แอบฟังว่าคุยอะไรกับสามีของเธอบ้าง เพราะกลัวว่าน้องสาวของสามีจะแอบมาหยิบยืมเอาเงิน
พอจับใจความได้ก็แอบสมน้ำหน้า ที่ถูกผู้ชายทิ้ง
"ปากไม่เคยพัฒนา" เมรีพูดออกมาเบาๆ เพราะไม่ชอบคำพูดของพี่สะใภ้เอามากๆ
ถึงแม้จะพูดเบาแค่ไหนดัมมี่ก็ยังได้ยิน.. แค่ดูหน้าตาก็รู้แล้วว่าเธอคงไม่มีความสุขหรอกที่อยู่ตรงนี้
"ผมจะมารับเมรีไปอยู่ด้วย เห็นว่าที่นี่ให้เธอนอนนอกบ้าน..จริงไหมครับ" ประโยคสุดท้ายชายหนุ่มเน้นเสียงมาก
"ไม่จริงเลยค่ะ พี่จะกล้าให้น้องเมย์นอนนอกบ้านได้ยังไง เข้าไปดูสิคะ จัดเตรียมที่นอนไว้ให้ด้านในอย่างดีเลย" หน้าพี่สะใภ้ของเธอถึงกับเปลี่ยนสี
ทำไมเขาจะดูไม่ออกว่าพี่สะใภ้ของเธอไม่มีความจริงใจให้เลย และดัมมี่ก็แอบตำหนิตัวเองที่ยอมปล่อยมือเธอง่ายไป เขาน่าจะหนักแน่นยิ่งกว่านี้
สายตาชายหนุ่มมองไปดูระเบียงหน้าบ้าน ที่ที่เธอใช้นอน พี่ชายปล่อยให้น้องสาวออกมานอนแบบนี้ได้ยังไง
"คุณเข้าไปเก็บของก่อนเลย.."
"ฉันไม่.." หญิงสาวกำลังจะปฏิเสธ พอมองไปดูหน้าพี่สะใภ้รู้สึกเกลียดขึ้นมา เพราะถ้าเธอขืนยังอยู่ที่นี่ต่อไป คงจะมีคำพูดถากถางแน่
"ถ้าจะย้ายไปจากที่นี่อย่าลืมเรื่องที่พูดกันไว้นะจ๊ะน้องเมย์" กลัวอย่างเดียวคือกลัวไม่ได้ค่าเช่า ที่เมรีบอกว่าจะช่วยออก
"เรื่องอะไร" ดัมมี่หันมาถามคนตัวเล็ก
"เปล่า" ขาเรียวรีบก้าวเดินเข้าไปในบ้าน ..พี่สะใภ้เธอจะทำให้หน้าแตกไปถึงไหน คนอะไรกลัวแต่ไม่ได้เงิน..หญิงสาวได้แต่คิดตำหนิพี่สะใภ้อยู่ในใจ
พอเก็บของเสร็จดัมมี่ก็มาช่วยยกออกไปที่รถ
"ขอบคุณนะคะคุณตำรวจสุดหล่อ" ก่อนจะออกมาพี่สะใภ้ของเธอมีท่าทางแปลกๆ
แต่เมรีก็ไม่ได้สอบถามอะไร เพราะเธอยังไม่อยากจะพูดคุยกับเขาในตอนนี้
ขับรถออกมานานพอสมควรก็มาถึง..
"คุณกลับมาที่นี่ทำไม" ทีแรกว่าจะไม่พูดด้วยแล้ว แต่เห็นเขาเลี้ยวรถเข้ามาในสถานีตำรวจก็เลยต้องได้ถาม
"ผมพักอยู่ที่นี่"
"บ้านพักตำรวจเหรอ" เธอเคยมีสามีเป็นตำรวจก็จริง แต่ก็ไม่เคยเข้ามาอยู่ในสถานที่แบบนี้ รถของเขาวิ่งผ่านไป หลายคนก็มองตาม เพราะถนนเส้นที่เขาพาเข้ามามันเป็นบ้านพักของตำรวจ
"คุณๆ" เมรีรีบคว้าตัวดัมมี่ไว้ก่อนที่จะลงจากรถ
ชายหนุ่มที่กำลังจะก้าวลงถึงกับกลับเข้ามานั่งประจำที่คนขับใหม่อีกครั้ง "มีอะไร"
"ทำไมคุณไม่บอกว่าจะพามาที่นี่" หญิงสาวถามด้วยแววตาที่ตื่นตกใจ
"ไม่บอกก็เห็นแล้วไม่ใช่เหรอว่าพามาที่ไหน" จบคำพูดดัมมี่ก็ลงรถใหม่อีกครั้ง ทีแรกคิดว่าเธอเป็นอะไร..ชายหนุ่มถึงกับส่ายหน้ากับท่าทางที่ตกใจของเธอ
คนร่างหนาเดินมาเอาของลงจากกระโปรงหลังรถ แต่เธอก็ยังไม่ยอมลงมาด้วย เขาก็เลยเดินอ้อมมาเปิดประตูให้
"ลงมา"
"ไม่"
"พี่ดัมมี่คะ" เสียงของใครบางคนเรียกอยู่บ้านอีกหลังที่ไม่ไกลกัน
ถึงแม้เขาจะยังไม่หันไปมองก็รู้แล้วว่าเป็นเสียงของใคร
"ครับ" และชายหนุ่มจำเป็นต้องได้หันไปพูดด้วย
"ขนอะไรมาคะ ทำไมเยอะขนาดนั้น" มันคือเสียงนกเอี้ยง เพราะไม่เห็นว่ามีใครนั่งรถมากับเขา
เมรีก้าวลงรถทันทีที่ได้ยินเสียงผู้หญิงคนนั้น..
"......" นกเอี้ยงมองมาที่ผู้หญิงอีกคนแบบไม่พอใจเอามากๆ
"เอาแล้วไงจ่า จะมีศึกแย่งผู้ชายไหมเนี่ย"
"หมวดคิดว่าไงล่ะครับ" บ้านที่อยู่ฝั่งตรงข้าม ก็แอบมองดูสถานการณ์
"แล้วผู้กองล่ะครับว่าไง" จ่ากับหมวดหันไปพูดกับผู้กอง ที่นั่งอยู่ในวงเดียวกัน
"เรื่องของชาวบ้าน..รู้ดีนัก" ว่าให้ทั้งสองแต่ตัวเองก็แอบลุ้นอยู่เหมือนกัน
"ขอตัวนะครับ" ดัมมี่พูดกับนกเอี้ยงแต่สายตามองตามผู้หญิงที่กำลังเดินเข้าบ้านพักตำรวจที่เขาอาศัยอยู่
ของที่เอาลงจากท้ายรถได้ถูกชายหนุ่มขนย้ายเข้ามาไว้ด้านในเป็นที่เรียบร้อย
"ทำไมฉันต้องมาอยู่กับคุณด้วย"
"อยากรู้จริงเหรอว่าทำไม..ข้อที่หนึ่ง"
"พอแล้วไม่รู้ก็ได้" เมรีรู้ดีว่าเขาจะอ้างเรื่องนั้นขึ้นมาพูด "แล้วคุณจะให้ฉันนอนที่ไหน"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไฟแค้น