หญิงสาวออกจากห้องมาก็ตรงเข้าห้องน้ำ เพื่อที่จะชำระร่างกายก่อนไปทำงาน เมรีใช้วิธีหอบเสื้อผ้าที่ต้องการจะใส่เข้าห้องน้ำทั้งหมด..อาบน้ำเปลี่ยนเสร็จก็ออกมา
"ขอโทษค่ะรอนานเลยใช่ไหมคะ" พอออกมาก็เจอว่าหมวดประยุทธ์ยืนรอใช้ห้องน้ำต่อ
"ไม่เป็นไรครับทนได้" บ้านข้าราชการเป็นบ้านที่ไม่หรูหรา สองห้องนอนก็จริงแต่มีแค่ห้องน้ำเดียว
ดัมมี่ได้ยินเสียงเธอคุยกับประยุทธ์อยู่ด้านนอกก็รีบออกมา
"ทีหลังถ้าห้องน้ำไม่ว่างก็ไปขอใช้บ้านหลังอื่น หรือไม่งั้นก็ไปใช้ในโรงพัก" แทนที่จะตำหนิคนที่ใช้ห้องน้ำนาน.. แต่กลับมาตำหนิคนที่ยืนรอใช้ห้องน้ำ
"ครับ" ตอบรับแบบหนักแน่นเหมือนอยู่ในหน้าที่ ปวดท้องก็ปวดแถมยังโดนเล่นแต่เช้า
ส่วนเมรีกลับเข้าห้องเพื่อที่จะเก็บเสื้อผ้าพวกที่ใช้แล้วรอซักตอนกลับมาจากที่ทำงาน
"จะไปทำงานเหรอ" ดัมมี่เห็นว่าเธอสวมชุดของทางโรงแรม
เมรีไม่ตอบ เธอเดินตรงออกมาที่หน้าบ้าน
"เดี๋ยวจะไปส่ง" ชายหนุ่มรีบกลับเข้าไปเอากุญแจรถเพื่อที่จะไปส่งเธอที่โรงแรม แต่พอออกมาหญิงสาวเดินออกไปแล้ว
[โรงแรม]
นั่งรถประจำทางมาถึงที่หน้าโรงแรม ก็ตรงเข้าไปที่ห้องอาหาร
"เป็นไงบ้างเรื่องที่โรงพัก" ที่ผู้จัดการถามเพราะเห็นเธอหายไปทั้งวัน
"ยังไม่เรียบร้อยเท่าไรค่ะ" ตอบออกไปแบบไม่กล้าสบตาใคร เพราะเรื่องนั้นมันไม่ได้น่าภูมิใจอะไรเลย ถึงแม้ว่าเธอจะเป็นผู้เสียหาย แต่ในสายตาของพวกเพื่อนร่วมงานกลับไม่เป็นแบบนั้น ..คงจะเยาะเย้ยสมน้ำหน้า
เพราะการแข่งขันมันสูง ถ้าเธอกระเด็นออกจากตำแหน่ง ยังมีอีกหลายคนที่รอเสียบ
ลูกค้าเริ่มทยอยกันเข้ามาทานข้าว ทุกคนต้องช่วยกัน ไม่ว่าจะเป็นผู้จัดการหรือรองผู้จัดการ ต้องต้อนรับลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการในห้องอาหารของโรงแรม
"ผู้หญิงคนนั้นหน้าคุ้นๆ นะ" เพียงไม่นานผู้หญิงที่หน้าคุ้นตาก็เดินเข้ามาพร้อมกับเพื่อนกลุ่มหนึ่ง
"ฉันจำได้แล้ว ก็ลูกสาวท่านผู้กำกับที่มางานเลี้ยงคืนนั้นไง"
"อ้อ..แฟนของท่านสารวัตร คนที่รองผู้จัดการเราหิ้วเอาไปฟันน่ะเหรอ" เสียงซุบซิบนินทาก็เริ่มขึ้น ทั้งๆ ที่มันเงียบมาตลอดทั้งเช้า
เวลาผ่านไปเพียงไม่นาน..
"ขอโทษค่ะ! ฉันกับเพื่อนมานั่งรอนานแล้ว จะกินวันนี้ค่ะไม่ได้กินพรุ่งนี้" นั่งรอยังไม่ถึงสิบนาทีก็เริ่มโวยวาย
"ทางเราส่งออเดอร์ให้กับพ่อครัวแล้วค่ะ คงจะกำลังดำเนินการอยู่" รองผู้จัดการต้องรีบมาอธิบายให้ลูกค้าเข้าใจ
และมันยิ่งเข้าทางของคนกลุ่มนี้
"โรงแรมอื่นไม่เห็นต้องให้รอนานขนาดนี้เลย หรือพวกคุณไม่ใส่ใจในลูกค้าคะ อ้อ..อาจจะเป็นแค่ฉันก็ได้มั้งที่พวกคุณเห็นว่าไม่ต้องใส่ใจก็ได้" นกเอี้ยงโวยวายหนักขึ้น และเป็นที่จับตามองของลูกค้าเกือบทุกโต๊ะ
"ลูกค้าโต๊ะอื่นมาก่อน..ทางเราต้องทำตามคิวค่ะ" เมรีพยายามจะอธิบายให้เข้าใจ
"คุณหมายความว่าฉันมาช้า? อ๋อ..จะให้ฉันมาตั้งแต่ไก่โห่เลยเหรอคะ!"
เพล้ง!!
"โอ้ย!" นกเอี้ยงแกล้งโวยวายหนักแล้วลุกขึ้นทำน้ำดื่มที่พนักงานบริการก่อนหน้านั้นตก "เจ็บ" แก้วน้ำที่หล่นลงไปแตกกระจาย เศษแก้วโดนขามีรอยแผลนิดหนึ่ง
"คุณเป็นอะไรไหมคะ" เมรีก็ตกใจไม่แพ้กัน แก้วที่ตกลงแตกไม่ได้ถูกแค่นกเอี้ยง เศษยังกระเด็นมาถูกขาเธอด้วย แต่หญิงสาวก็ไม่ได้ใส่ใจขาตัวเอง
"เกิดอะไรขึ้น" พอเริ่มวุ่นวายหนักขึ้นผู้จัดการก็รีบเข้ามา
"ฉันอยากจะคุยกับใครก็ได้ที่สามารถตัดสินใจเรื่องนี้ได้!"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไฟแค้น