ไฟแค้น นิยาย บท 53

แอดดด~ ขณะที่ครอบครัวกำลัง เริ่มจะทะเลาะกัน เพราะเรื่องของน้องสามี ทันใดนั้นประตูหน้าบ้านก็ได้เปิดเข้ามา

"ผมไม่คิดเลยว่าพวกคุณจะคิดแบบนี้กับภรรยาของผม"

เมรีนั่งไม่พูดไม่จา เพราะไม่รู้จะเอายังไงกับชีวิตต่อดี..พอได้ยินเสียงเธอก็มองไป

"ผมมารับคุณกลับ" ชายหนุ่มเดินเข้ามาจูงเอามือของเธอให้ลุกขึ้น

"ที่คุณได้ยินมันไม่จริงเลยนะคะ ฉันเป็นห่วงน้องเมย์มากต่างหาก กลัวว่าคุณจะทิ้งขว้างน้องสาวของฉัน" พี่สะใภ้เริ่มหน้าเปลี่ยนสี เพราะไม่คิดว่าสามีของเธอจะได้ยิน

"แต่ที่ผมได้ยินมาตั้งแต่ต้น มันไม่เป็นแบบนั้น" ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้ยินมาตั้งแต่ต้นตามที่พูดมา แต่ด้วยหน้าที่การงานของเขา แค่มองตา..ก็รู้ไปถึงไส้พุงว่ามีกี่ขด

"พี่พูดอะไรหน่อยสิ" พี่สะใภ้เริ่มเสียวสันหลัง หันมาหาผู้เป็นสามีให้แก้ต่าง

"อยากปากดีนักเห็นไหม" แต่สามีกลับไม่ช่วย

มือหนาจูงคนตัวเล็กให้ออกจากบ้านหลังนั้นมา..

"ปล่อยก่อนค่ะ" พอออกมาถึงหน้าบ้านเธอก็ขอให้เขาปล่อยมือ

"ยังจะกลับไปให้พวกนั้นโขกสับอีกเหรอ"

"เปล่า..ฉันจะเอาเงินให้เขา"

"เงินอะไร"

"เงินที่บอกว่าจะออกค่าเช่าบ้านช่วย"

"พี่สะใภ้คุณไม่บอกเหรอว่าผมเอาให้แล้ว"

"อะไรนะคะ"

"วันนั้นผมคิดว่าให้ไปมากพอแล้วนะ" วันที่เข้ามารับเธอ เขาให้เงินสดพี่สะใภ้ไปเกือบทั้งกระเป๋า ซึ่งตอนนั้นเธอมัวแต่เก็บของก็เลยไม่รู้เรื่องอะไร ส่วนพี่สะใภ้พอได้เงินก็เงียบ

เมรียอมขึ้นรถกลับมากับเขา..เพียงไม่นานรถก็ขับมาถึงบ้านพัก

"เก็บของเสร็จก็นอนพักสะ" เขาถือกระเป๋าเข้ามาส่งที่ในห้องนอนแล้วก็ออกไป

เช้าวันต่อมา..

"คุณเก็บของจะไปไหนคะ" เมรีกำลังจะไปเข้าห้องน้ำ แต่เห็นตำรวจที่พักอยู่ข้างห้องเก็บของออกมา

"พอดีผมได้บ้านพักแล้วครับ" จบคำพูดผู้หมวดประยุทธก็หิ้วกระเป๋าออกจากบ้านหลังนั้นไป

ที่จริงดัมมี่ให้ประยุทธ์ย้ายไปอยู่บ้านอีกหลัง เพราะเขาอยากจะให้เธอเป็นส่วนตัวในบ้านหลังนี้ เวลาทำอะไรจะได้สะดวกหน่อย

พอเสร็จธุระจากห้องน้ำออกมาก็เห็นว่าเขากำลังเตรียมอาหาร

"มาทานข้าวก่อน"

"ฉันยังไม่หิว"

"ไม่หิวก็ต้องกิน"

วันนี้อาหารที่ดัมมี่เตรียม มีทั้งผักผลไม้มาครบ..แถมยังมีนม

เมรีทานเกือบไม่มีอะไรเหลือ นี่ขนาดไม่หิวนะ ถ้าหิวคงกินทั้งถ้วยชาม

หญิงสาวเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อที่จะออกมาทำงาน ..พอเดินออกมาก็เจอว่าเขาจอดรถรออยู่แล้ว

"สารวัตรจะไปไหนแต่เช้าคะ" นกเอี้ยงซึ่งอยู่ในชุดออกกำลังกายที่เซ็กซี่ล่อตาล่อใจมาก แกล้งหยุดถามเพราะเห็นเมรีกำลังเดินออกมา

"จะไปส่งภรรยาที่ทำงานครับ" ชายหนุ่มตอบออกไปแบบไม่อ้อมค้อมและไม่เก็บงำ จนทำให้คนที่ถามไปไม่เป็น

[โรงแรม]

"ตอนเย็นพี่จะมารับ"

"ฉันกลับเองได้" จบคำพูดหญิงสาวกำลังจะเปิดประตูลง..แต่ดัมมี่ออกตัวรถไปก่อน

"คุณจะบ้าหรือไง!" เมรีตกใจเกาะรถไว้เกือบไม่ทัน

"ถ้าไม่ให้มารับก็ไม่ต้องทำงาน" เขารู้วิธีจัดการกับผู้หญิงดื้อแบบเธอดี

"มารับก็มารับสิ! จอดรถเดี๋ยวนี่นะ!!"

มุมปากสารวัตรดัมมี่ยกยิ้มขึ้นแบบผู้ชนะ..ทันใดนั้นเขาก็เลี้ยวรถกลับมาจอดที่เดิม..

เที่ยงวันเดียวกันนั้น..

"ไหนสัญญากับแม่แล้วว่าจะไม่ซนไง!"

"เด็กผู้ชายก็ซนแบบนี้เป็นธรรมดา"

"คุณอย่าตามใจลูกมากนักสิ"

"ใครบอกผมตามใจ"

หญิงท้องแก่ใกล้คลอดตำหนิสามีที่กำลังวุ่นกับการวิ่งจับลูกชายรอบโต๊ะอาหาร

เพล้ง!

"หมาน้อย" ใช้แล้วครอบครัววุ่นวายนี้ก็คือครอบครัวของสิงหราชและอัปสรสุดา ซึ่งตอนนี้หมาน้อยหรือพยัคฆราชได้วิ่งชนเข้ากับพนักงานเสิร์ฟที่กำลังจะนำอาหารมาให้พวกเขา

"ขอโทษค่ะ" รองผู้จัดการรีบเข้ามาขอโทษขอโพยลูกค้าเป็นการใหญ่

"....?...." สิงหราชมองดูผู้หญิงคนนี้หน้าตาคุ้นมาก เขาเคยเห็นเธอที่ไหน พยายามนึกยังไงก็นึกไม่ออก

"งือออ" พยัคฆราชตกใจเสียง จนร้องไห้งอแงขึ้นมา

"ไม่ร้องนะครับคนเก่งของพ่อ" ชายหนุ่มทิ้งความสงสัยไว้ตรงนั้นก่อน เพราะต้องได้ปลอบใจลูกชาย

พอเก็บทำความสะอาดเสร็จเรียบร้อยต้องได้ นำอาหารชุดใหม่มาเสิร์ฟ

"ทางเราต้องขอโทษอีกครั้งด้วยนะคะ ก็เลยทำให้พวกคุณเสียเวลา" รองผู้จัดการกล่าวคำขอโทษลูกค้าอีกครั้ง

"ไม่ต้องขอโทษหรอกค่ะลูกชายฉันเป็นคนผิดเองที่ดื้อ"

เมรีโล่งใจไปเปลาะหนึ่ง ที่ผู้ปกครองเด็กเข้าใจ ว่าความผิดเกิดขึ้นจากลูกชายที่วิ่งซน แต่ถ้าเป็นครอบครัวอื่นที่งี่เง่า อาหารมื้อนี้พวกเธออาจจะได้เลี้ยงก็ได้

"คุณมัวมองอะไร" หญิงท้องแก่เริ่มตาเขียวใส่สามี ที่มัวแต่มองพนักงานของโรงแรม

"ไม่มีอะไรสักหน่อย แค่ผมสงสัยว่าทำไมถึงคุ้นหน้าผู้หญิงคนนี้จัง" สิงหราชต้องได้รีบอธิบายให้ภรรยาฟัง

"ก็เธอสวยไงคะ คุณถึงคุ้นหน้า"

"คุณหึงผมเหรอ"

"หึงสิ!"

ทานข้าวอยู่ไม่นานเขาต้องได้พากลับ เพราะลูกชายดื้อมาก

แต่ก่อนที่จะออกมาสิงหราชไม่ลืมที่จะมองหน้าผู้ช่วยผู้จัดการอีกครั้ง..มองยังไงก็คุ้นตามาก

เวลาเลิกงาน..

พอเธอออกมาจากโรงแรมก็เห็นรถของเขาจอดรออยู่ด้านหน้า

ดัมมี่รีบลงมาเปิดประตูรถให้ พวกเพื่อนๆ ที่กำลังทยอยกันออกมาต่างก็แอบมอง..ชายหนุ่มรูปงามที่อยู่ในเครื่องแบบ จอดรถรอแถมยังเปิดประตูรถให้..เป็นใครจะไม่มองล่ะ

"เหม็นอะไร" นั่งรถออกมาเพียงไม่นาน เธอก็เริ่มจะทนกลิ่นในรถไม่ไหว

"พี่แวะซื้อของสด กะว่าจะกลับไปทำอาหารเย็นให้กิน"

"แล้วคุณก็เอามาไว้ในรถเนี่ยนะ"

"ทุกครั้งก็เอาไว้ในรถ ไม่เห็นจะบ่น" ดัมมี่แอบพูดเบาๆ เพราะความเคยชิน ซื้อของทีไรชอบเอาวางไว้เบาะหลัง

พอคิดได้ชายหนุ่มรีบจอดรถ แล้วเปิดประตูให้กว้างเพื่อไล่กลิ่นออก

"ทำอะไร"

"จะเอาของไปไว้กระโปรงหลังรถ"

เมรีมองแบบสงสัย..บ้าหรือเปล่า เขาเคยเอาไว้เบาะหลังก็จริง แต่ไม่เคยจอดระหว่างทางเพื่อย้ายของไปไว้กระโปรงหลัง..ครั้งนี้มาแปลก

ขับรถเพียงไม่นานก็มาถึงบ้านพัก

"ทำอะไร" ในขณะที่ชายหนุ่มกำลังจัดเตรียมอาหารอยู่นั้น ก็เห็นเธอหิ้วตะกร้าผ้าเดินผ่าน

แต่หญิงสาวไม่ตอบ เธอเดินผ่านไปด้านหลังบ้าน ..ที่บ้านพักของเขาไม่มีเครื่องซักผ้า เพราะส่วนมากชายหนุ่มใช้บริการซักอบรีด หรือไม่ก็หยอดเหรียญ

"เอาตะกร้าผ้ามา เดี๋ยวพี่จัดการเอง" ดัมมี่วางสิ่งที่กำลังทำอยู่เดินเข้าไปหาเธอ

"ไม่!" เมรีพยายามแย่งตะกร้าผ้านั้นคืนมา ใครจะบ้าให้เขาเอาไปซักให้

พอได้ตะกร้าผ้า..คนร่างสูงก็ยกมันเดินมาที่เครื่องหยอดเหรียญ อยู่ไม่ไกลจากบ้านพักมากนัก เพราะตำรวจที่โสดส่วนมากจะมาใช้บริการที่นี่

พอมาถึงก็มีเพื่อนตำรวจ 2-3 คนกำลังยืนรอเครื่องซักผ้าที่กำลังทำงานอยู่

"ท่านสารวัตรมาซักผ้าเหมือนกันเหรอครับ"

"อืม" แล้วเขาก็จับผ้าในตะกร้าส่งลงเครื่องซักผ้าทีละชุด

ตำรวจที่ยืนอยู่แถวนั้นมองหน้ากันแล้วอมยิ้ม

"ซักผ้าให้เมียมันแปลกตรงไหน ยิ้มอยู่ได้"

"ปะ..เปล่าครับ"

ตัดไปอีกคู่..ดึกๆของคืนเดียวกันนั้น

"ผมจำได้แล้ว"

"ฉันตกใจหมดเลย..คุณจำอะไรได้คะ" อยู่ดีๆ สิงหราชก็พูดขึ้น จนทำให้ภรรยาที่กำลังจะหลับตกใจ

"ผมจำผู้หญิงที่อยู่ในโรงแรมได้แล้ว"

"คนไหน!" ตาสว่างทันทีที่ได้ยินสามีบอกว่าจำผู้หญิงได้

"คุณอย่าทำตาเขียวแบบนั้นสิ ผมเสียวนะ"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไฟแค้น