ไฟแค้น นิยาย บท 54

"คุณหมายถึงผู้หญิงคนไหน"

"คนที่สวยๆ นั่นไง" พอพูดคำนี้ออกมาแล้วถึงคิดได้ว่าไม่ควร "แต่สวยน้อยกว่าคุณนิดหนึ่ง" จะรอดไหมวะมึงไอ้สิงห์

"แล้วไงคะ" กัดฟันถามสามีต่อ

"ผมจำได้แล้วว่าเคยเห็นผู้หญิงคนนั้นที่ไหน"

"ที่ไหน"

"ก็เคยเห็นอยู่กับตำรวจคนนั้นไง"

"พี่ดัมมี่น่ะเหรอคะ"

"ใช่แล้ววันที่ไปทานข้าวกับ..เอ่อ" พอมาถึงตรงนี้เกือบหยุดไม่ทัน

"ไปทานข้าวกับใคร" ถามออกมาแบบเก็บอารมณ์มาก แต่คนฟังก็ยังเสียวอยู่ดี

"คุณอย่าโกรธนะแค่ไปทานข้าวกันเฉยๆ"

"ก็บอกมาสิคะว่าไปทานกับใคร"

"กับคุณฟ้าพี่สาวของคุณนั่นแหละ วันนั้นผมเห็นพี่ดัมมี่ของคุณไปทานข้าวกับผู้หญิงคนนี้ และได้ยินเขาบอกเลิกกันด้วย" วันนั้นสิงหราชยังแอบสะใจ ที่ดัมมี่ถูกผู้หญิงบอกเลิก..แต่พอมารู้ความจริงว่าดัมมี่ไม่ข้องเกี่ยวอะไรกับภรรยาของตัวเองถึงกับสำนึกผิดไม่ทัน

"จริงเหรอคะ" ที่แท้ผู้หญิงคนที่เธอขอให้นาฬิกาช่วยตามหาก็อยู่ใกล้ๆ นี่เองเหรอ "พรุ่งนี้คุณพาฉันไปที่โรงแรมนั้นอีกได้ไหมคะ"

"ได้สิจ๊ะ" สิงหราชรู้ดีว่าเธอไม่สบายใจ เรื่องที่ทำให้พี่ชายของเพื่อนต้องได้เลิกรากับภรรยา แต่เขาก็ช่วยเท่าที่ช่วยได้แล้ว

เช้าวันต่อมา..

"ผมรู้ว่าจะไปตอนเช้า แต่ทำไมต้องไปเช้าขนาดนี้ด้วย"

อัปสรสุดาปลุกสามีตั้งแต่ไก่โห่

"กว่าคุณจะตื่นมาแต่งหล่ออีก ก็พอดีเวลาเมียของพี่ดัมมี่เข้างาน"

"ผมหล่ออยู่แล้วไม่ต้องแต่งอะไรมากหรอก" ชายหนุ่มยันกายลุกขึ้นนั่งแบบงัวเงีย

"ก่อนที่จะคลอดลูก ฉันอยากจะแก้ไขเรื่องทุกอย่างให้เสร็จ"

"ก็ได้ครับ" ชายหนุ่มรีบเดินเข้าห้องน้ำทันที

บ้านพักข้าราชการตำรวจ..

"ทานข้าวก่อนนะค่อยไปทำงาน" ดัมมี่ตื่นมาทำกับข้าวแต่เช้า เพื่อเตรียมอาหารไว้ให้เธอก่อนออกไป

"ทำไมพี่ต้องทำแบบนี้ด้วย" เมรีกลัวว่าตัวเองจะเคยตัว เพราะเขาแทบไม่ให้เธอจับงานบ้านเลย

"พี่ว่างก็เลยทำให้ อย่าคิดอะไรมากนะ" เขารีบยกอาหารมาวางบนโต๊ะ "เดี๋ยวพี่ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน..จะได้ไปส่งเราที่ทำงานด้วย"

"วันนี้ฉันจะไปเอง"

"ทำไม"

"ถ้าคุณยังอยากให้ฉันอยู่บ้านหลังนี้เพื่อเล่นละครต่อไป อย่าเข้ามายุ่งกับชีวิตของฉันให้มากกว่านี้ เราไม่ได้เป็นอะไรกันแล้ว" เมรียังไม่นั่งเลยด้วยซ้ำ พูดจบเธอก็เดินออกมาเลย..ทิ้งให้ดัมมี่ได้แต่มองตาม

พอเธอออกไปแล้ว ชายหนุ่มได้แต่นั่งมองอาหารที่เตรียมให้เธอ กว่าจะได้แต่ละอย่างต้องเปิดเข้าไป search ดูใน Google

[โรงแรม]

หญิงสาวนั่งรถประจำทางมาลงที่ทำงาน ขาเรียวก้าวเดินกำลังจะเข้าไปในโรงแรมนั้น

"คุณเมรีคะ"

เมรีหยุดเมื่อได้ยินเสียงคนเรียกชื่อ..เธอหันกลับมาที่ต้นเสียง พอเห็นว่าเป็นใครที่เรียก ก็เลยมองซ้ายมองขวา เพราะไม่แน่ใจว่าผู้หญิงคนนั้นเรียกเธอไหม

"คุณชื่อเมรีใช่ไหมคะ" อัปสรสุดาถามเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง เพราะรู้ชื่อนี้มาจากนาฬิกา

"ใช่ค่ะ" ทำไมเมรีจะจำผู้หญิงท้องแก่คนนี้ไม่ได้ เพราะเพิ่งเจอกันเมื่อวานนี้เอง แต่ที่เธอสงสัยผู้หญิงคนนี้ทำไมถึงมาดักรอที่หน้าโรงแรมแบบนี้

"ฉันเป็นเพื่อนของนาฬิกาค่ะ คุณคงรู้จักนาใช่ไหมคะ"

"น้องสาวของคุณดัมมี่?" ดัมมี่พาเธอไปเจอญาติก็หลายครั้ง และคนชื่อนี้ในประเทศไทยมีไม่เยอะหรอก

"ใช่คุณจริงด้วย ฉันดีใจที่เจอคุณสักที"

"ดีใจที่เจอฉัน?" เมรีเริ่มงงหนักขึ้น ทำไมต้องมาดีใจที่เจอเธอด้วย

"ผมว่าเราไปหาที่นั่งคุยกันดีกว่าไหม" สิงหราชไม่อยากจะให้ภรรยายืนคุยนาน

เมรีเดินตามไปที่ห้อง VIP เพราะสิงหราชได้จองห้องไว้แล้ว ..เธอก็อยากรู้เหมือนกันว่าพวกเขาจะคุยอะไร

"เมื่อกี้คุณว่าอะไรนะคะ?!"

"คุณได้ยินไม่ผิดหรอกค่ะ เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นมันเกิดมาจากฉันเอง.. ที่ขอร้องให้พี่ดัมมี่ช่วยแกล้งเป็นพ่อของลูก เพราะตอนนั้นฉันมีเรื่องทะเลาะกับสามีอยู่" อัปสรสุดาก็เล่าเรื่องทั้งหมดให้เมรีฟัง เล่าแบบละเอียด เล่าทุกอย่างที่เมรีเข้าใจผิดมาโดยตลอด เล่าไปจนถึงวันที่เจอกับดัมมี่ ที่จังหวัดแถบชายแดน

สิงหราชก็นั่งฟังอยู่แบบนั้น.. เขาได้รู้เรื่องเกี่ยวกับเธออีกหลายเรื่อง ที่เธอไม่ได้เล่าให้ฟังมาก่อน

"หวังว่าคุณคงจะอภัยให้ฉันนะคะ ฉันไม่รู้ว่าพี่ดัมมี่เขามีภรรยาแล้ว"

..ถ้าเรื่องมันเป็นแบบที่ผู้หญิงคนนี้พูดมาจริง..เราจะทำยังไงดี เมรีได้แต่เฝ้าถามตัวเอง เพราะมันไม่ใช่เรื่องเล็กๆ เลย

"ผมขอรับผิดชอบเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น" หลังจากที่นั่งฟังผู้หญิงคุยกัน สิงหราชก็พูดขึ้นมาบ้าง

"หึ.. คุณจะรับผิดชอบยังไงคะ กับชีวิตครอบครัวหนึ่งที่ต้องพังลงไป.." หญิงสาวพูดออกมาได้แค่นี้เธอก็กลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่

"คุณต้องการอะไรบอกมาได้เลย"

"ต้องการอะไรงั้นเหรอ!"

ตุ้บ!! เมรีลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วตบลงที่โต๊ะอย่างแรง เพราะตอนนี้เธอควบคุมอารมณ์ไม่อยู่

"ฉันอยากเป็นผู้บริหารของโรงแรมนี้ คุณให้ฉันได้ไหมล่ะ!" จบคำพูดหญิงสาวก็เดินออกมาจากห้องนั้น เธอไม่สามารถที่จะหยุดน้ำตาที่มันไหลลงมาได้ จนคนที่เดินผ่านไปมามองดู

เมรียังทำงานปกติ ทั้งๆ ที่จิตใจของเธอไม่ปกติเลย หญิงสาวคิดมาทั้งวันว่าจะแก้ไขเรื่องที่เธอก่อขึ้นได้ยังไง

ทั้งๆ ที่เขาบอกว่าเขาไม่ได้เป็นอย่างที่ผู้หญิงคนนั้นกล่าวหามา แต่เธอก็เลือกที่จะเชื่อคนอื่นมากกว่าเชื่อคำพูดของเขา

หนูรู้ใช่ไหมลูกว่าพ่อไม่ผิด ขนาดหนูยังรู้เลยว่าพ่อไม่ผิด ทำไมแม่ถึงได้โง่แบบนี้ ..มือเรียวลูบท้องตัวเองเพื่อคุยกับลูกที่อยู่ในนั้น

หลังเลิกงาน.

พอออกมาถึงด้านนอก เธออดไม่ได้ที่จะมองที่ที่เขาเคยจอดรถรอรับ พอไม่เจอก็แอบผิดหวังอยู่บ้าง ..ใครจะกล้ามารับล่ะ เล่นพูดกับเขาแรงขนาดนั้น

พอรถประจำทางมาจอดที่หน้าสำนักงานตำรวจหญิงสาวก็เดินเข้าไป ในโซนของบ้านพักข้าราชการ

เข้ามาถึงด้านในก็ไม่เจอเขาอยู่ในบ้าน

"ไปไหนของเขา.." ตอนที่เข้ามาก็ไม่เจอตำรวจ นั่งอยู่ที่โต๊ะด้านหน้าสักคน หรือวันนี้มีงานด่วนอะไร

หญิงสาวก็เลยเดินออกมาดูเผื่อว่าจะถามใครได้

"สวัสดีค่ะ วันนี้พวกพี่ๆตำรวจไปไหนกันหมดคะ" หญิงสาวถามบ้านที่อยู่ไม่ไกลกัน คงจะเป็นภรรยาของตำรวจคนใดคนหนึ่งแน่

"ที่จริงเลิกงานมากันแล้วล่ะคะ แต่ได้รับแจ้งความ" ภรรยาตำรวจคนนั้นก็ดูหน้าตาไม่ค่อยสู้ดีเท่าไร

"รับแจ้งความเรื่องอะไรคะ"

"คนเมายาบ้าคลุ้มคลั่งอาละวาด"

"ทำไมพี่ถึงดูสิหน้าไม่ดีล่ะคะ"

"พี่ไม่อยากให้สามีไป แต่เขาบอกว่ามันเป็นหน้าที่"

"ทำไมคะ"

"เคยมีตำรวจคนหนึ่งตาย เพราะเหตุการณ์แบบนี้ พี่ก็เลยกลัว"

"อะไรนะคะ"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไฟแค้น