ไฟแค้น นิยาย บท 56

"พี่จะรีบไปไหน" พอตื่นขึ้นมาก็เห็นว่าเขากำลังเปลี่ยนเสื้อผ้า

"พี่กวนให้เราตื่นหรือเปล่า"

"เปล่าค่ะ แต่ว่าพี่ไม่สบายอยู่นะ"

"พี่ต้องเข้าโรงพักแต่เช้า ต้องทำรายงานเกี่ยวกับเรื่องเมื่อวานนี้"

"คนอื่นทำไม่ได้หรือไง"

"พี่ไม่เป็นอะไรมากแล้ว"

"จะไม่เป็นอะไรมากได้ยังไง เย็บตั้งสิบกว่าเข็ม" แค่สี่เข็มเธอยังเจ็บขนาดนี้ แล้วนั่นสิบเข็มเลยนะ

"หึ.." ชายหนุ่มแอบยิ้มที่เห็นเธอเป็นห่วง..คนนี้แหละคือเมรี ผู้หญิงที่เขารัก ..เขาได้เธอกลับคืนมาแล้วใช่ไหม

เวลาผ่านไป..

"เป็นไงบ้างครับท่านสารวัตร ได้ข่าวว่าเย็บตั้งสิบกว่าเข็มไม่ใช่เหรอ..ทำไมมาทำงานได้แต่เช้า" พอสารวัตรดัมมี่เดินเข้ามาในสถานีตำรวจก็ถูกลูกน้องแซว

"ไม่ได้ถูกทำโทษมานานเท่าไรแล้ว จำได้ไหมจ่า" ชายหนุ่มแอบขู่ และคำขู่นี้ก็ได้ผล ลูกน้องรีบหลบสายตาทันที

ที่เขาต้องรีบเข้ามา..เพราะต้องได้ทำรายงานเกี่ยวกับเรื่องวิสามัญชายคลั่งคนนั้น ก็เลยไม่ได้ไปส่งเธอที่โรงแรม

แต่ดัมมี่ก็สัญญาว่าตอนเย็นจะมารับ..แค่นี้เมรีก็ดีใจมากแล้ว

..หญิงสาวยังไม่มีโอกาสที่จะเล่าเรื่องนั้นให้เขาฟัง และเธอก็ไม่รู้ว่าจะเริ่มเล่ายังไงดี ก็เลยปล่อยไว้ก่อน

[โรงแรม]

เมรีก้าวเดินเข้ามาก็รู้สึกแปลก ..ทำไมหลายคนมองหน้าเธอแบบแปลกๆ แต่หญิงสาวก็ไม่ได้สนใจอะไรมากมาย เพราะพวกเขาก็มองเธอแบบนี้ ตั้งแต่เกิดเรื่องที่เธอมีอะไรกับสารวัตรบนห้องของโรงแรมแล้ว

"คุณเมรีขาา" มันคือเสียงผู้จัดการในห้องอาหาร ..แต่ทำไมผู้จัดการถึงเรียกเธอว่าคุณเมรี? แถมยังมีขาาด้วย

หญิงสาวมองซ้ายมองขวา มองหน้ามองหลัง ตอนนี้ทุกอย่างแปลกไปหมด เพราะทุกคนในห้องอาหารนี้ มองมาที่เธอเป็นตาเดียว

"มีอะไรกันหรือเปล่าคะ" จะว่าเธอถูกเล่นงานอีกก็คงไม่ใช่ เพราะผู้จัดการพูดสะเพราะกับเธอเลย

"คุณยังไม่รู้เรื่องเหรอคะ ทางบอร์ดบริหารแจ้งมาว่า ถ้าคุณเมรีมาถึงแล้วให้ขึ้นไปที่ห้องประชุมใหญ่ได้เลยค่ะ"

"ขึ้นไปทำไมคะ"

"มีการปรับเปลี่ยนผู้บริหารค่ะ"

..ปรับเปลี่ยนผู้บริหารแล้วเกี่ยวอะไรกับเราด้วยล่ะ ..ตกใจเรื่องที่สามีถูกทำร้ายเมื่อวานนี้ ยังไม่หาย วันนี้ยังมาตกใจเรื่องของตัวเองอีก

เมรีจำเป็นต้องได้ตามผู้จัดการขึ้นมาที่ห้องประชุมใหญ่ พอประตูห้องเปิดเข้ามา คนที่นั่งอยู่ด้านในต่างก็ลุกขึ้นต้อนรับ

"เชิญคุณเมรีเข้ามาก่อนครับ" หญิงสาวตกใจอีกครั้งเมื่อเห็นหน้าคนที่กล่าวเชิญเธอให้ไปนั่งด้านหน้า

"เชิญค่ะ" ผู้หญิงอีกคนที่นั่งอยู่แถวนอกรีบเดินเข้ามาเชิญให้เธอเข้าไปด้านใน

..เมรีจำเป็นต้องได้ไปนั่ง เพราะยังไม่อยากตกงาน

"คนนี้คือคุณเมรี จะเข้ามาบริหารโรงแรมนี้แทนตัวผม" คนที่พูดก็คือ สิงหราช ตั้งแต่เธอบอกว่าจะเป็นผู้บริหารระดับสูงของโรงแรมนี้ เขาก็ กว้านซื้อหุ้นของโรงแรมมาทั้งหมด ภายในเวลาไม่นาน จนได้เป็นหุ้นส่วนใหญ่

"คุณเป็นบ้าหรือเปล่า" เมรีถามสิงหราชเบาๆ แบบเธอนี่นะจะมาเป็นผู้บริหารได้ ..พอคิดมาถึงตรงนี้หญิงสาวก็คิดถึงคำพูดของตัวเองขึ้นมาได้

"คุณๆ เมื่อวานนี้ฉันพูดเล่น" ที่เธอพูดออกไปเพราะความโมโห

"แต่ผมเอาจริง ผมบอกแล้วไงว่าคุณต้องการอะไรให้บอกมา" หรือถ้าเธอต้องการอยากจะเป็น ผู้ถือหุ้นใหญ่ของโรงแรมนี้เขาก็ยินดีที่จะยกให้

"พวกคุณออกไปข้างนอกก่อนได้ไหมคะ ฉันขอเคลียร์กับเขาก่อน" หญิงสาวหันมาพูดกับผู้บริหารที่นั่งอยู่ในห้องนี้ เพราะเธอรู้จักพวกท่านเกือบทุกคน

และทุกคนจำเป็นต้องได้ออกไป เพราะมันเป็นคำสั่งของผู้บริหารระดับสูง..ที่สุดในตอนนี้

"คุณจะบ้าเหรอ! คุณดูหน้าฉันนะ..จะบริหารโรงแรมให้คุณรอดไหม" เธอพูดกับเขาและก็ชี้ให้เขามองมาที่ใบหน้าตัวเองแบบชัดๆ

"คุณต้องการมันไม่ใช่เหรอ" ชายรูปหล่อที่นั่งอยู่ตรงหน้า พูดออกมาด้วยใบหน้าที่เรียบเฉยมาก

"ฉันพูดเล่น! ก็ฉันโมโหเรื่องที่พวกคุณก่อขึ้น"

"จะมีคนมาสอนงานให้คุณ จนกว่าคุณจะเป็นงาน" เขาไม่มีเวลาอยู่ที่นี่นาน เพราะต้องได้รีบกลับไปหาภรรยา ถ้าจะอธิบายให้เธอฟังคงอีกยาว

"คนดีหรือคนบ้าวะเนี่ย" เมรีได้แต่มองตามหลังผู้ชายร่างสูงที่เดินออกจากห้องประชุมไป "โอ๊ย.." หญิงสาวแอบหยิกตัวเองเบาๆ เพราะคิดว่าเธอกำลังฝันไปหรือเปล่า..

"ห้องนี้เป็นห้องทำงานประจำตำแหน่งของคุณนะคะ" ผู้หญิงที่อยู่ในห้องประชุมคนที่มาเชิญเธอไปนั่ง พามาดูห้องทำงาน "ดิฉันชื่อสไบค่ะ เป็นเลขาส่วนตัวของคุณเมรี"

"เลขาส่วนตัว?" ขนลุกซู่ขึ้นมาทันใด ..นี่เธอมีเลขาส่วนตัวด้วยเหรอ

ในขณะที่เธอกำลังนั่งมองเอกสารที่อยู่ตรงหน้า ก็ได้มีใครบางคนเปิดประตูเข้ามา หญิงสาวเงยหน้ามองแบบสงสัยว่าเขาเป็นใคร

"สวัสดีครับ ผมชื่อโรมัน เป็นคนมาสอนงานคุณ"

"สอนงานฉันเหรอคะ?!" สอนงานน่ะเข้าใจ..แต่ทำไมต้องหล่อขนาดนี้ด้วย

"อะไรนะครับ"

"คุณได้ยินด้วยเหรอคะ" หญิงสาวถึงกับหน้าเปลี่ยนสี..เธอคิดแรงไปหรือเปล่า

"เปล่าหรอกครับ แต่ผมเห็นสีหน้าคุณเหมือนมีคำถาม"

"ปะ..เปล่าค่ะ คุณจะสอนงานอะไรฉัน"

"สอนงานเกี่ยวกับการบริหารครับ"

"คุณรู้ไหมคะ ถึงคุณสอนฉันไป..ฉันก็ไม่เข้าใจหรอก"

"การบริหารไม่ได้ยากอย่างที่คิดหรอกครับ..เพราะว่าเราเป็นถึงระดับผู้บริหารไม่ต้องลงไปทำเองทุกอย่าง"

..หล่อแล้วยังพูดดี หญิงสาวได้แต่ชื่นชมเขาอยู่ในใจ เขาคงเป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านนี้

เย็นวันเดียวกันนั้น..

เมรีเห็นว่ารถของดัมมี่จอดอยู่ที่เดิมก็รีบเดินตรงเข้าไปหา

"คุณเมรีจะกลับแล้วเหรอครับ" ทันใดนั้นก็มีเสียงผู้ชายที่คุ้นหูพูดขึ้นมาจากทางด้านหลัง หญิงสาวหยุดแล้วหันกลับไปมอง

"ค่ะ"

"เอกสารที่เหลือ ผมจะส่งเป็นไฟล์งานเข้าไลน์ให้นะครับ"

"เอ่อ..ค่ะ" ปวดหัวกับตัวเลขและตัวหนังสือมาทั้งวัน ยังจะให้กลับไปปวดหัวที่บ้านอีกเหรอ "อุ้ย" ขณะที่เธอกำลังคุยกับโรมันอยู่นั้น ก็ได้มีมือของใครบางคนยื่นมาโอบเอวบางไว้จนหญิงสาวตกใจ

"ใคร" เสียงของผู้ชายที่อยู่ในเครื่องแบบถามออกมาเสียงเข้มมาก

"คนสอนงานค่ะ"

"เป็นผู้ช่วยมาครึ่งปีกว่าแล้วยังต้องมีคนสอนงานด้วยเหรอ" เขายังใช้โทนเสียงเดิม

"ถ้างั้นผมขอตัวก่อนนะครับ เดี๋ยวจะส่งไลน์ไปให้" โรมันดูท่าว่าจะไม่ปกติแล้ว

"เดี๋ยวก่อนครับ ทำไมคุณต้องส่งไลน์มาหาเมียผมด้วย"

"สารวัตรคะ" เมรีแอบสะกิดสามีไว้เบาๆ

"มีอะไรปิดบังผม"

"ไม่ได้ปิดบังสักหน่อยคุณโรมันคุณไปเถอะค่ะ เดี๋ยวฉันจะอธิบายให้เขาฟังเอง"

"ถ้างั้นผมไปนะครับ" โรมันต้องได้รีบชิ่งออกจากตรงนี้ไปก่อน เพราะรู้สึกว่าลมหึงจะพัดโชยแรงมาก

บ้านพักข้าราชการ..

"พี่เป็นอะไร" เธอสังเกตว่าเขาไม่พูดคุยด้วยเลยระหว่างที่ขับรถมา

แต่ดัมมี่ก็ยังไม่พูด เขาเดินเข้าไปเปลี่ยนชุดตำรวจออก แล้วก็สวมใส่ชุดธรรมดา

กำลังจะออกจากห้องมาก็ถูกคนตัวเล็กเดินเข้าไปสวมกอดจากทางด้านหลัง

"เมย์ไม่ได้มีอะไรกับผู้ชายคนนั้นสักหน่อย..อืมม" หญิงสาวกำลังจะอธิบาย..แต่ถูกชายหนุ่มหันกลับมาแล้วปิดปากด้วยจูบ

เขาจูบแบบนั้นเพียงไม่นานก็ปล่อย "ห้ามคุยกับผู้ชายที่ไหน"

แทนที่จะโกรธแต่เธอกลับอมยิ้ม นี่เขากำลังหึงใช่ไหม ทำไมเขาหึงได้น่ารักขนาดนี้

"ยิ้มทำไมพี่พูดจริงนะ"

"มีอะไรอีกหลายเรื่องที่เมย์ยังไม่เล่าให้พี่ฟัง"

"ก็เล่ามาสิ"

หญิงสาวส่ายหน้าเบาๆ ตอนนี้ไม่มีอารมณ์จะเล่าแล้ว ..ดวงตางามค่อยๆ หลับลงเพื่อเป็นการเชื้อเชิญให้อีกฝ่ายทำสิ่งที่ค้างคาอยู่เมื่อครู่ต่อ

และดัมมี่ก็ไม่ปฏิเสธ ชายหนุ่มโน้มใบหน้าลงมา จูบเข้ากับริมฝีปากอวบอิ่มของอีกฝ่าย เพราะเขาก็ต้องการเธอไม่แพ้กัน

เวลาผ่านไป..ตอนนี้ร่างกายของทั้งสองไม่มีอะไรปิดบัง

"พี่ไหวเหรอคะ" ตอนที่เขากำลังจะส่งทุ้นลำใหญ่นั้นเข้ามา หญิงสาวก็กลัวว่าเขาจะไม่มีแรงค้ำยันตัวเองไว้ เพราะแขนที่เจ็บอยู่

"ถ้าพี่ไม่ไหวจะช่วยเหรอ" ตอนที่ทั้งสองครองคู่เป็นสามีภรรยา เธอก็ช่วยเขาอยู่บ่อยครั้ง

เมรีพยักหน้าให้..ทันใดนั้นสารวัตรดัมมี่ก็ทิ้งตัวนอนลงแทนที่

คนตัวเล็กขึ้นคร่อม แล้วค่อยๆ ส่งแก่นกายเข้าไปในร่องคับแคบของตัวเอง แบบเบามือที่สุด

"อ้าาา ซี๊ดด" เสียงชายหนุ่มปล่อยลมออกมาเพื่อระบายความเสียว ในจังหวะที่เธอกำลังโยก "ยังเก่งเหมือนเดิม"

"อือ อื้อ อื๊อ.." หญิงสาวก็เสียวไม่แพ้กัน

มือหนายื่นมาโยกสะโพกงามช่วย เพราะดูเหมือนว่าเธอจะไม่ค่อยมีแรงโยก คงเพราะไม่ได้ใช้งานนาน

"อ๊อย..ซี๊ดดด" หญิงสาวพยายามทำแบบระมัดระวังที่สุด เพราะเธอกลัวว่าเจ้าตัวเล็กที่อยู่ไหนนั้นจะไม่ปลอดภัย

"เก่งจังเลยจ้ะน้องเมย์จ๋า" ชายหนุ่มชมเธอแบบไม่ขาดปาก แต่เขาก็ปล่อยให้เธอทำอยู่แบบนั้นได้ไม่นาน เพราะดูเหมือนว่าแรงของเธอจะน้อยมากคงเพราะยังเจ็บขาที่ถูกเย็บ

พอคิดได้แบบนี้คนร่างหนาก็จับคนตัวเล็กให้นอนลงในท่าตะแคงข้าง ..แล้วเขาก็ตะแคงลงด้านหลังของเธอ มือหนายกขาเรียวขึ้นเพื่อสอดใส่แก่นกายผ่านทางด้านหลังให้ได้ถนัดหน่อย

พอทุกอย่างเข้าที่ เขาก็เริ่มโยกสะโพกไปตามจังหวะที่ต้องการ แต่ก็ไม่ได้ทำรุนแรง

"อือ อือ" หญิงสาวได้แต่หาที่เกาะไว้ เพราะความเสียว

"ยังไหวไหมจ๊ะ" เขาถามเธอเป็นระยะเพราะกลัวว่าจะไม่ไหว

เมรีได้แต่สายหน้า เพราะเธออดกลั้นไว้นานแล้วกลัวว่าเขาจะไปไม่ถึงจุด

"ถ้างั้นพี่เร่งนะ..อ้าาาา" พอจบคำพูดชายหนุ่มก็เร่งจังหวะให้เร็วขึ้นกว่าเดิมเพียงไม่นาน เขาก็ปล่อยน้ำที่มันค้างคาอยู่ พุ่งสู่ร่างกายของอีกฝ่าย....

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไฟแค้น