ไฟแค้น นิยาย บท 57

เมื่อคืนนี้ไม่ใช่ว่าแค่ครั้งเดียวจะหยุดท่านสารวัตรดัมมี่ได้ พอจบครั้งแรกก็ต่อด้วยครั้งที่สองที่สาม จนทั้งสองหลับไม่รู้เรื่อง ..ตื่นมาอีกทีก็สายมาก

"ขึ้นรถเดี๋ยวพี่ไปส่ง"

"พี่จะเข้าโรงพักทันเหรอคะ"

"พี่ไม่มีปัญหาอะไรอยู่แล้ว แต่เราน่าจะมีปัญหา"

"ก็ได้ค่ะ" เมรีคิดว่าจะเล่าเรื่องให้เขาฟังแต่ก็ยังไม่มีโอกาสสักที เพราะเขาเล่นงานเธอนักขนาดนั้นจนเพลียหลับไปพร้อมกัน

[โรงแรม]

พอรถของสารวัตรดัมมี่มาจอดที่หน้าโรงแรม พนักงานหลายคนยืนเรียงแถวกัน เหมือนรอต้อนรับคนสำคัญแบบเป็นทางการมาก

"แย่แล้ว" ..นายคนนั้นทำอะไรอีกเนี่ย เมรีหันมามองคนรักที่นั่งประจำที่คนขับอยู่

"มันเกิดอะไรขึ้น" เขามองดูแค่แว๊บเดียวก็รู้แล้วว่าเธอมีพิรุธ

"เมย์ว่าจะเล่าเรื่องนี้ให้พี่ฟัง แต่ไม่มีโอกาสสักที" หญิงสาวหันมาหาเขาด้วยใบหน้าที่ตื่นตกใจ ไม่รู้ว่าจะเริ่มเล่ายังไงดีแต่ก็ต้องได้เล่าแล้วล่ะ

"เชิญท่านประธานลงรถก่อนดีกว่าค่ะ" เมรียังไม่ทันได้เล่าอะไร สไบเลขาส่วนตัวของเธอก็มาเปิดประตูฝั่งที่เธอนั่งอยู่

"ท่านประธาน?!" มันยิ่งสร้างความงงงวยให้กับดัมมี่หนักเข้าไปอีก ..พอเมรีลงรถแล้วเขาก็รีบตามลงมาเหมือนกัน

วันนี้สิงหราชให้เธอเข้ารับตำแหน่งประธานโรงแรมแบบเป็นทางการก็เลยต้องจัดพนักงานของโรงแรมให้รอต้อนรับ

หญิงสาวก้าวเดินเข้ามาด้วยท่าทางที่ประหม่า แต่ยังดีที่ข้างกายของเธอ สารวัตรดัมมี่ไม่ยอมทิ้งห่าง

"นี่มันอะไรกัน" พอดัมมี่ขึ้นมาถึงห้องทำงานของเมรี ก็เจอเข้ากับสิงหราช และผู้ชายคนเมื่อวาน ที่บอกว่าจะส่งไลน์ไปหาภรรยาของเขาก็อยู่ในนี้ด้วย

ที่จริงอัปสรสุดาอยากจะมาด้วย แต่ด้วยร่างกายของเธอไปไหนมาไหนไม่ค่อยสะดวกแล้ว สิงหราชก็เลยไม่ให้ตามมาด้วย

"คุณคิดว่าเงินของคุณซื้อได้ทุกอย่างงั้นเหรอ" พอสารวัตรดัมมี่ได้ฟังเรื่องราวทั้งหมด เขาถึงกับโมโหที่คนรวยแบบสิงหราชใช้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาทุกอย่าง

"พี่ดัมมี่คะ" เมรีกลัวว่าเขาจะควบคุมอารมณ์ไม่อยู่

"เรื่องนี้ผมพอเข้าใจ" ดัมมี่เริ่มทำอารมณ์ให้เย็นลง เพราะไม่อยากจะให้เธอคิดมาก ยังไงมันก็ผ่านไปแล้ว "แต่ที่ผมไม่เข้าใจทำไมต้องเอาไอ้หน้าหล่อนี่มาฝึกงานให้เมียผมด้วย" ยังไงเรื่องนี้เขาก็ไม่ยอม

"คุณโรมันจบดอกเตอร์ด้านนี้มาโดยตรง ผมคิดว่าให้คนที่รู้งานเรื่องนี้ได้สอน จะเป็นผลดีต่อคุณเมรีมากกว่า" มันเป็นคำอธิบายของสิงหราช ..ทำไมเขาต้องมานั่งทำอะไรแบบนี้ด้วย แต่เพราะภรรยา สิงหราชก็เลยจำเป็นต้องได้แก้ปัญหาที่ก่อขึ้นก่อน

"ก็ได้..แต่ผมจะให้น้องสาวเข้ามาดูเรื่องนี้เอง" น้องสาวหมายถึงนาฬิกา เจ้าแม่แห่งการหางานใหม่ เพราะทำที่ไหนก็ไม่ค่อยจะได้นาน

"น้องสาวของคุณหมายถึงเพื่อนรักภรรยาผมน่ะเหรอครับ"

"ใช่แล้ว"

"แบบนั้นก็ได้ เดี๋ยวผมจะหาตำแหน่งให้เธอทำด้วยแล้วกัน"

ที่จริงอัปสรสุดาไม่คิดจะทิ้งขว้างเพื่อนรักเลย แต่นาฬิกาต่างหากที่ไม่ให้เพื่อนยื่นมือเข้ามาช่วยเรื่องนี้ เพราะกลัวว่ามันจะเป็นการคบเพื่อนเพื่อหวังผลประโยชน์มากกว่า

แต่เพราะครั้งนี้เป็นคำสั่งของพี่ชาย ให้เข้ามาดูแลพี่สะใภ้ จากไอ้หน้าหล่อ ที่มีดีกรีเป็นถึงดอกเตอร์จบจากต่างประเทศ

ผ่านไปไม่ถึงสองชั่วโมง นาฬิกาก็มาถึงที่โรงแรมหรู ..โรงแรมนี้เธอก็เคยมาสมัครงาน แต่พนักงานด้านหน้าคุยเหมือนกับเธอมาเป็นขอทาน หญิงสาวก็เลยถอยตั้งแต่ยังไม่สมัคร

วันนี้ดัมมี่ยอมไม่เข้า สน. เพราะเขาจะจัดการเรื่องนี้ให้เรียบร้อย

"มายก๊อด" นาฬิกาถึงกับอุทานออกมาเมื่อฟังเรื่องราวทุกอย่างจบ แต่เธอก็ไม่แปลกใจ เพราะพ่อบุญทุ่มเป็นถึงเศรษฐีสิงหราชสามีของเพื่อนรัก แค่นี้ขนหน้าแข้งเขาไม่ร่วงอยู่แล้ว

"ผมจะให้คุณนา เป็นผู้บริหารอีกคน" มันคือคำที่สิงหราชพูดกับนาฬิกา

"หึ..หึ..หึ..ฮ่าาาา" และนี่มันก็คือเสียงหัวเราะของนาฬิกา เธออุตส่าห์กลั้นที่จะไม่หัวเราะแล้วนะ พอได้ยินเขาบอกว่าจะให้เธอเป็นผู้บริหาร..หญิงสาวก็ไม่กลั้นไว้อีกแล้ว

โรมันมองมาแบบไม่พอใจ ผู้หญิงคนนี้เสียมารยาทมาก เพราะทุกคนนั่งฟังแบบเงียบๆ มีแค่นาฬิกาที่หัวเราะขึ้นมาเสียงดัง

"เอาเป็นว่าแบบนี้แล้วกัน.. คุณโรมันก็ฝึกงานให้ทั้งสองสาวไปนะ ผมต้องรีบกลับบ้านแล้ว"

"หัวมัน?" นาฬิกาฟังชื่อของเขาไม่ถนัด เพราะสิงหราชพูดเร็วก็เลยได้ยินผิดเป็นหัวมัน

โรมันซึ่งนั่งอยู่ไม่ไกลจากนาฬิกา มองมาอีกครั้งแบบไม่พอใจ ผู้หญิงคนนี้เกินเยียวยาจริงๆ

"เดี๋ยวก่อนคุณสิงห์ คุณจะให้ฉันเป็น ผู้บริหารแล้วคุณให้เงินเดือนฉันเท่าไร" สิงหราชกำลังจะเดินออกจากห้อง นาฬิกาเรียกไว้ก่อน เพราะเรื่องนี้มันเป็นเรื่องสำคัญ

"พวกคุณบริหารได้เท่าไรก็เอาไปเท่านั้นแหละ" เขาไม่ได้ต้องการหวังผลกำไรจากโรงแรมนี้เลย

"แล้วถ้ามันเจ๊งล่ะ" พอคำนี้ออกจากปากของนาฬิกา โรมันก็มองมาอีกครั้ง

"ฮ่าฮ่าา ไม่เจ๊งหรอกครับ..ผมไปนะ" สิงหราชรู้ดีว่าโรมันเก่งเรื่องบริหารงานมากแค่ไหน พอจบคำพูดเขาก็ออกจากห้องนี้ไป ..ป่านนี้ภรรยาคงจะรอฟังข่าวแบบใจจดใจจ่อ

"เอาเป็นว่าผมจะเทรนด์งานให้ท่านผู้บริหารทั้งสองคนไปพร้อมกันเลยนะครับ" พอสิงหราชออกไปพ้นจากห้อง โรมันก็กล่าวขึ้นบ้าง

"ไม่ต้องหรอกครับ คุณสอนงานแค่น้องสาวผม ส่วนภรรยาของผม..ให้น้องสาวเป็นคนประสานงานอีกที"

"สารวัตรคะ" เมรีปรามผู้เป็นสามีอีกครั้ง

"ถ้างั้นก็ไม่ต้องทำแล้ว"

"คู่นี่ก็หึงกันไม่ดูตาม้าตาเรือเล๊ยย" นาฬิกาพอจะรู้เรื่องของเมรีมาจากอัปสรสุดาบ้างแล้ว เธอก็เลยไม่ได้สงสัยเรื่องนี้

"จะให้ผมเรียกท่านประธานอีกคนว่าอะไรครับ" โรมันหันมาถามชื่อของนาฬิกาบ้าง เพราะว่าเขารู้จักชื่อของเมรีไปแล้ว

"คนนี้ชื่อนาฬิกาค่ะ" เมรีเป็นคนแนะนำให้โรมันได้รู้จัก

"หึ หึ หึ" โรมมันอุตส่าห์ทำหน้าเคร่งมาตลอดระยะเวลาที่อยู่ในห้องนี้ พอได้ยินชื่อของเธอเท่านั้นแหละ เขาถึงกับกลั้นไม่อยู่อีกต่อไป

"หัวเราะทำไมไม่ทราบคะคุณหัวมัน"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไฟแค้น