เย็นวันนั้น.. งานเลี้ยงที่ห้องของโรงแรมได้ถูกจัดขึ้นจริง และแขกในงานก็ถูกจัดเตรียมมาเป็นอย่างดี ส่วนมากจะเป็นผู้บริหารและพนักงาน ..ทุกคนอยู่ในชุดที่เหมาะสมกับงานเลี้ยงนี้..นั่นก็คือชุดราตรี
"คนที่อยู่ในกระจกคือฉันเหรอ?" หญิงสาวที่อยู่ในชุดราตรีแบบเกาะอก ยืนมองตัวเองในกระจกบานใหญ่ เพราะไม่เชื่อสายตา ว่าช่างสามารถที่จะแต่งตัวเธอออกมาได้เป็นคนละคนขนาดนี้
"ท่านยังไม่พอใจตรงไหนไหมคะ" ช่างแต่งหน้าที่ถูกจัดเตรียมมาโดยเฉพาะ มองหน้ากัน..เพราะกลัวว่าท่านประธานจะไม่พอใจ
"ปะ..เปล่าค่ะ" ถ้าเดินผ่านกับแม่..แม่จะจำมึงได้ไหมวะ ..ขนาดตัวเองยังแทบจะจำตัวเองไม่ได้
ที่จริงความสวยของนาฬิกาก็มีมากอยู่แล้ว เพียงแต่เธอไม่เคยแต่งตัวแบบนี้ นอกจากจะแก่นกะโหลกกะลาไปวันๆ
ก๊อก ก๊อก ทันใดนั้นก็มีเสียงคนมาเคาะประตูด้านหน้า
"ทุกอย่างพร้อมแล้วค่ะ" พนักงานของโรงแรมเป็นคนมาตาม เพราะตอนนี้ในงานเลี้ยงทุกอย่างจัดเตรียมไว้พร้อมแล้วรอแค่ท่านผู้บริหาร
หญิงสาวสวยสง่าในชุดราตรีสีหวาน ได้ย่างก้าวแบบระมัดระวังออกจากห้องที่ใช้แต่งตัว..เพราะรองเท้าที่เธอสวมใส่ มันไม่ค่อยถนัดเลย
พอประตูบานใหญ่ของห้องจัดเลี้ยงได้ถูกเปิดออก ก็มีชายหนุ่มรูปหล่อยืนรอให้เธอคล้องแขน หญิงสาวไม่กล้ายื่นมือตัวเองเข้าไปคล้องกับแขนของอีกคนที่ตั้งท่าไว้รอ จนชายหนุ่มรูปงามยื่นมือหนามาคว้าแขนเรียว
"ไม่ต้องประหม่าทำตัวให้สบาย" ริมฝีปากเข้ารูปได้โน้มลงมาใกล้เพื่อกระซิบ ..จนทำให้อีกฝ่ายถึงกับขนลุกซู่
ทั้งสองเดินเข้ามาในงานโดยมี สายตาหลายคู่จับจ้อง ถึงแม้ว่ามันจะเป็นแค่ฉากที่เขาจัดเตรียมขึ้นมา แต่แขกในงานก็มีแต่คนที่มีตำแหน่งใหญ่โตทั้งนั้น
"คุณเล่นใหญ่เกินไปไหมคะ" หญิงสาวกระซิบถามเบาๆ จังหวะที่เขาพาเดินมาที่โต๊ะ
"ถ้าจะอยู่ในตำแหน่งนี้คุณต้องรู้ขั้นตอนการจัดเลี้ยง การเข้าสังคม ไม่ใช่แค่นั่งบริหารงานอย่างเดียว"
"คุณไม่ต้องพูดใกล้ขนาดนี้ก็ได้นะ"
"ทำไมครับ" ใบหน้าหล่อคมเอียงเล็กน้อยถึงปานกลางเพื่อเป็นเชิงถาม
"ปะ..เปล่า" หัวใจเต้นรัวแทบจะไม่เป็นจังหวะ เกิดมามันไม่เคยเต้นแรงเพราะใครแบบนี้มาก่อน จนคิดว่าตัวเองสนใจเพศเดียวกันหรือเปล่า
ในงานนี้นาฬิกาไม่กล้าทานอะไรเพราะกลัวว่าจะทำเปิ่น หญิงสาวได้แต่ยกไวน์ขึ้นดื่ม
จนถึงช่วงสำคัญนั่นก็คือเปิดฟลอร์เต้นรำ ชายรูปหล่อหุ่นสมาร์ทลุกขึ้นยืนแล้วโค้งเพื่อเป็นการเชิญชวนให้ฝ่ายหญิงเป็นคู่เต้น
จังหวะนี้หญิงสาวเริ่มจะมึนหัวนิดๆ เพราะไวน์ที่ดื่มเข้าไป แต่เธอก็ไม่ได้ปฏิเสธ หญิงร่างระหงยืนขึ้นแต่มือของเธอก็พยายามเซฟเกาะอกไว้ เพราะรู้สึกว่ามันจะหลวม
"ฉันบอกคุณไว้ก่อนเลยนะ ตั้งแต่เกิดมาฉันไม่เคยมาร่วมงานแบบนี้ ยิ่งเรื่องเต้นรำ..แต่ถ้าเป็นหน้าเวทียังพอได้"
"อะไรคือหน้าเวที" ชายหนุ่มถามในระหว่างที่ยื่นมือไปโอบหญิงคู่เต้นรำ เพื่อจะพาก้าวเดินไปตามจังหวะดนตรี
"คุณโตมาจากไหนเนี่ย ไม่รู้จักหน้าเวที"
"ต่างประเทศ"
อึบ ดอกแรกที่เหยียบเท้าของชายร่างสูง แต่เขาก็ยังพาเธอก้าวเดินไปต่อ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
และการเหยียบเท้าครั้งที่สองก็ตามมา..
"คุณหยุดทำไม"
"ฉันกลัวเหยียบเท้าคุณอีก" เพราะเธอเหยียบถึงสองครั้ง ถ้ามีครั้งที่สามเขาจะเดินไหวไหมเนี่ย
"ไม่ต้องกลัว แค่ก้าวตามผม" แล้วมือหนาก็โอบเอวบางพาก้าวเดินไปตามจังหวะอีกครั้ง
"คุณตามฉันมาทำไมกลับบ้านคุณไปเลยนะ" หญิงสาวพูดในขณะที่กำลังเปิดกุญแจบ้าน
"จะให้ผมกลับยังไงเข้ามาลึกขนาดนี้"
"ทำไมคุณไม่นั่งแท็กซี่คันนั้นกลับไปล่ะ"
"ผมลืมคิดไป"
คนสมองแบบคุณนี้เหรอจะลืมคิด ถึงขนาดจบด็อกเตอร์มา แค่นี้เขาจะคิดไม่ได้เลยเหรอ ..อีตานี่ท่าจะบ้า
"คุณห้ามส่งเสียงดังนะ แม่ฉันจะตื่น" นาฬิกาจำเป็นต้องให้เขาเข้ามาค้างที่บ้านเธอก่อนคืนหนึ่ง เพราะถ้าจะให้เดินออกไปคงไม่ปลอดภัยแน่หล่อขนาดนี้
ห้องนอนของเธออยู่ชั้นบน ติดกับห้องของแม่
บ้านของเธอชั้นล่างเปิดโล่งไม่มีห้องให้นอน ถ้าจะให้เขานอนอยู่ข้างล่างแม่ตื่นมาดึกๆ เจอเข้าได้หัวใจวายตายแน่
"ฉันจะเอายังไงกับคุณดีเนี่ย!"
"ไหนคุณบอกไม่ให้ผมส่งเสียงดังไง แต่คุณกลับดังซะเอง" เขาอยากจะรู้จักผู้หญิงคนนี้ให้มาก ..เพราะตัวเลขที่เขาทดสอบเธอและเมรีพร้อมกันในวันนั้น เธอทำให้เขาอึ้งกับตัวเลขที่เธอหาออกมาได้ ซึ่งเขาก็เคยหาตัวเลขนั้นออกมาได้เหมือนเธอเป๊ะ.. ถึงแม้จะเป็นตัวเลขที่ผิดก็เถอะ
"ในห้องของฉันมีแค่เตียงเดียว และไม่มีโซฟาให้คุณนอนเหมือนในละครหรอกนะ คุณต้องนอนพื้น" มือเรียวยื่นไปจับหมอนแล้วส่งให้เขา
"คุณเอาจริงเหรอ" เกิดมาไม่เคยนอนพื้นไม้แข็งๆ แบบนี้
"หรือคุณจะเดินออกไปเรียกแท็กซี่หน้าปากซอย..ให้เลือกเอา" จบคำพูดหญิงสาวก็ทิ้งตัวนอนลงที่เตียง พร้อมกับดึงผ้าห่มมาคลุมตัวไว้ ..เธอไม่ได้กลัวเขาหรอก แต่กลัวใจตัวเองต่างหาก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไฟแค้น