บทที่ 129 อสรพิษ
ลั่วอู๋ไม่เข้าใจความหมายของสิ่งที่ราชาผีเสื้อปีกมายาบอก
มันไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้โดยปราศจากถ้ำงั้นเหรอ? แล้วทำไมเผ่าพันธุ์ของมันถึงยังไม่สูญพันธุ์ล่ะ? เขาไม่เคยได้ยินเรื่องแบบนี้มาก่อน
“ทำไมถึงเป็นแบบนั้นล่ะ?” ลั่วอู๋ถาม
หลังจากเงียบไปนานราชาผีเสื้อปีกมายาก็เริ่มอธิบาย
“ลูกของข้าไม่ใช่ผีเสื้อปีกมายาปกติ ๆ ทั่วไป เลือดของเขามีความผิดปกติบางอย่าง ซึ่งทำให้มีพลังมากกว่าตัวอื่น ๆ แต่ด้วยเหตุนี้ข้าจึงไม่สามารถให้พลังงานที่เพียงพอสำหรับการเกิดของเขาได้ ดังนั้นเขาจึงอ่อนแอมาก และเลือดก็เริ่มกลายเป็นเลือดเสีย”
“ข้าต้องขอขอบคุณเจ้า ด้วยยาของเจ้า มันทำให้ข้าสามารถกำจัดสิ่งสกปรกในเลือดของเขาได้”
นี่คงเป็นเหตุผลว่าทำไมราชาผีเสื้อปีกมายาถึงยอมคุยกับลั่วอู๋มากถึงขนาดนี้
เป็นเพราะความเมตตาของลั่วอู๋นั่นเอง
“ข้าได้พบกับถ้ำนี้ ที่นี่มีพลังวิญญาณสถิตอยู่ที่แข็งแกร่งมาก ในถ้ำนี้ข้าและลูกของข้าจะสามารถดูดซับพลังวิญญาณอันแข็งแกร่งมาเพื่อรักษาชีวิตเอาไว้ได้”
“ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อข้าออกไปจากที่นี่ ลูกของข้าก็จะอ่อนแออีกครั้ง และคงจะไม่สามารถเกิดได้อย่างปลอดภัย ข้าจึงไม่สามารถออกไปจากที่นี่ได้”
“ ข้าต้องรออยู่ที่นี่จนกว่าลูกจะคลอด”
ลั่วอู๋พอเข้าใจได้เล็กน้อย
อย่างไรก็ตามลิงยักษ์น่าจะกำลังมุ่งมาที่ถ้ำนี้ มันจึงฆ่าผีเสื้อปีกมายาเหล่านั้น
“แต่” ลั่วอู๋ลังเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วกล่าวว่า “แต่ผีเสื้อหลายตัวได้ตายไปแล้ว เพื่อปกป้องเจ้านะ”
ราชาผีเสื้อปีกมายาเงียบ
ดูเหมือนมันไม่ต้องการที่จะตอบคำถามนั้น
หลังจากนั้นไม่นานก็มีเสียงแผ่วเบาดังขึ้นในความคิดของลั่วอู๋ “เมื่อเจ้ามีลูก เจ้าจะเข้าใจว่าเพื่อลูกแล้ว เจ้าจะยอมเสียสละอะไรก็ย่อมได้”
จู่ ๆ คำพูดนั้นก็กระทบประสาทของลั่วอู๋
ใบหน้าของลั่วอู๋มืดมนและน้ำเสียงของเขาก็ดูแย่มาก “นี่มันเรื่องไร้สาระอะไร ทำเพื่อลูกงั้นเหรอ! เด็กคนนั้นขอให้เจ้าทำสิ่งนี้หรือเปล่า มันเป็นแค่ความคิดความปรารถนาทั้งหมดของเจ้า เจ้าย้ายตัวเองมาเพื่อลูกของเจ้า เจ้าปล่อยให้มันเป็นอย่างนั้น มีผีเสื้อปีกมายาไร้เดียงสาจำนวนมากต้องตายเพื่อสิ่งนี้ทำไมกัน? ”
“ลูกของข้าจะเติบโตเป็นสิ่งมีชีวิตอันทรงพลังที่สามารถนำพาเผ่าพันธุ์ของเราไปสู่ความรุ่งโรจน์และการเสียสละของพวกเขาต่างก็มีค่า” นี่เป็นวิถีอันซับซ้อนของราชาผีเสื้อปีกมายา
ลั่วอู๋หัวเราะเยาะ “ใช่ การเสียสละของพวกเขามีค่า แต่เจ้าถามรึยังว่าพวกเขาเต็มใจจะเสียสละเพื่อลูกของเจ้าหรือไม่”
“พวกมันทำลงไปตามธรรมชาติ” เสียงของราชาผีเสื้อปีกมายาเริ่มอ่อนลงเล็กน้อย
“ไม่ พวกเขาไม่ต้องการที่จะทำแบบนั้น” ร่องรอยแห่งความโศกเศร้าผุดขึ้นในใจของลั่วอู๋ “พวกเขาแค่อยากที่จะสนับสนุนเจ้า”
ราชาผีเสื้อปีกมายาพูดไม่ออกอีกเลย
“เจ้าไม่จำเป็นต้องขอบคุณข้าสำหรับยาหรอก ข้าแค่อยากจะรักษาให้เจ้ายอมรับข้า แต่ตอนนี้ข้าไม่มีความคิดนั้นแล้ว ลาก่อน”
ลั่วอู๋เดินออกจากถ้ำ
ราชาผีเสื้อปีกมายาได้แต่มองไปที่ด้านหลังของลั่วอู๋อย่างนิ่งเงียบ
นอกถ้ำนั้นมีเหล่าผีเสื้อปีกมายาคอยเฝ้ามองเขาอย่างระมัดระวังราวกับจะป้องกันไม่ให้ลั่วอู๋ มาทำอันตรายใด ๆ
ลั่วอู๋มองพวกเขาอย่างสมเพชแล้วลูบที่ร่างกายของเสี่ยวไป่จากนั้นทักษะ “ทะลวงมิติ” ก็เริ่มขึ้น เสี่ยวไป่พาลั่วอู๋กลับไปหาทุกคน
“เป็นยังไงบ้าง?” ทุกคนต่างสงสัยใคร่รู้ในผลลัพธ์
ลั่วอู๋ปิดบังเรื่องการสนทนาของเขากับราชาผีเสื้อปีกมายา เขาบอกไปเพียงแค่ว่าลิงยักษ์ต้องการครอบครองถ้ำ พวกผีเสื้อปีกมายาเองก็เช่นกัน
“ มาเถอะ พวกเราไม่จำเป็นต้องเข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องแบบนี้” เฒ่าเย่กล่าว
เป็นเรื่องปกติมากที่จะเกิดการต่อสู้ระหว่างสัตว์วิญญาณขึ้นในป่า แม้ว่าพวกมันจะมีความต่างชั้นกันมากในด้านความแข็งแกร่ง ถึงอย่างนั้นพวกมันก็ไม่สนใจ
ทุกคนพยักหน้า
ลั่วอู๋จ้องมองไปที่ผีเสื้อปีกมายาจำนวนนับไม่ถ้วนราวกับอยู่ในภวังค์ของความคิด
พวกมันบินกรูกันไปที่ลิงยักษ์ จากนั้นก็ตายอย่างไร้หนทางกลายเป็นฝุ่นกระจายไปทั่วท้องฟ้า ฉากนี้มันทั้งเศร้าและโหดร้ายมาก
“ถ้าข้าต้องการจะถ่วงเวลาของลิงยักษ์ พวกเจ้าจะทำอย่างไร?” ลั่วอู๋พูดอย่างกะทันหัน
นั่นทำให้ทุกคนประหลาดใจมาก
ฉูจงฉวนกล่าวอย่างอธิบายไม่ถูกว่า “เจ้ากำลังคิดจะทำอะไรอยู่กันแน่ เจ้าไม่ใช่คนชอบยุ่งเรื่องคนอื่นไม่ใช่รึไง”
“น่าจะเป็นความสงสารในใจข้ากำลังอาละวาด?” ลั่วอู๋พูดอย่างไม่แน่ใจ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไหปีศาจ