บทที่ 152 นามของข้าคือไร้หน้า
ณ มุมมืดที่ไม่มีใครใครผ่านมาของศาลาไป่หยู่
หลงเซี่ยกำลังหลับตาทำสมาธิและฝึกฝนจิตใจของเขา
ข้าง ๆ เขามีไร้หน้าที่กำลังฝึกการเคลื่อนไหวอันยากจะทำความเข้าใจได้หลากหลายท่าทาง มีแม้กระทั่งการเคลื่อนไหวอันแปลกประหลาดซึ่งแต่ละท่าดูเหมือนจะท้าทายขีดจำกัดของร่างกายมนุษย์
เมื่อเสียงเสียดสีของกระดูกนับไม่ถ้วนและเสียงกล้ามเนื้อของการเคลื่อนไหวเหล่านั้นเสร็จสิ้น ไร้หน้าก็เปลี่ยนเป็นท่าของการกราบคุกเข่าลงบนพื้นดิน
“ทำมันอีกครั้ง” หลงเซี่ยลืมตาขึ้นแล้วพูดอย่างแผ่วเบา
ไร้หน้ากัดฟันลุกขึ้นและเริ่มเคลื่อนไหวอีกครั้ง เมื่อการเคลื่อนไหวดำเนินไปเรื่อย ๆ คอที่บาดเจ็บของเขาก็ดูเหมือนจะค่อย ๆ ฟื้นคืนความมีชีวิตชีวาและตั้งตรงเหมือนคนปกติ
“ไร้หน้า!” มีเสียงร้องดังมาจากข้างนอกประตู
ร่างของหลงเซี่ยหายไปในพริบตา
ประตูถูกเปิดออกและเจ้าของร้านคนเก่าก็เข้ามาเรียกเขา “ไร้หน้า นายน้อยกำลังตามหาเจ้า สงครามได้เริ่มขึ้นแล้ว”
ไร้หน้าตากะพริบตาด้วยความตื่นเต้น แววตาเปี่ยมด้วยจิตสังหาร
หลงเซี่ยมองดูเหตุการณ์ทั้งหมดเงียบๆ ดูเหมือนว่าเขาได้เริ่มเข้าใจอะไรบางอย่าง จากนั้นเขาก็หันไปอีกทางและหายไป
……
……
“หัวหน้า เมื่อกี้เราฆ่าผู้ใช้พลังวิญญาณได้เพียงสองคนเท่านั้น ดูเหมือนคนอื่น ๆ วิ่งหนีไปหมดแล้ว พวกมันน่าจะรีบกลับไปที่พรรคหวงชา” มีคนกระซิบบอกคงฉิน
คงฉินหายใจเข้าลึก ๆ “รีบไปรวบรวมเหล่าพี่น้องทั้งหมดของเรามา สงครามกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว”
เมืองไมมู่นั้นถูกปกคลุมไปด้วยความหวาดกลัว
ทุกคนซ่อนตัวอยู่ในบ้านไม่กล้าออกไปข้างนอก บางคนที่รู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ก็ได้ตัดสินใจออกจากเมือง ไมมู่ไป เพราะกลัวว่าจะได้รับผลกระทบ
ผู้ใช้พลังวิญญาณระดับสูงฝ่ายลูหยางพิง ในพรรคหวงชาได้รวมตัวกันที่นี่ทั้งหมด
บรรยากาศและท้องฟ้าดูมืดมนมากขึ้นเรื่อย ๆ
……
……
“เกิดอะไรขึ้น?”
ฉูจงฉวนกลับมาที่ศาลาไป่หยู่ ด้วยใบหน้าที่สับสน
“ข้ารู้ว่าเจ้ากำลังจะกลับมา” ลั่วอู๋พูด
“แขกในหอราตรีนิรันดร์หนีไปหมดแล้ว ข้าคิดว่ามีบางอย่างผิดปกติ ดังนั้นข้าจึงรีบกลับมาที่นี่พร้อมกับคนที่เจ้าส่งมา” ฉูจงฉวนอธิบาย
“หอราตรีนิรันดร์ก็เลยปิดใช่ไหมล่ะ?” ลั่วอู๋ถาม
ฉูจงฉวนส่ายหัว “ไม่ ๆ มันก็ยังเปิดเป็นปกติดี แถมแขกทุกคนหนีไปหมดแล้ว ดังนั้นสาว ๆ จึงค่อนข้างว่างเลยด้วยซ้ำไป”
ลั่วอู๋รู้สึกสับสน
หอราตรีนิรันดร์เองก็น่าจะอยู่ในความดูแลของพรรคหวงชา พวกเขาไม่น่าจะกล้าเสี่ยงเปิดกิจการต่อในเวลาแบบนี้ด้วยซ้ำ
แต่ก็ช่างมันไปก่อน มันไม่ใช่เรื่องที่จะต้องไปสนใจมัน
ลั่วอู๋อธิบายให้ฉูจงฉวนฟังทันทีถึงเหตุและผลที่เขาเรียกฉูจงฉวนกลับมา
“ข้าเหนื่อยกับการต่อสู้แล้วอ่ะ” ฉูจงฉวนหาว
ลั่วอู๋กลอกตา “เมื่อเสร็จเรื่องนี้แล้ว ข้าจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมดของเจ้าเป็นเวลาหนึ่งเดือน”
“ได้เลยตกลงตามนี้” ฉูจงฉวนมีรอยยิ้มซุกซน
แม้ว่าความสามารถในการต่อสู้ของฉูจงฉวนจะเป็นเพียงแค่ทักษะจากภูตไฟ แต่ด้วยทักษะการต่อสู้และประสบการณ์ในการต่อสู้ของเขา ฝีมือในการต่อสู้ของเขาก็เทียบได้กับผู้ใช้พลังวิญญาณระดับสูงเลยทีเดียว
……
……
“ตูมมมม”
บ้านของเจ้าเมืองคูกูถูกระเบิดพังทลายลงมา
นี่คือบ้านของคงฉิน
แต่ตอนนี้มันหายไปแล้วเหลือเพียงอาคารที่พังทลาย
“ ไอ้เจ้าบัดซบ คงฉิน!”
กลุ่มคนของลูหยางพิง ได้แต่ระบายความโกรธกับซากปรักหักพังที่ปราศจากผู้คน
……
……
การต่อสู้ได้เริ่มขึ้น
พื้นที่ทั้งหมดของเขตหวงชาเต็มไปด้วยความวุ่นวาย
เนื่องจากไม่เพียงแต่ผู้ใช้พลังวิญญาณระดับสูง แม้แต่ผู้ใช้พลังวิญญาณระดับทองแดงและผู้ใช้วรยุทธ์เองก็เข้ามาที่เมืองเช่นกัน ตามสถิติแล้วมีผู้ใช้พลังวิญญาณกว่า 70% ของพื้นที่ป่าหวงชาทั้งหมดมาเข้าร่วมในการต่อสู้ครั้งนี้
สามารถจินตนาการได้ว่าความแข็งแกร่งทั้งหมดของพรรคหวงชานั้นน่ากลัวและทรงพลังเพียงใด
ไม่น่าแปลกใจเลยที่ลูหยางพิงและคงฉินต้องการเป็นผู้นำของพรรคหวงชา
……
……
เมืองพสุธา
คฤหาสน์หลังหนึ่ง
“พี่สงครามได้เริ่มขึ้นแล้ว พวกเราเองก็ออกไปต่อสู้กันเถอะ” ชายคนหนึ่งกล่าว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไหปีศาจ