มันเป็นห้องโถงที่เหมือนกับแท่นบูชาขนาดใหญ่ ที่ทั้งกว้างและเรียบง่าย ประดับประดาไปด้วยทองแดงโบราณและหินสีฟ้าตามฝาผนัง ซึ่งทำให้ดูน่าขนลุก
ตรงกลางแท่นบูชานั้นมีรูปปั้นหญิงสาวตั้งอยู่ รูปปั้นนั้นดูมีความอ่อนโยน สง่างาม และอยู่ในท่าทางของการระบำเพลงดาบ มีสีหน้าที่แสดงถึงความรู้สึกที่ไม่ยอมแพ้ แต่บรรยากาศนั้นกลับแสดงให้เห็นถึงความเศร้า ต่อผู้คนที่ได้พบเห็น
ราชาวิญญาณนั้นโกรธมาก เพราะทนอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีนางสนมมาคอยอารักขา
ฉูจงฉวนค่อย ๆ คลานอย่างระมัดระวังที่มุมห้องโถง พร้อมกับเปลวไฟสีเขียวที่มีพลังงานอันน่ากลัว
ด้านหน้าของเข้าคือถ้ำที่มืดสนิท“ขออนุญาตนะครับ นายหญิง” ฉูจงฉวนมองไปที่รูปปั้นและพูดในใจ
ถ้าหากภูตไฟไม่ต้องการพลังในสุสาน เขาก็ไม่จำเป็นจะต้องรบกวนภูตผีหรือวิญญาณชั่วร้ายแล้ว
โดยเฉพาะแม่นางคนนี้ไม่ใช่เพราะว่านางอ่อนแอ แต่เป็นเพราะนางไม่อยากทำร้ายผู้คน
เมื่อพิจารณาจากรูปปั้นและข้อมูลจากด้านหน้าของหลุมฝังศพ พบว่าผู้หญิงคนนี้ถูกล้อมไปด้วยกองทัพศัตรูและในระหว่างที่กำลังขัดขืนจากการถูกจับ นางก็ได้ชักดาบออกมาและฆ่าตัวตายลงในที่สุด
ในสมัยโบราณ ผู้ที่มีจิตใจดีงามได้เสียชีวิตไปเป็นจำนวนมาก“มันช่างกล้ายิ่งนัก คงจะแอบเข้ามาขโมยกระดูกขององค์ราชา ในขณะที่เรากำลังนอนหลับอยู่สินะ”
“ท่านหยู ท่านสามารถตามหาตัวผู้บุกรุก ด้วยกำลังอันแสนอ่อนแอของท่านได้ไม่ใช่หรือ? แล้วทำไมถึงยังปล่อยให้พวกมันมีชีวิตอยู่ในดินแดนของท่านกัน?”
เสียงคำรามอันรุนแรงดังมาจากทุกทิศทุกทาง“รีบหนีไปได้แล้ว” มีเสียงอันอ่อนโยนดังขึ้นมาในหูของ ฉูจงฉวน
นี่คือเสียงของท่านหยูอย่างงั้นหรือ?!“ขอบคุณสำหรับน้ำใจของท่านครับ นายหญิง ข้าจะจดจำมันเอาไว้” ฉูจงฉวนกระซิบ
“ไม่เป็นอะไร ถ้าเจ้าเคารพข้า ข้าก็จะเคารพเจ้าเช่นกัน ข้าจะให้โอกาสเจ้า มันไม่ได้สำคัญอะไรมากนัก มันเป็นเพียงแค่ไขกระดูกจากหลุมฝังศพของราชาวิญญาณเท่านั้น ราชาวิญญาณตนอื่นเองก็ให้ความสำคัญกับมันเช่นกัน ข้าไม่สามารถเปลี่ยนใจพวกมันได้ แต่ข้าจะหยุดพวกเขาเอาไว้ให้ เจ้ารีบหนีไปซะ!”“แย่ละสิ มันกำลังจะมาฆ่าข้า” ฉูจงฉวนรู้สึกเหมือนกับว่ากำลังถูกสัตว์ร้ายโบราณไล่ตาม
บางอย่างที่เลวร้ายกำลังจะเกิดขึ้นพวกมันเป็นผีที่แตกต่างจากราชาผี และพวกมันไม่จำเป็นต้องฟังคำสั่งของท่านหยู ดังนั้น พวกมันจึงต้องการไล่ตามฉูจงฉวน
“ฆ่ามัน!”อย่างไรก็ตาม ความแข็งแกร่งของผีระดับนายพลเหล่านั้นไม่ได้อ่อนแอ และมีจำนวนมาก การโจมตีระดับนี้ไม่สามารถยับยั้งพวกมันเอาไว้ได้
ฉูจงฉวนรู้สึกเหนื่อย และพลังวิญญาณของเขาก็กำลังจะหมดลงฉูจงฉวนรู้สึกประหลาดใจที่เห็นสุนัขสีเงินตัวใหญ่ที่กำลังวิ่งมาหาเขา ในขณะที่ลั่วอู๋และหลี่หยินนั้นกำลังนั่งอยู่บนข้างหลังของมัน
“ฉูจงฉวน ไอ้เจ้าบ้านี่ รีบมาเร็วเราไม่มีเวลาแล้ว” ลั่วอู๋ตะโกนออกมาด้วยความโกรธฉูจงฉวนใช้พลังวิญญาณผ่านทางเส้นวงจรวิญญาณอีกครั้ง เขาใช้พละกำลังเฮือกสุดท้ายวิ่งตรงไปที่ ลั่วอู๋
“น้องชาย ข้าคิดไม่ผิดจริง ๆ ถ้าเกิดข้าเป็นผู้หญิงละก็ ข้าก็คงเข้ากับเจ้าได้ดีแน่” ฉูจงฉวนพูดด้วยความอ่อนแรง
ลั่วอู๋หายใจไม่ออก “เจ้าหุบปากไปซะ เจ้าโชคดีแค่ไหนรู้ตัวไหม การจะตามหาเจ้ามันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะ ถ้าข้าไม่มาเจ้าก็คงตายไปแล้วแน่”
หลังจากนั้น หลี่หยินก็เรียกเสี่ยวไป่ออกมา“ฟู่ว! ข้ากลัวแทบตาย” ลั่วอู๋มองไปที่ฉูจงฉวนและพูดว่า “ไอ้เจ้าบ้าเอ๊ย เจ้ามาทำอะไรในสถานที่อันตรายเช่นนี้กัน?”
ฉูจงฉวน อธิบายอย่างช่วยไม่ได้ “ภูตไฟของข้านั้นต้องการพลังจากสุสานแห่งนี้เพื่อวิวัฒนาการ”
ต่อมา ฉูจงฉวนได้เล่าสิ่งที่เขาพบเจอมาทั้งหมดการเพิ่มคุณสมบัติดั้งเดิมของสัตว์วิญญาณนั้น คือการเพิ่มศักยภาพของตนเองในอนาคต ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญมาก
ดวงตาของลั่วอู๋หรี่ลง และพูดว่า”อันที่จริงแล้ว การวิวัฒนาการคือจุดประสงค์ของเจ้าใช่ไหม? การปรับปรุงคุณสมบัติดั้งเดิมเป็นแค่เรื่องบังเอิญเท่านั้น”
“แค๊ก แค๊ก! นี่มัน… ” “วันนี้อากาศดีจริง ๆ” ฉูจงฉวนกล่าวลั่วอู๋นั้นโมโหฉูจงฉวนและต้องการที่จะดุด่าเขา นอกจากนี้เขายังสามารถปรับปรุงคุณสมบัติดั้งเดิมของเขาได้ โดยไม่จำเป็นต้องมายังสถานที่อันตรายเช่นนี้
ดังนั้น ไอ้เจ้าบ้าฉูจงฉวนดันเดินลึกเข้าไปยังในสถานที่ที่อันตราย เพื่อทำให้ภูตของเขาได้วิวัฒนาการ“ได้โปรด อย่าโกรธข้าเลย” ฉูจงฉวนรู้สึกอายที่จะยิ้มออกมา จากนั้น เขาก็หยิบหินสีดำออกมาสองชิ้น “นี่คือสิ่งที่ข้าพบในหลุมฝังศพ มันดูเหมือนว่าจะเป็นหินที่เกิดจากการรวมตัวของไขกระดูกราชาวิญญาณ ข้าไม่แน่ใจว่ามันจะมีผลอะไรมากแค่ไหน แต่มันจะต้องมีค่าอย่างมาก ข้าให้มันกับเจ้าแล้วกัน”
ลั่วอู๋มองไปที่ฉูจงฉวนอย่างช่วยไม่ได้ จากนั้นเขาก็หยิบหินแก่นวิญญาณทั้งสองก้อนขึ้นมา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไหปีศาจ