ไหปีศาจ นิยาย บท 204

บทที่ 204
สุสานพิลึกหลังจากใช้ความสามารถของไหปีศาจแก้ไขคุณสมบัติของแมวผีไปกว่า 70 ครั้ง ในที่สุดลั่วอู๋ก็ได้รับการแจ้งเตือน มันสำเร็จแล้ว
เขามองไปที่คุณสมบัติของเสี่ยวหลวน ด้วยความพึงพอใจเผ่าพันธุ์: แมวผี
คุณสมบัติ: เงิน
มิติ: ระดับเงิน มิติที่ 2
ทักษะ: ความเร็วเหนือความตาย (ระดับ S), กรงเล็บวิญญาณ (ระดับ A), เงียบสงัด (ระดับ B), การโจมตีซ้ำสอง (ระดับ A), นัยน์ตาแห่งความมืดมิด (ระดับ B), จู่โจม (ระดับ A), ช่วงเวลาแห่งการล่า (ระดับ S)
พื้นเพ: สัตว์วิญญาณสันโดษชนิดหนึ่ง ชอบอาศัยอยู่ริมทะเลสาบ เมื่อตกอยู่ในอันตราย มันจะวิ่งหนีออกไปในทันที กรงเล็บอันแหลมคมของมันสามารถฉีกเหล็กได้อย่างง่ายดายเพียงแค่ 70 ครั้ง มันก็ได้พัฒนาทักษะที่ดีเพิ่มขึ้นมามากมาย
หากเขาพยายามหาทักษะเดียวกันเหล่านี้ด้วยการลงตราทักษะ เขาไม่รู้เลยว่าจะต้องเสียเวลาไปมากเท่าไหร่สำหรับเสี่ยวหลวนในการเรียนรู้ทักษะเหล่านี้

ในความเป็นจริงแล้ว หากลงมือทดลองอะไรเพิ่มเติมอีกไม่กี่ครั้ง ก็อาจทำให้แมวผีตัวนี้พัฒนาขึ้นไปอีกขั้นได้ แต่ เสี่ยวหลวนนั้นยังอยู่ในวัยกำลังเติบโตเขาจึงยังไม่ลงมือทำ

อีกอย่างเสี่ยวหลวนนั้นเป็นสัตว์วิญญาณของหลี่หยิน และเขาก็ยังไม่มีแมวผีตัวอื่นสำหรับใช้สังเคราะห์กับมัน ตอนนี้มันจึงถือว่าแข็งแกร่งมากแล้ว

ลั่วอู๋ส่งตัวแมวผีคืนกลับไปให้หลี่หยินอีกครั้ง ซึ่งหลี่หยินก็ดูเหมือนจะรับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงของเสี่ยวหลวน ทำให้นางรู้สึกตื่นเต้นอย่างมาก

“นายน้อย มันทรงพลังมากขึ้นจริง ๆ ท่านทำให้ เสี่ยวหลวนแข็งแกร่งขึ้นมากเลยเจ้าค่ะ”

ลั่วอู๋หัวเราะ “เรื่องเล็กน้อยน่า”
สัตว์วิญญาณตัวที่ 2 ของหลี่หยิน คือเสี่ยวไป่ ราชากระต่ายแห่งแดนสาบสูญ มันเป็นสัตว์วิญญาณที่ลั่วอู๋ไม่กล้าจะแก้ไขทักษะ เพราะทักษะ “ทะลวงมิติ” ของมันนั้นง่ายต่อการใช้งานและยอดเยี่ยมแล้ว

เขาได้รับความสามารถใหม่มา ถ้าเกิดเขาใช้มันได้ไม่ดี เขาก็อาจรู้สึกหดหู่ไปนานเลยทีเดียว หากทำทักษะดี ๆ หายไปเขาคงรู้สึกเหมือนกับเดินเปล่าเปลี่ยวยามค่ำคืนอยู่คนเดียว

เฮ้อ! ไปตามหาฉูจงฉวนกันต่อดีกว่า
ลั่วอู๋มองขึ้นไปที่เนินเขาตรงหน้า

มีสุสานขนาดใหญ่ที่มีความมืดขรึม มันคล้ายกับวังขนาดเล็ก ในตอนกลางวันที่ลั่วอู๋เดินมาตรงนี้ในตอนกลางวัน เขาไม่เห็นว่ามันจะมีสถานที่แบบนี้อยู่เลย

ลั่วอู๋เดินต่อไปยังข้างหน้า ทันใดนั้นแมลงกินวิญญาณก็กระพือปีกอย่างบ้าคลั่ง

มีผีทหารในชุดเกราะพร้อมหอกในมืออยู่ตนหนึ่ง มันดูหม่นหมองและบ่นพึมพำ “ขอพระเจ้าทรงอวยพร!”

แรงกดดันวิญญาณของมันรุนแรงกว่าผีระดับต่ำก่อนหน้านี้มาก มันมีความแข็งแกร่งอยู่ในระดับทองแดง มิติที่ 6 แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่มีความนึกคิด

“ขอพระเจ้าทรงอวยพร!” เมื่อผีทหารเห็นลั่วอู๋ มันก็ตะโกนออกมาและรีบวิ่งเข้าไปหาเขา

ลั่วอู๋สะบัดดาบระบำแห่งความตาย
ทำให้หอกมายาของผีทหารสลายหายไปในทันที
“ไหลลงไปซะ!”
ลั่วอู๋จับร่างผีทหารเข้าไปในไหปีศาจ
“แปลกจังทำไมถึงมีผีทหารอยู่ในที่แห่งนี้กัน?” ลั่วอู๋ขมวดคิ้ว
เขามองไปที่ข้อมูลของผีทหารเผ่าพันธุ์: ผีทหาร
คุณสมบัติ: ทองแดง
มิติ: ระดับทองแดง มิติที่ 6
ทักษะ: พุ่งตัว (ระดับ D)
พื้นเพ: ทหารที่สละชีวิตเพื่อความอยู่รอดของเผ่าพันธุ์มนุษย์จนกลายเป็นวิญญาณด้วยจิตใจอันแรงกล้า แต่สภาพจิตใจนั้นก็เริ่มเสื่อมสลายตามกาลเวลาที่ผ่านไป

หลังการตรวจสอบคุณสมบัติแล้ว ลั่วอู๋ก็รู้สึกเศร้าหมอง ทหารที่สละชีวิตเพื่อความอยู่รอดของมนุษย์อย่างงั้นหรือ? ในประวัติศาสตร์เคยเกิดภัยพิบัติครั้งใหญ่ที่เกือบจะทำลายมนุษยชาติด้วยอย่างงั้นหรือ??

แต่ตอนนี้มันไม่ใช่เวลามามัวคิดถึงเรื่องนี้
เพราะลั่วอู๋ได้พบความจริงว่า ยิ่งเดินเข้าขึ้นไปบนเนินเขามากเท่าไหร่ ผีที่อยู่รอบ ๆ ก็ยิ่งมีพลังมากขึ้น ยิ่งไปกว่านั้น พวกมันส่วนใหญ่เริ่มแต่งตัวคล้ายทหารและล้วนเป็นผีระดับสูงขึ้นเรื่อย ๆผีระดับนายพลนั้นมีความแข็งแกร่งอยู่ในระดับเงิน
แรงกดดันวิญญาณของมันเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
ลั่วอู๋เรียกผีเสื้อปีกมายาอมตะออกมา
“ใช้ทักษะ นกอมตะเริงระบำ!”
ผีเสื้อปีกมายาอมตะกระพือปีกของมัน ปีกของมันลุกโชนไปด้วยเปลวไฟสีแดง เปลวไฟรวมตัวกันเป็นนกอมตะที่กำลังเริงระบำ อุณหภูมิที่ร้อนสูงอย่างน่ากลัวจนเหล่าผีทหารโดนกวาดราบเป็นหน้ากลองเปลวไฟของนกอมตะนั้นไม่เหมือนกับเปลวไฟแห่งนิพพาน
นกอมตะเริงระบำเป็นเพียงวิธีการจู่โจมระดับธรรมดาของนกอมตะศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น แต่ไฟแห่งนิพพานนั้นเป็นเปลวไฟแก่นแท้ของนกอมตะ
แต่เปลวไฟของนกอมตะธรรมดา นั่นก็ยังถือเป็นพลังของนกอมตะ มันจึงมีพลังที่ใช้ในการยับยั้งความมืดและความชั่วร้าย

ทักษะนกอมตะเริงระบำได้กวาดเหล่าผีทหารจนราบเป็นหน้ากลอง

“น่าเสียดายชะมัด ที่ข้าไม่สามารถจับพวกมันไว้ได้” ลั่วอู๋รู้สึกเสียใจ แต่สถานการณ์ก่อนหน้านี้นั้นถือว่ากำลังวิกฤตมาก จนทำให้เขาต้องทำแบบนั้น

ในที่สุดลั่วอู๋ก็มาถึงหน้าหลุมฝังศพขนาดใหญ่
ที่หน้าหลุมฝังศพนั้นมีหินจารึกที่สลักคำบางอย่างเอาไว้

“ข้าต้องการใช้หลุมฝังศพนี้เพื่อเป็นที่ระลึกแด่บรรดาทหารนายพลที่เคยต่อสู้ ณ ดินแดนแห่งนี้ ขอให้พวกท่านหลับอย่างสงบ และไม่เป็นภัยต่อโลกใบนี้อีกต่อไป”

ลั่วอู๋รู้สึกเสียวสันหลัง
มีหลุมศพและประวัติอยู่มากมาย ณ ที่แห่งนี้
ดูเหมือนว่าสุสานแห่งนี้ ถูกสร้างขึ้นไว้สำหรับเหล่าทหารนายพล ระดับทั้งกองทัพเลยด้วยซ้ำลั่วอู๋ได้พบหยกชิ้นหนึ่งตกอยู่ที่หน้าทางเข้าของสุสาน
มันคือหยกจิงเสี่ยว
มันเต็มไปด้วยแสงสีทองอร่าม และพลังวิญญาณอันสูงส่ง

ลั่วอู๋ยิ้มเจื่อน ๆ หยกชิ้นนี้ดูเหมือนจะเป็นของฉูจงฉวน ดูเหมือนว่าเขาน่าจะมายังที่แห่งนี้จริง ๆ และคงจะไปติดเข้ากับ กับดักอะไรสักอย่าง

ไอ้เวรเอ๊ย เจ้ามาทำอะไรในสถานที่อันตรายเช่นนี้ในเวลาแบบนี้กัน
แบบนี้ข้าก็ต้องเข้าไปช่วยเจ้านะสิ ไม่งั้นข้าคงรู้สึกแย่ไปตลอดแน่
แต่เจ้าก็คงบอกข้าว่า “ถ้าจะมาช่วยข้าออกไปทำไม มันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรอีกใช่ไหมเนี่ย?” ลั่วอู่ดุด่าฉูจงฉวนอยู่ในใจแต่มันไม่น่าจะใช่ทางนี้แน่ เพราะตั้งแต่ที่เขาเข้ามาที่นี่
เขายังไม่พบฉูจงฉวนในสถานที่แห่งนี้เลย

ด้านหน้าสุสานนั้นเหมือนกับวังขนาดใหญ่ ที่มีความสง่างาม แต่ก็ดูน่ากลัว และบรรยากาศก็ชวนให้ขนลุก มีผีล่องลอยอยู่ทั่วสุสาน สองความรู้สึกแปลกประหลาดผสมผสานเข้าด้วยกัน

ทางตรงหน้าของเขาดูเหมือนกับเขาวงกต ล้อมทับซ้อนอยู่เจ็ดถึงแปดรอบ ทำให้ผู้ที่เข้ามาสับสนจนเวียนหัว

ที่แย่ไปกว่านั้น ผีในสุสานนั้นมีความผิดปกติเล็กน้อย
มันมีผีทหารหัวขาดระดับนายพลขี่อยู่บนม้าขาว
ส่วนหน้าอกที่กลวงโบ๋และถือโล่ไว้ที่มือ มีรูปร่างขนาดใหญ่ยักษ์
และผีนักธนูที่อยู่ด้านหลังก็มีแววตาราวกับนกอินทรี“ดูเหมือนจะไม่ง่ายเท่าไหร่ซะแล้วสิ” ลั่วอู๋เรียกต้าหวงออกมา เขาปล่อยให้ต้าหวงตามหาฉูจงฉวนด้วยการดมกลิ่น
แต่ในขณะที่ต้าหวงปรากฏตัวออกมา ร่างกายของมันก็สั่นไหว และดวงตาของมันก็แสดงออกถึงความกลัว
สีหน้าของลั่วอู๋เปลี่ยนไป
ผ่านทางสัมผัสทางจิตใจ เขารู้ว่าต้าหวงรู้สึกอย่างไร
ที่สุสานแห่งนี้ น่าจะมีผีระดับสูงกว่า 20 ตัว หรืออาจจะมากกว่า 100 ตัวด้วยซ้ำ ลั่วอู๋คงไม่สามารถต้านเอาไว้ได้หมดแน่
“ที่นี่มันบ้าอะไรกัน?”

จากการวิเคราะห์ของต้าหวงนั้น ถ้ากองทัพเหล่านี้หลุดออกไปภายนอก มันก็เพียงพอที่จะกลายเป็นกองทัพอันน่ากลัว และสามารถเข้าถล่มยึดได้ครึ่งทวีปเลยทีเดียว

“กลั้นหายใจและคอยระวังตัวเอาไว้ ถ้าหากสถานการณ์ตอนนี้แย่ละก็ ให้เรียกเสี่ยวไป่ออกมาทันที” ลั่วอู๋กระซิบ

หลี่หยินรีบพยักหน้า
ลั่วอู๋เริ่มเดินสำรวจสุสานที่พิลึกแห่งนี้
ลมปราณของฉูจงฉวนนั้นอยู่ไม่ไกลจากทางเข้าประตูสุสาน แต่เขากลับอยู่ใกล้กับสิ่งมีชีวิตที่น่ากลัวอย่างมาก และลั่วอู๋ก็กลัวอย่างมากที่จะเข้าไปใกล้มันทันใดนั้น สุสานก็เริ่นสั่นสะเทือน
เสียงแปลก ๆ พูดขึ้นมา ราวกับว่ากำลังโยนเหล็กร้อน ๆ ลงไปในน้ำที่นิ่งสงัด หลังจากทั่วทั้งสุสานได้สั่นสะเทือน
ลมปราณที่ไม่อาจต้านทานได้นับร้อยเริ่มระเบิดออกมา

“เกิดอะไรขึ้น? จลาจลงั้นเหรอ” ที่มือของลั่วอู๋นั้นเต็มไปด้วยเหงื่อ

หลี่หยินรีบเรียกเสี่ยวไป่และเตรียมพร้อมที่จะหนีออกไปทันที แต่ลั่วอู๋กลับหยุดเธอไว้ “เดี๋ยวก่อนตำแหน่งของฉูจงฉวนตอนนี้เริ่มขยับแล้ว ดูเหมือนว่าเขากำลังมุ่งมาหาพวกเราแล้ว ไปตามหาเขากัน เขาอาจจะต้องการความช่วยเหลือก็ได้” ลมปราณที่ไม่อาจต้านทานพุ่งเข้ามาล้อมรอบตัวพวกเขา

นี่ส่งผลให้ ทั้งลั่วอู๋และหลี่หยินต้องเร่งฝีเท้า ไม่ว่ามันจะเกิดจากความมุ่งร้ายของเหล่าผีที่อยู่รอบข้างหรือไม่นั้น พวกเขาก็ต้องรีบไปยังทิศทางของฉูจงฉวนและรับตัวเขามาให้ไวที่สุด

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไหปีศาจ