บทที่ 208
ดาบระบำแห่งความตายตะขาบหัวใจสีม่วง
สัตว์วิญญาณชนิดนี้เป็นสัตว์วิญญาณที่หาได้เฉพาะในแถบหุบเขามรณะ ซึ่งไม่สามารถพบได้ที่โลกภายนอก หลายคนจึงไม่เคยได้รับรู้ถึงรูปร่างของตะขาบหัวใจสีม่วง
สัตว์วิญญาณชนิดนี้สามารถเปลี่ยนเป็นรูปแบบไปยึดติดบนร่างของสิ่งมีชีวิตอื่นได้ และเมื่อมันตกอยู่ในอันตราย มันก็ปรากฏตัวออกมาโจมตีคู่ต่อสู้ด้วยหมอกพิษอันน่ากลัว
ดังนั้นในเผ่าที่ห่างไกลของหุบเขามรณะ หลายคนถึงกับใช้ตะขาบหัวใจสีม่วงเป็นรอยสักและถือว่ามันเป็นเทพคุ้มครอง
เนื่องจากตะขาบหัวใจสีม่วงสามารถเกาะติดตัวไปทุกที่และปกป้องพวกเขาได้
ลั่วอู๋ไม่คาดคิดมาก่อนว่ารอยสักบนแขนของคู่ต่อสู้จะกลายเป็นตะขาบตัวใหญ่ขนาดนี้ได้ แต่เขาก็เตรียมรับมือในกรณีที่ต้องต่อสู้กันตรง ๆ เอาไว้แล้ว
“ลมปราณแห่งเพลิงและวายุ!” ลั่วอู๋ออกคำสั่ง
หัวใจของหยีเทียนเฉินรู้สึกแน่นขึ้นในทันที
เขารู้สึกว่าอากาศข้างหลังเขาเริ่มแปรปรวน ไอความร้อนอันร้อนระอุปกคลุมเขาและเปลวไฟนกอมตะอันน่ากลัวได้กลายมาเป็นวังวนล้อมเขาเอาไว้
ผีเสื้อปีกมายาเพลิงอมตะถูกเรียกออกมาโดยลั่วอู๋ มันซ่อนอยู่ด้านข้างของเขามาตลอด และในตอนนี้มันก็ปรากฏขึ้นมาเข้าโจมตีศัตรูของเขาในทันที นี่ทำให้หยีเทียนเฉินต้องถอยหลังด้วยความประหลาดใจ
ทุกอย่างอยู่ในการคำนวณของลั่วอู๋แล้ว
ตะขาบหัวใจสีม่วงรีบหันหัวไปที่ลั่วอู๋แล้วพ่นหมอกสีขาวใส่เขา
แม้ว่ามันจะเป็นหมอกพิษที่มาจากสัตว์วิญญาณ ระดับทอง แต่มันก็ถูกเปลวเพลิงของผีเสื้อปีกมายาเพลิงอมตะกลืนหายระเหิดไป มันเป็นการแก้ทางที่เหนือกว่าโดยสมบูรณ์จริง ๆไฟนั้นมีความสามารถในการระงับพลังของหมอกพิษ
ยิ่งไปกว่านั้นนี่ไม่ใช่ไฟธรรมดา ๆ แต่อย่างใด
“ แกร๊ก!”
ตะขาบหัวใจสีม่วงถูกโจมตีโดยเปลวไฟนกอมตะ เปลือกสีม่วงของมันก็ถูกไฟเผาไหม้ไปทุกหนทุกแห่ง ถึงอย่างนั้นมันก็พยายามปกป้องร่างกายของหยีเทียนเฉินอย่างสุดความสามารถ“ตะขาบหัวใจสีม่วง!” หยีเทียนเฉินร้องออกมาด้วยความเสียใจ
ในกรณีที่ปราศจากการคุ้มกันจากฝูงแมลงกินวิญญาณ แมลงกินวิญญาณระดับนางพญาของเขาก็จะไม่ถือว่าเป็นสัตว์วิญญาณที่แข็งแกร่ง ดังนั้นสัตว์วิญญาณเพียงตัวเดียวที่มีประสิทธิภาพในการต่อสู้อย่างแท้จริงของเขาก็คือตะขาบหัวใจ สีม่วงตัวนี้หยีเทียนเฉินคำรามอย่างบ้าคลั่ง “ใช้ สะเทือนปฐพี เร็ว!”
สะเทือนปฐพี นั่นเป็นทักษะ ระดับ S
ตะขาบหัวใจสีม่วงใช้หางขนาดใหญ่โตของมันตบพื้น ทำให้ทั่วทั้งพื้นทั้งหมดเริ่มสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง พื้นดินแตกออกและต้นไม้ต่างก็ล้มพังทลายลงมา
ยิ่งกว่านั้น มันยังทำให้เกิดหินจำนวนนับไม่ถ้วนจะพุ่งบินไปหาศัตรู สร้างความเสียหายไปทั่วพื้นที่อย่างมาก
อย่างไรก็ตามลั่วอู๋นั้นไม่ได้ตื่นตระหนก
ใช้งานทักษะ [ก้าวพริบตา]
ต้าหวงใช้ทักษะก้าวพริบตา ปรากฏมาตรงหน้าของตะขาบหัวใจสีม่วงในทันที มันอ้าปากขนาดใหญ่กัดลงบนตัวของตะขาบใช้งานทักษะ [พิชิตโค่นล้ม]
พลังอันน่ากลัวของทักษะพิชิตโค่นล้มเขากดร่างของตะขาบหัวใจสีม่วงในจังหวะนั้นการเคลื่อนไหวของมันจึงช้าลงอย่างมาก
ทักษะสะเทือนปฐพีเองก็ค่อย ๆ บรรเทาลง
แต่การโจมตีของต้าหวงนั้นยังไม่จบลงเพียงแค่นี้ ทักษะความมืดมิดกลืนกินได้เริ่มขึ้น จุดสีดำอันน่ากลัวก็ปรากฏขึ้นทันที หลุมดำนั้นฉีกร่างของตะขาบหัวใจสีม่วงและกลืนกินมันเข้าไป“แกร๊กก!” ตะขาบหัวใจสีม่วงร้องครางอย่างเจ็บปวด
เพียงชั่วพริบตาร่างกายของมันก็ถูกกลืนหายไปครึ่งหนึ่ง
“หยุดเดี๋ยวนี้นะ!” หยีเทียนเฉินคำรามอย่างดุเดือด ดูเหมือนว่าแมลงกินวิญญาณระดับนางพญาบนไหล่ของเขากำลังจะออกไปโจมตีขัดขวาง แต่ผีเสื้อปีกมายาเพลิงอมตะก็ได้ใช้ทักษะ [มิติเวทมนตร์] ออกมาสกัดมันเอาไว้หยีเทียนเฉินยืนนิ่งอยู่กับที่ และได้สูญเสียการมองเห็นไป
ครู่ต่อมาเขาก็ตื่นขึ้นมาด้วยเหงื่อเย็นราวกับว่าเขาได้ประสบเข้ากับประสบการณ์อันน่ากลัว และเมื่อเขาได้สติพื้นขึ้นมา เขาก็ล้มลงกับพื้นด้วยขาที่ออกแรง จากนั้นเขี้ยวอันน่าสะพรึงกลัวของสุนัขสีเงินตัวใหญ่ก็เขามาประชิดลำคอของเขาตะขาบหัวใจสีม่วงกลายเป็นรอยสักกลับมาที่แขนของเขา แต่ร่างของมันบัดนี้เหลือเพียงแค่ครึ่งเดียว เห็นได้ชัดว่ามันได้รับบาดเจ็บสาหัส
“มีแผ่นหยกถึงเจ็ดแผ่นเลยงั้นเหรอเนี่ย ?” ลั่วอู๋ชิงแผ่นหยกของอีกฝ่ายออกมาอย่างไม่สุภาพ
หยีเทียนเฉินที่นอนอยู่บนพื้นเต็มไปด้วยความหงุดหงิดบนสีหน้า
เมื่อมองไปที่หยีเทียนเฉิน ลั่วอู๋ก็พูดติดตลก “ข้าให้สัญญากับทางตระกูลฉูว่า จะไม่มีวันปล่อยให้คนของทางตระกูลมู่ผ่านการทดสอบ เจ้าคิดว่าข้าควรจะทำอย่างไรกับเจ้าดี?”
“ถ้าเจ้าต้องการละก็ ฆ่าข้าซะสิ ผู้คนจากหุบเขามรณะอย่างข้าไม่ใช่คนที่กลัวความตายหรอกนะ” หยีเทียนเฉินคำรามลั่วอู๋ยิ้มเยาะ “ตกลง”
ดาบระบำแห่งความตายถูกแทงลงเข้าที่หน้าอกของ หยีเทียนเฉิน จากนั้นมันก็กลืนกินเลือดทั้งหมดของหยีเทียนเฉินไปดวงตาของหยีเทียนเฉินเบิกตากว้างและเหี่ยวแห้งลงอย่างรวดเร็ว
เขาคงไม่คาดคิดว่าลั่วอู๋จะฆ่าเขาลงทันทีโดยไม่ลังเลเช่นนี้
“ทำไม เมื่อเขาตายลง ตะขาบหัวใจสีม่วงและแมลงกินวิญญาณระดับนางพญาถึงได้หายไปด้วยล่ะ ?” ลั่วอู๋สับสนเล็กน้อย แต่ในไม่ช้าเขาก็ถูกดาบระบำแห่งความตายดึงดูดความสนใจไปทางมันแทน
หยีเทียนเฉินนั้นเป็นผู้ใช้พลังวิญญาณที่ได้มาถึงขอบเขตของผู้ใช้พลังวิญญาณระดับสูงแล้ว เลือดของเขาจึงมีประโยชน์อย่างมากในการพัฒนาดาบระบำแห่งความตาย
ที่ดาบระบำแห่งความตายนั้นเริ่มเรืองแสงด้วยแสงสีแดง ราวกับว่าพลังวิญญาณของดาบถูกตัดขาดขาดออกเป็นชิ้น ๆ มันมีสีเลือดกระจายไปทั่วและมันน่าทึ่งมาก
ต่อมาแสงสีแดงนั้นก็ดับลง และลมปราณวิญญาณในตัวดาบก็ได้รับการปรับปรุงพัฒนาขึ้นอย่างมาก
แก่นวิญญาณของดาบระบำแห่งความตายได้รับการ อัพเกรดจากระดับ ปฐพี เป็นระดับสวรรค์จริง ๆ แล้ว
คลื่นดาบสีแดงถูกปล่อยออกมาจากใบดาบ มันตัดลงบนต้นไม้ใหญ่ที่อยู่ไม่ไกลนัก จากนั้นต้นไม้ต้นนั้นก็ล้มลง และรอยตัดนั้นก็เรียบเนียนราวกับถูกตัดออกจากกันด้วยบางสิ่ง
“สมควรแล้วที่เจ้านี่เป็นดาบในระดับสวรรค์ มันมีคุณสมบัติเพียงพอแล้วที่จะก้าวเข้าสู่การเป็นดาบมนตรา” ลั่วอู๋คิดเขาไม่ได้มีความรู้ในเรื่องศิลปะการต่อสู้เลย
คลื่นพลังวิญญาณที่ออกมาจากดาบนั้นถูกสร้างขึ้นโดยความสามารถของดาบเอง
เขาอดไม่ได้ที่อยากจะเป็นนักดาบขึ้นมา
หลังจากการเสื่อมถอยของศิลปะการต่อสู้โบราณ หากผู้ใช้พลังวิญญาณคนใดต้องการจะบรรลุวิชาของนักดาบโบราณ มันจะเป็นเรื่องที่ยุ่งยากและต้องผ่านการฝึกที่เข้มงวดมาก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไหปีศาจ