ไหปีศาจ นิยาย บท 231

สรุปบท บทที่ 231 อันดับหนึ่ง: ไหปีศาจ

บทที่ 231 อันดับหนึ่ง – ตอนที่ต้องอ่านของ ไหปีศาจ

ตอนนี้ของ ไหปีศาจ โดย Internet ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายทะลุมิติทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 231 อันดับหนึ่ง จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

บทที่ 231
อันดับหนึ่ง

ทูตเฉียนหลงทั้งสามจ้องมองไปที่ลั่วอู๋สายตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความงงงวยและสับสน

“เฮ้ เฉินหวู่จี้ เจ้านี่มันคือคนในพื้นที่ของเจ้าใช่ไหม ? ข้าคาดคิดเลยว่าคนของเจ้าจะใช้วิธีโกง มันช่างน่าอับอายจริง ๆ” ฟังเต๋าพูดอย่างชิงชัง

“ออกไปจากที่นี่ซะ” เฉินหวู่จี้ดุว่า “มิติเหนือเมฆนั้นไม่มีข้อบกพร่อง มีเพียงแค่พวกข้าเท่านั้นที่จะสามารถเปิดมันได้ ซึ่งแน่นอนว่าแม้แต่พวกข้าเองก็ไม่สามารถเปลี่ยนรายละเอียดข้างในนั้นได้”

ทูตเฉียงหลงที่สวมหน้ากากมังกรขาวไม่ได้สนใจพวกเขา แต่กลับมองไปที่ลั่วอู๋อย่างเคร่งเครียด “เจ้าออกมาได้อย่างไรกัน?”

“ไม่รู้สิ”
ลั่วอู๋ไม่รู้จริง ๆ
เขาออกจากโลกที่เหมือนกับจินตนาการมาได้อย่างลึกลับ

ทูตเฉียงหลงที่สวมหน้ากากมังกรขาวมองไปที่ลั่วอู๋อย่างสงสัย เขาหันหน้าไปถามเฉินหวู่จี้ด้วยเสียงต่ำ “เด็กคนนี้มาจากที่ไหน? การทดสอบสองรอบแรกเขาเป็นยังไงบ้าง?”

“คุณสมบัติระดับ B ส่วนการประเมินรอบสองไม่มีแผ่นหยกสักใบ” เฉินหวู่จี้คิดสักพักแล้วพูด

ทูตเฉียงหลงที่สวมหน้ากากมังกรขาวขมวดคิ้ว “ไม่มีแผ่นหยกแต่สามารถผ่านการทดสอบมาได้เนี่ยนะ เจ้าล้อข้าเล่นเหรอ ?”
“คนอื่นตายกันหมดแล้ว เหลือแค่ 49 คนนี้เท่านั้น เจ้าเป็นคนขอให้ข้าทำแบบนี้เองนี่นา” เฉินหวู่จี้กล่าว

ทูตเฉียงหลงที่สวมหน้ากากมังกรขาวมองลั่วอู๋ด้วยอาการปวดหัว “เกิดอะไรขึ้นกันแน่เนี่ย เจ้าตามข้ามา ข้าจะส่งเจ้ากลับไปในมิติเหนือเมฆอีกรอบเอง”

ลั่วอู๋ทำได้เพียงแค่เดินตามทูตเฉียงหลงที่สวมหน้ากากมังกรขาวอย่างเชื่อฟังเข้าไปในหมู่เมฆ

“กลับเข้าไป” ร่างของทูตเฉียงหลงที่สวมหน้ากากมังกรขาวเต็มไปด้วยพลังวิญญาณ เขาดูเหมือนกำลังลำบากอย่างมาก จากนั้นลั่วอู๋ก็ถูกปกคลุมด้วยหมู่เมฆ

ทูตเฉียงหลงที่สวมหน้ากากมังกรขาวปล่อยพลังวิญญาณออกมา เขาต้องนำชายคนหนึ่งกลับไปอยู่ในมิติเหนือเมฆ นี่มันเรื่องง่าย ๆ เลย เขาต้องจ่ายพลังวิญญาณไปอย่างมาก

“อืม รออย่างน้อยสามวัน จากนั้นผู้แพ้ก็จะถูกส่งกลับไป” ทูตเฉียงหลงที่สวมหน้ากากมังกรขาวกล่าว

เฉินหวู่จี้และฟังเต๋าพยักหน้า แต่แล้วพวกเขาก็ดูเหมือนจะได้เห็นบางสิ่งบางอย่างที่น่ากลัว ตาของพวกเขาเบิกกว้าง
ทูตเฉียงหลงที่สวมหน้ากากมังกรขาวงงงวยกับท่าทีของสหายทั้งสองของเขา “พวกเจ้าเป็นอะไรกัน ?”

พวกเขาชี้ไปที่ด้านหลังของทูตเฉียงหลงที่สวมหน้ากากมังกรขาว

ชายผู้สวมหน้ากากมังกรขาวหันศีรษะไปและพบว่ามีเงาจาง ๆ ค่อย ๆ ควบแน่นกลายเป็นร่าง จากนั้นก็มีคนเดินออกมาอีกครั้ง

“ดูเหมือน ข้าจะออกมาได้อีกแล้ว” ลั่วอู๋พูดด้วยรอยยิ้มเจื่อน ๆ

ทูตเฉียงหลงที่สวมหน้ากากมังกรขาวไม่รู้ว่าจะใช้คำพูดอะไรในการแสดงความรู้สึกของเขา เขาเป็นผู้ควบคุมมิติเหนือเมฆมากว่าหกครั้ง แต่เขาก็ไม่เคยเห็นสถานการณ์เช่นนี้มาก่อน

แม้แต่ทูตเฉียนหลงรุ่นก่อนก็ไม่เคยบอกเขาเกี่ยวกับสถานการณ์เช่นนี้

ลั่วอู๋นั้นหมดหนทางจริงๆ
เมื่อเขาเข้าไปสู่มิติเหนือเมฆ ทันทีที่จินตนาการรอบข้างก่อตัวขึ้น พวกมันก็พังทลายลงราวกับว่าไม่สามารถทนเขาได้

“ข้าไม่เชื่อว่ามันจะไม่มีปัญหาในระบบของมิติเหนือเมฆ” ทูตเฉียงหลงที่สวมหน้ากากมังกรขาวหายใจเข้าลึก ๆ ความโกรธเล็กน้อยปรากฏขึ้นในดวงตาของเขา จากนั้นเขาก็เปิดมิติเหนือเมฆ

ลั่วอู๋ถูกส่งกลับเข้าไปในมิติเหนือเมฆอีกรอบ
แต่ครู่ต่อมาลั่วอู๋นั้นก็เดินออกมาอีกครั้ง
ทูตเฉียงหลงทั้งสามรู้สึกเหมือนตกนรก
“เจ้ากลับเข้าไปเลยนะ!”
ทูตเฉียงหลงที่สวมหน้ากากมังกรขาวเปิดมิติเมฆ ส่งลั่วอู๋กลับเข้าไปอีกครั้ง แต่ลั่วอู๋ก็ยังเดินกลับออกมาได้อยู่ดี“ ……” ทั้งสามพูดไม่ออก
“จะเอายังไงกันต่อดี ?” เฉินหวู่จี้ถามด้วยสายตาที่ว่างเปล่า
ทูตเฉียนหลงผู้สวมหน้ากากมังกรขาวส่ายหัว “ข้าเกรงว่าพวกเราคงทำได้เพียงแค่ประกาศว่าเขาล้มเหลว และไม่ผ่านการทดสอบในรอบที่สาม”

ลั่วอู๋รู้สึกกังวล “ไม่ ๆ มันเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นจากการทดสอบของพวกท่าน! ใครเป็นคิดค้นมิติเหนือเมฆ ท่านก็ควรขอให้เขาออกมาซ่อมแซมมันสิ”

ดวงตาของลั่วอู๋ขยับ
เป็นคนลึกลับมาก? ความคิดแวบหนึ่งผุดเข้ามาในใจของเขา บางทีชายลึกลับคนนี้อาจเป็นภูตไหก็เป็นได้?

นี่เป็นคำอธิบายที่สมเหตุสมผลที่สุด
แต่
มันไม่มีประโยชน์ ต่อให้เขารู้ว่ามันเกิดจากเหตุใด เขาก็ยังไม่สามารถเข้าสู่มิติเหนือเมฆได้อยู่ดี

และตอนนี้พวกเขาทั้งหมดอยู่บนท้องฟ้าสูงลิ่ว
ในที่สุดลั่วอู๋ก็เลือกที่จะยอมแพ้
เกรงว่าลั่วอู๋จะต้องฝากให้ฉูจงฉวน ช่วยเขาในการสืบสวนหาที่อยู่ของภูตไห“งั้นข้ากลับไปก็ได้” ลั่วอู๋กล่าว
ทูตเฉียงหลงที่สวมหน้ากากมังกรขาวปฏิเสธอีกครั้ง “ตราบใดที่มิติเหนือเมฆยังไม่ปิด ก็ไม่มีใครสามารถออกไปจากที่นี่ได้ นี่คือกฎเหล็กที่ไม่มีใครสามารถละเมิดได้”

สามวันต่อในที่สุดก็มีคนเดินออกมา
เขาดูอ้วนเล็กน้อย
“บททดสอบนี้มันยากเกินไปแล้ว” ใบหน้าของเด็กชายคนนั้นซีดเซียว เห็นได้ชัดว่าเขายังอยู่ในความกลัว

ลั่วอู๋พยักหน้าอย่างเศร้าโศก
“เร็วแค่ไหนกัน ? เจ้าออกมาตั้งแต่เมื่อไหร่ ?” เด็กอ้วนคนนั้นถามลั่วอู๋ตอบไป “เมื่อสามวันก่อน”
เด็กชายตัวอ้วนแทบจะสำลักน้ำลายในทันที “อ๊ะ? สามวันก่อน แต่การประเมินของเราเพิ่งเริ่มได้เพียงแค่สามวันเองไม่ใช่เหรอ ? เจ้ามันห่วยเกินไปแล้ว”

ชายหนุ่มที่ล้มเหลวในวันแรกนั้นถือว่าอ่อนแอแค่ไหนกัน?

ลั่วอู๋กลอกตาด้วยความโกรธและไม่อยากจะตอบอะไรกลับไป

ไม่กี่วันต่อมาก็มีการส่งตัวผู้คนออกมาอีก ทว่าพวกเขาเหล่านั้นทุกคนล้มเหลว สีหน้าของพวกเขาหดหู่ราวกับถูกทุบตีแหลกเป็นชิ้น ๆ

“อย่าเพิ่งท้อไปเลยพี่น้อง พวกเจ้าพยายามได้ดีมากแล้ว”
ในเวลานี้เด็กชายตัวอ้วนได้กระโดดออกมาและตะโกนว่า “อย่างน้อยพวกเจ้าก็ทนได้มากกว่า 2-3 วัน พวกเจ้ารู้ไหมว่ามีคนที่ล้มเหลวในตั้งแต่วันแรกอยู่ด้วย”ผู้คนต่างประหลาดใจ
วันแรกแทบจะเป็นเพียงแค่การแสดงจุดเริ่มต้นของฉากวันโลกาวินาศ คนธรรมดาที่มีจิตใจแข็งแกร่งนั้นสามารถผ่านวันแรกมาได้สบาย ๆ“ใครกัน?” ชายคนหนึ่งถามด้วยความประหลาดใจ
เด็กชายตัวอ้วนชี้ไปที่ลั่วอู๋ด้วยความตื่นเต้น “นั่นไง เขาคือคนแรกที่ล้มเหลวในการทดสอบ เขาทนการทดสอบไม่ได้เลยแม้แต่วันเดียว”

ลั่วอู๋ได้แต่ทนยอมรับความเห็นอกเห็นใจของผู้คนที่แฝงไปด้วยแววตาเย้ยหยันและเสียงหัวเราะเล็กน้อย

จะพูดอะไรอีกไหม ?
เขาคงอธิบายสาเหตุได้ไม่ชัดเจนพอ และเขาก็คงสู้กับอีกฝ่ายไม่ไหว

มีการส่งผู้คนออกมามากขึ้นเรื่อย ๆ หลายคนมีท่าทีมึนงงและดูเหมือนจะได้รับความทุกข์ทรมานจากมิติเหนือเมฆแสนสาหัส

ในที่สุดเวลาเดือนกว่าก็ผ่านไป
ผู้ชายที่มีกล้ามเนื้อน่ากลัวมากราวกับมันกำลังจะระเบิดออกมา พลังวิญญาณของเขามหาศาลดูเหมือนจะไม่เสถียร และลมปราณของเขาก็เหมือนกับสัตว์ประหลาด
“มีคนผ่านการทดสอบออกมาแล้ว” “แม้ว่าพลังของเขาจะยังไม่มั่นคง แต่เขาก็ผ่านมาได้ในอันดับหนึ่ง”เขาคือหนึ่งในลูกหลานของตระกูลจี๋อี๋
หลังจากนั้นไม่นานบุคคลที่ผ่านการทดสอบคนอื่น ๆ ก็ถูกส่งออกมา

หนานกงหยิงเอ๋อ, ทัวป๋าเจียฉี, เหวินเสี่ยว และผู้มีพรสวรรค์คนอื่น ๆ ที่ ลั่วอู๋ไม่รู้จักมากมาย พวกเขาต่างก็มีสีหน้าที่ทรมานและไม่พึงพอใจเท่าไหร่นัก

พวกเขาต้องใช้เวลาพักใหญ่ ๆ ในการรับมือกับภาพลวงตาข้างในนั้น

ทว่าทูตเฉียงหลงที่สวมหน้ากากมังกรขาวนั้นกลับดูตื่นเต้นอยู่พอสมควร

ตามที่เขาคาดไว้ เหล่าวีรบุรุษจะปรากฏตัวขึ้นในช่วงเวลาที่คับขัน และเขาไม่สามารถประเมินความสามารถในอนาคตของผู้คนเหล่านี้ได้
เมื่อเวลาผ่านไปหมู่เมฆก็สลายลง และฉูจงฉวนผู้เต็มไปด้วยความเหนื่อยล้าบนใบหน้าของเขาก็เดินออกมาในที่สุด เขายืดเอวออกและถอนหายใจ

“ข้ามั่นใจได้เลยว่าข้าเหนื่อยมาก ทันทีที่ข้ากลับไปที่คฤหาสน์ตระกูลฉู ข้าจะพักผ่อนให้เต็มที่สักสองสามวัน”

จิตใจและอารมณ์ของเขายังคงปกติดี
ที่สำคัญคือเขายังคงสะอาดบริสุทธิ์ หลังจากที่ออกมาจากมิติเหนือเมฆ ซึ่งนั้นก็เพียงพอแล้วที่จะแสดงเจตจำนงความรักสะอาดของเขา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไหปีศาจ