ทันทีที่ฉูจงฉวนออกมาเขาดึงดูดความสนใจของทุกคน
ใบหน้าของทูตเฉียงหลงที่สวมหน้ากากมังกรขาวแสดงให้เห็นถึงความสนใจ “ทั้งที่ผ่านมิติเหนือเมฆและอยู่ในภาพลวงตามาร่วม 34 วัน ถึงเจ้าจะออกมาช้ากว่าคนอื่นเล็กน้อย แต่ทั้งอารมณ์และพลังวิญญาณกลับมั่นคงชัดเจนเจตจำนงเหนือกว่าใคร ๆ”
ฉูจงฉวนมองไปที่ฝูงชนฉูจงฉวนนึกถึงทุกสิ่งในที่เขาเจอในมิติเหนือเมฆและอดไม่ได้ที่จะรู้สึกว่ามันแย่มาก หากเจตจำนงของเขาหละหลวมละก็คงจะเกิดปัญหา
จากนั้นฉูจงฉวนก็เห็นลั่วอู๋ เขาจึงรีบเดินมาหา พร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้า “ข้าไม่คิดว่า เจ้าจะดูนิ่งได้มากขนาดนี้”
“อืม ใช่ข้านิ่ง มั่นคงดี” ลั่วอู๋กล่าวอย่างเศร้าโศกเด็กอ้วนตัวน้อยเปิดปากและพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ไม่ใช่แค่เขาไม่ผ่าน เขายังเป็นคนแรกที่ไม่ผ่านการทดสอบด้วย”
ดูเหมือนจะเขาคนนี้จะมีความสุขมากที่เห็นคนอื่นเจอเรื่องที่แย่กว่าตัวเอง แม้แต่ความผิดหวังที่เขาไม่ผ่านการทดสอบรอบที่สามก็ยังถูกลืมเลือนไป“หา? มันเกิดเรื่องแบบนั้นได้ด้วยเหรอเนี่ย ?” ฉูจงฉวนพูดไม่ออก “ข้าควรทำอย่างไรดีล่ะ ข้าสูญเสียโควตาในการเข้าร่วมสำนักเฉียนหลงของเจ้าไปแล้วใช่ไหม?”
ลั่วอู๋พยักหน้าอย่างช่วยไม่ได้ “มันก็คงต้องเป็นแบบนั้น”ลั่วอู๋ส่ายหัว “อย่ามัวเศร้าไปเลยน่า ว่าแต่เจ้าเจออะไรในมิติเหนือเมฆ ทำไมคนอื่นถึงดูมีบาดแผลทางจิตใจ ต่างจากเจ้าที่ดูไม่เป็นอะไรเท่าไหร่เลยล่ะ ?”
“ภาพลวงตาที่ข้าเจอคือมีปีศาจจำนวนมากบุกเข้ามาในจักรวรรดิ” ฉูจงฉวนเล่าว่า “มันเป็นวันคืนที่มืดมนจริง ๆ ข้าไม่เคยเห็นแสงอาทิตย์เลย ดูเหมือนว่าตลอดเวลาที่ข้าต่อสู้กับปีศาจพวกนั้น ข้านอนไม่หลับสนิททุกคืน และฝันถึงแต่การต่อสู้”
ลั่วอู๋รู้สึกประหลาดใจ“ เจอเข้าไปแบบนั้น จิตใจของเจ้าก็ยังมั่นคงได้อีกนะเนี่ย… โดยปกติแล้วเจ้าน่าจะประสาทเสียไปเลยไม่ใช่รึไง ?”
“คือมันก็มีเรื่องแปลก ๆ อยู่นะ คือทุกวันหลังสงคราม ข้าจะกลับไปที่ตระกูลฉูแล้วไปใช้บริการที่หอราตรีนิรันดร์ต่อ เพื่อล้างความเหนื่อยล้าหลังสงคราม สาว ๆ ที่อ่อนโยนและทำให้จิตใจของข้าสงบลงได้เสมอ” ฉูจงฉวนกล่าวด้วยน้ำเสียงที่กล้าหาญ
ลั่วอู๋ตกใจจนพูดอะไรไม่ออกยิ่งไปกว่านั้นเขาพูดเหมือนมันเป็นเรื่องปกติมาก
หลายคนให้ความสนใจมาที่ฉูจงฉวน และตัวฉูจงฉวนเองก็ไม่ได้ตั้งใจที่จะพูดเสียงเบา จึงเป็นที่แน่นอนว่ามีหลายคนได้ยินสิ่งที่เขาพูด
เหล่าผู้เข้าร่วมการทดสอบเต็มไปด้วยความรังเกียจในใจของพวกเขา สายตาของพวกเขาที่มีต่อฉูจงฉวนเต็มไปด้วยการดูถูก
อย่างไรก็ตามทูตเฉียงหลงที่สวมหน้ากากมังกรขาวยังคงชื่นชมฉูจงฉวน เพราะแม้ว่าในสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดเช่นนั้นเข้ามา เขานั้นสามารถปรับความคิดและจิตใจได้อย่างรวดเร็ว มันถือเป็นทักษะที่ดีชนิดหนึ่ง
ลั่วอู๋มองดูมิติเหนือเมฆด้วยความกังวลหลังจากผ่านไปหนึ่งเดือนผู้คนที่ผ่านการทดสอบ ก็จะสามารถออกจากมิติเหนือเมฆไปได้ตามใจชอบ แต่หลังจากหนึ่งเดือนจะไม่สามารถผ่านไปได้อีก
บางคนหลงไปในโลกแห่งจินตนาการของมิติเหนือเมฆและไม่สามารถหลุดพ้นจากภาพลวงตาเหล่านั้นได้ ทำให้พวกเขาไม่สามารถออกมาจากมิติเหนือเมฆได้
สามวันผ่านไปในพริบตา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไหปีศาจ