ไหปีศาจ นิยาย บท 233

บทที่ 233
กลับมาที่ตระกูลลั่วเหล่าคนที่ไม่ผ่านการทดสอบต่างถูกลั่วไป่เหาดึงดูด
เด็กอ้วนเย้ยหยัน “เจ้าแก่นี้เป็นใครกัน ? กำลังฝันกลางวันอยู่รึไง ? เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นใครกัน ถึงจะสามารถเข้าไปในสำนักเฉียนหลงได้”เขาได้พูดเสียงในใจของคนอื่น ๆ ออกมา
ทุกคนที่นี่ต่างก็ต้องการผ่านเข้าสู่สำนักเฉียนหลง อีกฝ่ายจะมาพูดพล่อย ๆ แบบนี้ได้ยังไงกัน?

ลั่วไป่เหามองไปที่ฝูงชนอย่างเย็นชา พลังวิญญาณอันยิ่งใหญ่และน่ากลัวของเขาได้ระเบิดออกมา

“พวกเจ้ามีปัญหาอะไรเกี่ยวกับคำพูดของข้า?”
ทุกคนหายใจไม่ออกในทันที
ช่างเป็นแรงกดดันที่น่ากลัว
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็กชายตัวเตี้ยอ้วนที่โดนแรงกดดันนั้นตรง ๆ จากลั่วไป่เหา เขาถึงกับยืนขาสั่นทำอะไรไม่ถูก ใบหน้าของเขาซีดเซียวลงเหมือนกับกระดาษขาวระดับจักรพรรดิวิญญาณ!
เขาไม่คาดคิดว่าชายที่เขาล้อเลียนจะเป็นผู้ใช้พลังวิญญาณระดับจักรพรรดิวิญญาณ

ลั่วไป่เหาขี้เกียจเกินไปที่จะพูดคุยกับคนอ่อนแอเหล่านี้ เขาจ้องไปที่ลั่วอู๋ “ตราบใดที่เจ้ายอมกลับไปที่คฤหาสน์ตระกูลลั่ว ข้าจะช่วยพาเจ้าเข้าสำนักเฉียนหลง”

“แต่ข้าไม่ผ่านการทดสอบ ข้าจะเข้าสำนักเฉียนหลงได้อย่างไร?” ลั่วอู๋พูดอย่างใจเย็น

ลั่วไป่เหากล่าว ” ตระกูลลั่วมีโควตาพิเศษ สำหรับเข้าสำนักเฉียนหลงอยู่ ข้าสามารถยกมันให้เจ้าได้เงื่อนไขก็คือเจ้าต้องยอมเป็นผู้สืบทอดของข้า ”

“โควตาพิเศษของตระกูลลั่วงั้นหรือ?” ลั่วอู๋รู้สึกประหลาดใจ

ลั่วไป่เหากล่าวด้วยความภาคภูมิใจ”แน่นอนว่าโควตานี้เป็นของตระกูลลั่ว ด้วยความยิ่งใหญ่ของข้า”

“ก็เป็นข้อตกลงที่ดี” ลั่วอู๋ตอบตกลงในทันที “ข้าจะยอมเป็นผู้สืบทอดของเจ้า แต่ข้าขอไม่ยอมรับว่าข้าเป็นคนของตระกูลลั่ว”

ใบหน้าของลั่วไป่เหา แข็งกระด้างลังเลอยู่ครู่หนึ่งแต่ก็พยักหน้าฝืนที่สุด “ได้”

ลั่วไป่เหารู้สึกได้ถึงความย้อนแย้งแปลก ๆ เจ้ากลายมาเป็นผู้สืบทอดของข้า และใช้โควตาของตระกูลลั่ว แบบนี้ยังจะต้องการปฏิเสธว่าเป็นคนของตระกูลลั่วอีกเหรอ? เชื่อเขาเลย

เมื่อทั้งคู่ได้ตกลงกันเรียบร้อย ลั่วไป่เหาก็ดูเหมือนจะตัดสินใจเรื่องต่าง ๆ ที่ค้างคาในใจได้

ขณะเดียวกันคนอื่น ๆ นั้นทำได้แต่อ้าปากค้างกับบทสนทนาเหล่านั้น

นี่มันหมายความว่ายังไงกัน?
ตระกูลลั่วที่มีโควตาพิเศษ? นั่นต้องเป็นตระกูลชั้นสูงแน่ เป็นไปได้ว่าเขาคือคนของตระกูลลั่ว ที่อยู่ในเมืองหลวงของจักรวรรดิแต่ทำไมถึงเลือกเจ้าไก่อ่อนนี่ เป็นไปได้อย่างไร?
เขาเป็นเยาวชนที่มีคุณสมบัติแย่ที่สุดในรอบที่สาม
ลั่วอู๋เดินไปหาเด็กชายตัวอ้วนและตบไหล่เขา “ไอ้อ้วนตัวน้อย ข้าจะไปเข้าร่วมสำนักเฉียนหลง เจ้ามีอะไรจะอวยพรให้ข้าไหม?”

เด็กชายตัวเตี้ยอ้วนทำสีหน้าเหมือนมีอาการท้องผูก เขาพูดอย่างโกรธ ๆ ว่า “อย่าคิดว่าจะได้เข้าร่วมสำนักเฉียนหลงได้ง่าย ๆ เลยน่า คนอย่างเจ้าอาจจะถูกโยนทิ้งเมื่อใดก็ได้”

“แต่อย่างน้อยข้าก็ได้เข้าร่วมสำนักเฉียนหลง” ลั่วอู๋พูดอย่างเย่อหยิ่ง
เด็กชายตัวล่ำน่าสังเวชพอ ๆ กับกินขี้
ใช่เขากำลังทุกข์ทรมาน
ไก่ตัวนี้ซึ่งถูกตัวเองเยาะเย้ยมาเกือบสองเดือนหันหัวและเดินนำเขาไป ใครจะทนได้.

“หยุดพูดเรื่องไร้สาระได้แล้ว ตามข้ามา” ลั่วไป่เหาโบกแขนเสื้อของเขาและเดินออกไปทันที ปล่อยให้กลุ่มคนที่ดูวุ่นวายนั่นงงอยู่ในสายลม

“พวกเรากำลังจะไปที่ไหนกัน?” ลั่วอู๋ถาม
“แน่นอนสิว่าต้องเป็นที่เมืองหลวงของจักรวรรดิ ข้าจะพาเจ้ากลับไปที่คฤหาสน์ตระกูลลั่วก่อน ทางเข้าสู่สำนักเฉียนหลงที่เมืองหลวงของจักรวรรดินั้นยังไม่เปิดพวกเรายังมีเวลา” ” จะว่าไปแล้วผลสอบรอบที่สามของเจ้าเป็นอย่างไรบ้างล่ะ ?” ลั่วไป่เหาอธิบายพร้อมถาม“ไม่ดีเท่าไหร่” ลั่วอู๋พูดด้วยรอยยิ้มแห้ง ๆ
“ไม่เป็นไรน่า ต่อให้สงครามจะเริ่มขึ้น ผู้ปรับแต่งพลังวิญญาณอย่างพวกเราก็เป็นฝ่ายแนวหลังกันอยู่แล้ว ต่อให้พลังวิญญาณหรือจิตใจอ่อนลงเล็กน้อย ก็ไม่ส่งผลอะไรเลย แล้วเจ้าใช้เวลากี่วันกันล่ะ?” ลั่วไป่เหาถามลั่วอู๋ต้องยอมพูดออกมาตรง ๆ “ตั้งแต่วันแรก”
ร่างของลั่วไป่เหาสั่นจนเกือบหลุดออกมาจากมิติเคลื่อนย้ายของเขา “อะไรนะ ตั้งแต่วันแรกงั้นเหรอ เจ้าล้อข้าเล่นใช่ไหมเนี่ย ?”

“ถามมาสิ” ลั่วไป่เหาซักไซร้
“ท่านสนใจข้าตั้งแต่เมื่อไหร่?” ลั่วอู๋ถาม “ข้าเคยอยู่ในเขตหวงชาอันห่างไกล และข้าก็ไม่ได้ทำอะไรที่มันโด่งดังออกไปยังภายนอกเขต”

“แล้วเกิดอะไรขึ้นหลังจากนั้น?”
“เจ้าไม่รู้งั้นเหรอว่าเฉินซังเทียนคือใคร?”
ลั่วอู๋หายใจเข้าลึก ๆ เขาเดาอะไรได้บางอย่าง คนระดับหลงเซี่ยหลงจะปกป้องคนทั่ว ๆ ไปได้อย่างไร

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไหปีศาจ