บทที่ 237
ข้าไม่ต้องการมันสำนักเฉียนหลงได้เปิดขึ้นแล้วอย่างเป็นทางการ
รองประธานาหลี่หวู่หยวนเริ่มกล่าวสุนทรพจน์ เนื้อหาของสุนทรพจน์คือการต้อนรับนักเรียนทุกคนเข้าสำนัก ประวัติและตำแหน่งสำคัญต่าง ๆ ของสำนักเฉียนหลง และความหวังอันแรงกล้าของเขาที่มีต่อผู้เข้าร่วมทุกคนเขาได้ยินเสียงทุกคนหาวง่วงนอน
สิ่งเหล่านี้นั้นมันน่าเบื่อจริง ๆ
อย่างไรก็ตามลั่วอู๋นั้นโชคดีมากที่ได้เข้าไปในสำนักด้านในก่อนเวลา ภายใต้การนำของทูตเฉียนหลง เขาก็เริ่มเข้าใจสิ่งต่างๆของสำนักด้านใน
มันเป็นเรื่องบังเอิญมากที่เฉินหวู่จี้ ทูตเฉียนหลงที่สวมหน้ากากมังกรดำ ผู้รับผิดชอบการทดสอบเฉียนหลงในทิศตะวันตกเฉียงใต้ของจักรวรรดิ เป็นคนนำทางและอธิบายเรื่องต่าง ๆ ให้กับเขาพอดี
“เจ้าจะไปทดสอบให้ยุ่งยากทำไมในเมื่อเจ้ามีโควตาพิเศษ” เฉินหวู่จี้กล่าวอย่างงุนงง
ลั่วอู๋ไม่ได้พูดอะไร
“อืม แต่เจ้าไม่สามารถเข้าไปในมิติเหนือเมฆได้ บางทีเจ้าอาจจะแค่อยากตัดคู่แข่งสินะ” “มาเถอะ ตอนนี้ข้าจะอธิบายให้เจ้าฟังเกี่ยวกับสำนักด้านใน” เฉินหวู่จี้กล่าว“สำนักด้านในนั้นถูกแบ่งออกเป็นสี่ด้าน”
“เพื่อรองรับทั้งผู้ใช้พลังวิญญาณ ผู้ปรับแต่งพลังวิญญาณ นักเล่นแร่แปรธาตุและผู้ใช้ศิลปะการต่อสู้ตามลำดับ”
“ค่าใช้จ่ายของบริการต่าง ๆ ที่นี่ใช้คะแนนในการจ่าย เจ้าสามารถแลกสิ่งของที่มีเป็นคะแนนได้กับทางสำนัก ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตามขอให้มันมีค่ามากพอพวกเขาก็พร้อมที่จะรับมัน”
“ที่นี่มีสิ่งปลูกสร้างให้เช่าได้หลากหลายแบบ ตั้งแต่อาคารทั่วไปจนถึงบ้านส่วนตัว … ”
เฉินหวู่จี้อธิบายให้ลั่วอู๋เข้าใจสถานการณ์พื้นฐานของสำนักด้านใน ซึ่งแต่ล่ะอย่างก็คู่ควรแล้วกับสำนักเฉียนหลง เรียกได้ว่าสำนักเฉียนหลงนั้นมีบริการเกือบแทบทุกอย่าง
“เอาล่ะ เจ้าเลือกที่พักของตัวเองได้เลย” เฉินหวู่จี้กล่าว
ลั่วอู๋สุ่มเลือกอาคารที่มีพลังวิญญาณดูแข็งแกร่งจากนั้นจึงถามว่า”ท่านทูตเฉียนหลง ข้ามีเรื่องสงสัย”“ถามมาสิ” เฉินหวู่จี้กล่าว
“ท่านอยู่ที่สำนักเฉียนหลงมานานแค่ไหนแล้ว?” ลั่วอู๋ถาม
“ข้าอยู่ที่นี่มาเป็นเวลาสามสิบปีแล้ว” เฉินหวู่จี้กล่าวด้วยรอยยิ้ม “ข้าเป็นนักเรียนรุ่นแรก หลังจากจบการศึกษามาแล้วสิบปี ข้าก็ไม่ได้คิดจะออกไปและเลือกที่จะอยู่ที่นี่ต่อ”ลั่วอู๋กระซิบ “ท่านเคยได้ยินเรื่องภูตไหไหม ?”
“ภูตไห?” เฉิน หวู่จี้ขมวดคิ้ว “เป็นชื่อที่แปลกมาก ข้าไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยเจ้าหมายถึงอะไรกัน?”
ลั่วอู๋ผิดหวังเล็กน้อย
แต่มันก็สมเหตุสมผล
มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะตามหาภูตไหเจอ
“ไม่มีอะไร อีกเรื่องข้าอยากถามเหมือนกันว่าอัจฉริยะระดับปีศาจของตระกูลเอ๋าอยู่ที่ไหน?” ลั่วอู๋ ถาม
เฉินหวู่จี้ชี้ไปที่ยอดเขาที่สูงที่สุดในสำนักด้านใน มันสูงขึ้นไปจนติดเมฆส่องแสงสว่างงดงามอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ “เขาอยู่บนนั้น”
“ว้าว ฐานะดีมากเลยนะเนี่ย” ลั่วอู๋ประหลาดใจ
เฉินหวู่จี้กล่าว “ฐานะดีมากอยู่แล้วสิ ก็เขามีชื่อเสียงมาก ด้วยอายุเพียง 20 ปีก็ไปถึงระดับทอง มิติ 5 แล้ว จะว่าไปแล้วเขาว่ากันว่าตระกูลลั่วและตระกูลเอ๋าไม่ถูกกันสินะ? เจ้าก็ระมัดระวังตัวให้ดีล่ะ ถ้าเจ้าไม่ทำตัวเด่นบางทีตระกูลเอ๋าอาจจะไม่มาหาเรื่องเจ้าก็ได้ ”ลั่วอู๋ยิ้มเพื่อแสดงว่าเขารู้
เขารู้อยู่ในใจแล้ว ว่าปัญหานี้มันเป็นปัญหาของเขา
ก่อนออกเดินทาง เฉินหวู่จี้ได้ทิ้งเหรียญพิเศษไว้ให้ ซึ่งมันจะแสดงคะแนนส่วนตัวและอันดับของลั่วอู๋ในสำนักเฉียนหลง
ลั่วอู๋มองไปที่มันโดยไม่แสดงความคิดเห็นใด ๆ คนแรกที่ได้เข้ามาในสำนักเฉียนหลงนั้นคืออัจฉริยะระดับปีศาจของตระกูลเอ๋า เอ๋าเฉียนจุน
เขาเป็นหนึ่งในคนจากกลุ่มแรกที่เข้ามา อีกทั้งยังเป็นคนแรกที่ผ่านการทดสอบของสำนักเฉียนหลง และได้คะแนนการประเมินเป็นอันดับหนึ่ง มันจึงเป็นเรื่องปกติที่เขาจะได้อันดับหนึ่งในสำนักเฉียนหลง
“หนทางยังอีกยาวไกล ไม่ต้องห่วงไป” ลั่วอู๋เก็บเหรียญไป
ไม่จำเป็นต้องรีบต่อสู้กับคนของตระกูลเอ๋า ในทันทีที่เข้ามา
เขาเข้าไปในที่พักของตัวเอง ทำความสะอาดเล็กน้อยแล้วเดินเข้าไป
จากนั้นลั่วอู๋ก็เข้าสู่มิติไห
ตอนนี้มีสัตว์วิญญาณเพิ่มขึ้นมามากในมิติไห ทำให้พื้นที่โดยรวมใหญ่ขึ้น ภูเขาแม่น้ำและทะเลสาบหลายแห่งก่อตัวขึ้นตามธรรมชาติลั่วอู๋เริ่มทำการสังเคราะห์ในทันที
ก่อนออกจากสำนักโล่พิทักษ์ ลั่วอู๋ได้สั่งให้พนักงานของเขาซื้อดอกไม้เมฆจำนวนมากและสมุนไพรวิญญาณอีกสองชนิดที่จำเป็นตอนนี้เขาเริ่มสังเคราะห์ยาวิญญาณจำนวนมาก
และด้วยที่มียาเทียนหยวนหนิงลินความเร็วในการฝึกและฟื้นพลังของเขาจึงไม่ต่างกันมากกับการสังเคราะห์สามวันต่อมา
ลั่วอู๋ได้สังเคราะห์ยารวบรวมพลังวิญญาณ 3000 เม็ด ซึ่งเพียงพอที่จะใช้อยู่ได้ในระยะยาววันนี้มีเสียงระฆังอันไพเราะเริ่มดังขึ้น ลั่วอู๋รู้ได้ทันทีว่ามันหมายถึงอะไร นี่มันหมายความว่ามีคนเข้ามาเพิ่มในสำนักด้านในจากสำนักด้านนอก
“นี่มันเร็วเกินไปแล้ว มีคนผ่านการทดสอบเข้ามาในสำนักชั้นในได้ในสามวันเนี่ยนะ ?” ลั่วอู๋ถอนหายใจ
ความจริงแล้ว มันเป็นเรื่องปกติเพราะตราบใดที่มีความสามารถเพียงพอ ก็ไม่จำเป็นจะต้องเรียนที่สำนักภายนอกให้เสียเวลา แต่สามารถสมัครทดสอบเพื่อเข้ามาในสำนักชั้นในได้เลย
“นี่มันเร็วมาก”
อย่างไรก็ตาม พวกเขาคงไม่ได้คิดจะมาหาเรื่องลั่วอู๋เป็นอย่างแรก เพราะพวกเขายังต้องทำความคุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมของสำนักชั้นในเสียก่อนลั่วอู๋กลับเข้าไปที่พักของเขา
ตาของเขาสบเข้ากับหินแก่นวิญญาณ
อย่างแรกเลยคือเขาต้องการที่จะบรรลุการเป็นผู้ใช้พลังวิญญาณระดับสูงให้ได้ เพื่อที่จะได้ลองสังเคราะห์มันเข้ากับวิญญาณมืดมิด เพราะภายใต้ผลของหอคอยสีขาว เขามีอาการใจสั่นเกี่ยวกับทั้งสองสิ่ง
แต่ตอนนี้เขาทนรอไม่ไหวแล้ว
เพราะเขากระตือรือร้นที่จะเพิ่มความแข็งแกร่งของเขา
“ลอง ๆ ไปเลยก็แล้วกัน ที่นี่คือสำนักเฉียนหลง แม้ว่ามันจะกลายเป็นอะไรที่ข้าควบคุมไม่ได้ แต่ก็คงมีคนอื่นออกมาจัดการมันได้แหละน่า” ลั่วอู๋เรียกความกล้าหาญออกมาเพื่อการสังเคราะห์และมันก็เป็นไปตามที่เขาคาดการณ์ไว้
เพียงแค่ใส่หินแก่นวิญญาณและวิญญาณมืดมิดลงไปในส่วนต่อประสานการสังเคราะห์
พลังวิญญาณในร่างของลั่วอู๋ก็ถูกสูบออกไปอย่างบ้าคลั่ง
“ โชคดีที่ข้าเตรียมพร้อมไว้แล้ว” ลั่วอู๋เงยหน้าขึ้นและกลืนยารวบรวมพลังวิญญาณลงไปจำนวนมาก แม้ว่าเขาจะไม่สามารถย่อยพวกมันได้หมด แต่อย่างน้อยเขาก็สามารถมั่นใจได้ว่าเส้นวงจรวิญญาณของเขาจะไม่เสียหายจากการขาดพลังวิญญาณ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไหปีศาจ