จากความเห็นของชารอน พฤติกรรมของยูจีนเป็นอะไรที่ค่อนข้างยอมรับได้ เธอนั่งลงข้างเตียงแล้วพูดขึ้น "เธอกำลังเจ็บอยู่นะเพื่อน ใจเย็นสิ โกรธไปก็ไม่ช่วยให้หายเจ็บหรอก"
“ชาร์ ฉันไม่อยากอยู่ในโรงพยาบาลเลย” ไรลีย์พูดพร้อมดึงมือชารอนไปอย่างน่าสงสาร
“เธอเจ็บขนาดนี้ เธอไม่มีทางเลือกหรอกนะ”
“งั้นเธอช่วยมาเยี่ยมฉันทุกวันได้ไหม?” ไรลีย์มองดูชารอนอย่างขมขื่น
ชารอนคิดทบทวนอีกครั้ง ถึงอย่างไร เธอเองก็ทำอะไรไม่ได้มากในบริษัทอยู่แล้วในตอนนี้ ไรลีย์ดูเหมือนจะเจ็บมากทีเดียว เธอปฏิเสธเพื่อนรักไม่ได้แน่นอน “ก็ได้ ถ้ามีเวลา ฉันจะมาเยี่ยมเธอทุกครั้งเลย”
สีหน้าของไรลีย์เปลี่ยนไปในทันที "จริงเหรอ? สัญญาแล้วนะ ตกลงไหม? อย่าลืมพาลูกทูนหัวมาเยี่ยมฉันด้วยล่ะ”
ชารอนรู้ดีว่าการเล่นบทน่าสงสารของไรลีย์เป็นเพียงแค่การแสดงเท่านั้น แต่ทว่า... ชารอนก็ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ตอนนี้เธอยังเจอลูกชายไม่ได้เลย แม้แต่พาเขามาที่นี่ก็ไม่ได้ด้วย
ทว่า ชารอนก็ไม่ได้บอกกับไรลีย์ว่าเธอถูกไล่ออกจากบ้านใหญ่ เธอไม่ได้บอกไรลีย์เรื่องที่ต้องแยกกันอยู่กับลูกชายด้วย
ถึงกระนั้น สีหน้าสุดลำบากใจของชารอนกลับกระตุ้นความสงสัยของไรลีย์ "เกิดอะไรขึ้นกัน? ดูเหมือนเธอจะมีปัญหานะ เกิดอะไรขึ้นงั้นเหรอ?"
ชารอนส่ายหัวและพยายามเงยหน้าขึ้น “ไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งนั้นแหละ ไม่มีอะไรหรอก”
“หรือว่ามีเกิดอะไรขึ้นกับลูกทูนหัวของฉัน? พวกตระกูลแซคคารี่ไม่ได้ดูแลเธอกับลูกอย่างดีเหรอ?” ไรลีย์ยังคงกดดันชารอนต่อไป ไรลีย์เชื่อในความมั่นใจของตัวเอง
ชารอนกำลังจะปฏิเสธอีกครั้ง แต่ทว่า โทรศัพท์ของเธอกลับดังขึ้น ไซม่อนนั่นเอง
“เดี๋ยวฉันขอรับสายก่อนนะ โอเคไหม?”
ไรลีย์เห็นหมายเลขผู้โทรและทำหน้ามุ่ย "ก็ได้ สามีสำคัญกว่าเพื่อนอยู่แล้วนี่”
"ทำไมล่ะ? เธอกำลังอิจฉาฉันหรือยังไงกัน” ชารอนหัวเราะ
“ฉันไม่กล้าคิดแบบนั้นหรอก”
ชารอนหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาต่อหน้าไรลีย์ "สวัสดีค่ะ?"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไม่รักได้มั้ย…หัวใจของป๊ะป๋าCEO