ไม่รักได้มั้ย…หัวใจของป๊ะป๋าCEO นิยาย บท 122

ชารอนมองดูเพเนโลเป้เดินออกไปทางประตูห้องอาหาร ชารอนคาดเอาไว้แล้วว่าเพเนโลเป้ต้องแสดงอาการเช่นนี้

ตั้งแต่ชารอนกลับมาที่นี่ เธอก็ได้เตรียมใจที่จะเผชิญหน้ากับเพเนโลเป้เอาไว้แล้ว สำหรับคราวนี้ ไม่มีใครสามารถไล่เธอออกได้ง่าย ๆ แน่นอน

หลังอาหารเย็น ดักลาสพาเซบาสเตียนออกไปเล่นเกมหมากรุกจีนอีกครั้ง ในระหว่างนั้น ไซม่อนยืนคุยโทรศัพท์อยู่ตรงทางเดิน

ส่วนชารอนเดินขึ้นไปชั้นบนเพื่อเก็บสัมภาระ เสื้อผ้าของชารอนจากคอนโดส่วนตัวของไซม่อนได้ถูกย้ายกลับมาถึงคฤหาสน์เรียบร้อยแล้ว

ทว่า ระหว่างเดินขึ้นบันได ชารอนพลันพบเจอกับเพเนโลเป้ที่กำลังเดินลงมาจากชั้นบนโดยบังเอิญ ด้วยความที่ทางเดินนั้นค่อนข้างแคบ ทั้งสองจึงสบตากัน บรรยากาศรอบตัวเริ่มตึงเครียดข้ึน

“สวัสดีค่ะ พี่เพเนโลเป้” ระหว่างที่กำลังถูกเพเนโลเป้จ้องมอง ชารอนพลันกล่าวทักทายอย่างสุภาพ

“อย่าเรียกฉันแบบนั้น ฉันไม่ใช่พี่สาวของเธอ!” เพเนโลเป้ตอกกลับอย่างไร้ความปรานี

ชารอนเพียงแค่เม้มปากอย่างสงบ “คุณไม่จำเป็นต้องยอมรับว่าฉันเป็นน้องสะใภ้ของคุณก็ได้ แต่ถึงยังไง ฉันยังต้องเรียกคุณว่าพี่สาวอยู่ดี”

ดวงตาของเพเนโลเป้เต็มไปด้วยความดูถูก “หน้าไม่อายจริง ๆ นะ! ไม่น่าแปลกใจที่เธอกล้ากลับมาที่นี่ทั้งที่ถูกไล่ออกไปจากบ้านแล้ว นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันพบเจอผู้หญิงเจ้าเล่ห์อย่างเธอ! กล้าดียังไงถึงมาใช้ลูกชายเพื่อหลอกคนอื่น?!”

เพเนโลเป้รับรู้หมดแล้วว่าเกิดอะไรขึ้นในวันนี้ สาเหตุที่ชารอนกลับมาได้ก็เพราะลูกชาย!

ชารอนขมวดคิ้ว “ถ้าพี่เพเนโลเป้ยืนยันที่จะเรียกฉันว่าเป็นผู้หญิงเจ้าเล่ห์ ฉันก็คงไม่สามารถเปลี่ยนใจพี่ได้ แต่ขอบอกไว้ตรงนี้เลยนะคะ ฉันไม่เคยใช้ลูกชายของตัวเองเพื่อหลอกลวงคนอื่น!”

ชารอนสูดหายใจเข้าเฮือกใหญ่และมองผ่านการดูถูกของเพเนโลเป้ “คุณไม่เข้าใจความรู้สึกของแม่ต้องพลัดพรากจากลูกชายหรอก ตอนนี้ฉันรู้สึกขอบคุณท่านผู้อำนวยการแซคคารี่ด้วยซ้ำที่เข้าใจและอนุญาตให้ฉันกลับมาที่นี่เพื่อที่จะได้อยู่กับเซบาสเตียน”

"พอได้แล้ว! เลิกทำตัวเหมือนเป็นแม่ที่เลิศเลอสักที ทำตัวอย่างกับเป็นผู้หญิงเดียวที่มีลูกงั้นแหละ!” เพเนโลเป้กล่าวคำพูดอย่างเย็นชา ดูเหมือนเธอจะตื่นตระหนกเป็นพิเศษทุกครั้งที่ชารอนพูดถึงการมีลูก

“อย่าคิดว่าตัวเองชนะเพียงเพราะพ่อของฉันยอมให้เธอกลับมาล่ะ จำเอาไว้ด้วยว่าตำแหน่งของเธอในบ้านหลังนี้ก็คือแม่ของเซบาสเตียนเท่านั้น หลังจากนี้ ฉันจะทำให้ไซม่อนหย่ากับเธอทันที ฉันจะหาเจ้าสาวที่เหมาะสมให้เขาเอง!”

“พี่เพเนโลเป้ก็ไปบอกไซม่อนเองสิคะ” ชารอนเดินผ่านเพเนโลเป้และขึ้นไปชั้นบน ดูเหมือนมันจะไม่มีประโยชน์อะไรที่จะพูดต่อไปแล้ว

เมื่อกลับเข้ามาในห้อง ชารอนก็หยิบเสื้อผ้าของตนออกจากกระเป๋าเดินทาง แม้ว่าเพเนโลเป้จะโกรธเกรี้ยว แต่ชารอนก็ยังอารมณ์ดีอยู่

นั่นเป็นเพราะเธอไม่ต้องพลัดพรากจากลูกชายอีกต่อไปแล้ว

ทันทีที่ไซม่อนเข้ามาในห้อง เขาพลันได้ยินเสียงของชารอนบ่นพึมพำในระหว่างใส่เสื้อผ้าลงไปในตู้เสื้อผ้า ทว่า ชารอนไม่ได้สังเกตเขาเลย

ไซม่อนหรี่ตาและเดินเข้าไปหาชารอน

ทันทีที่ชารอนเก็บเสื้อผ้าเสร็จ เธอก็พลันรู้สึกราวกับมีแขนของชายคนหนึ่งมาโอบเอวเอาไว้ ไซม่อนโอบกอดชารอนจากด้านหลังและกล่าวคำพูดอย่างแผ่วเบาข้างหู “ทำไมวันนี้ดูอารมณ์ดีจังล่ะ?”

ริมฝีปากของไซม่อนแทบจะแตะกับใบหูของชารอนอยู่แล้ว เธอรู้สึกร้อนผ่าวเช่นเคยและเอียงศีรษะเพื่อหลีกเลี่ยงลมหายใจของไซม่อน "ทำไมจะอารมณ์ดีไม่ได้ล่ะคะ? ฉันไม่ต้องแยกกับเซบาสเตียนอีกต่อไปแล้ว แน่นอนว่าฉันต้องมีความสุขอยู่แล้ว”

“งั้นเหรอ? คุณแน่ใจใช่ไหมว่าไม่ใช่เพราะคุณไม่ต้องอยู่กับผมแบบสองต่อสองแล้ว?”

ยิ่งเธอพยายามหลีกเลี่ยงไซม่อนมากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งเข้าใกล้เธอมากขึ้นเท่านั้น กลิ่นอันสดชื่นของไซม่อนกำลังรายล้อมชารอนเอาไว้

“เอ่อ... ไม่ใช่แบบนั้นแน่นอนค่ะ” อันที่จริง ไซม่อนพูดถูก เธอดีใจเรื่องนั้นเช่นกัน แต่ทว่า ชารอนเองก็ไม่กล้าพูดต่อหน้าเขาอยู่ดี

ไซม่อนจับหน้าของชารอนให้หันกลับมา เขาหรี่ตาลง "โกหก" ทั้งนี้ ไม่มีทางเลยที่ชารอนจะซ่อนความคิดของตัวเองต่อหน้าไซม่อนได้

ชารอนรู้สึกหัวใจเต้นแรงขึ้น เธอกัดริมฝีปากและเผยรอยยิ้ม “ฉันไม่ได้โกหกนะคะ ถ้าฉันโกหก... ฉันก็คงไม่ต่างอะไรกับลูกหมาหรอกค่ะ” จริงอยู่ที่ชารอนอารมณ์ดีเพราะไม่จำเป็นต้องอยู่กับไซม่อนแบบสองต่อสองแล้ว แต่ทว่า เธอคงไม่ใช่ลูกหมาหรอกใช่ไหม?

ไซม่อนพลันเหลือบมองมาราวกับเขากำลังประเมินคำพูดของชารอนอยู่

หลังจากนั้นครู่หนึ่ง ไซม่อนก็พลันเผยรอยยิ้ม “ลูกหมางั้นเหรอ? งั้นคุณกัดได้ไหมล่ะ?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไม่รักได้มั้ย…หัวใจของป๊ะป๋าCEO