“เราก็ไม่รู้เหมือนกันครับ แต่เราพบว่ารถคันนั้นเพราะกล้องวงจรปิดครับ ตอนนี้รถกำลังมุ่งหน้าไปยังป่านอกเมืองครับ”
“ส่งที่อยู่มาเดี๋ยวนี้เลย!” ไซม่อนวางสายทันทีและรีบคว้ากุญแจรถพร้อมกับก้าวเท้าออกจากบ้านไป
ใบหน้าอันหล่อเหลาของไซม่อนเย็นชา เขาขมวดคิ้วแน่น เมื่อรู้ว่าชารอนถูกลักพาตัว เขาก็สูญเสียความเป็นตัวเองไป ไซม่อนรู้สึกว่าตัวเองหงุดหงิดอย่างน่าประหลาดใจ เขารู้สึกกังวลมากยิ่งขึ้น
ใครลักพาตัวชารอนไปกัน? หนึ่งในคู่แข่งทางธุรกิจของตระกูลแซคคารี่งั้นเหรอ?
ทว่า ไซม่อนไม่ได้ประกาศความสัมพันธ์ของตนเองกับชารอนให้ใครรู้สักหน่อย ดังนั้น บุคคลภายนอกจึงไม่น่ารู้ว่าเธอคือคุณนายแซคคารี่ สรุปแล้ว ใครเป็นคนลักพาตัวเธอไปกันล่ะ?
ทันทีที่ไซม่อนเดินผ่านห้องนั่งเล่น เขาสังเกตเห็นว่าเซบาสเตียนยังไม่หลับ เด็กชายกำลังต่อเลโก้อยู่ในห้องนั่งเล่น สีหน้าของเด็กน้อยดูเบื่อหน่าย
“พ่อครับ พ่อก็จะออกไปข้างนอกเหมือนกันเหรอ?” เซบาสเตียนมองไปยังไซม่อนอย่างงุนงง
ไซม่อนกระพริบตา แต่ทว่า เขาก็ยังพยายามสงบสติอารมณ์ต่อหน้าลูกชาย "ใช่"
ทันใดนั้นเอง เด็กชายวิ่งเข้าไปหาไซม่อนและคว้ากางเกงของเขาเอาไว้ด้วยมือเล็กจิ๋ว เซบาสเตียนมองขึ้นไปยังไซม่อน “พ่อครับ แม่บอกผมว่าจะกลับมาไว ๆ แต่ตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว แต่แม่ยังไม่กลับมาเลย พ่อไปรับแม่กลับมาได้ไหมครับ? แม่หลงทางรึเปล่าครับ?" ใบหน้าเล็ก ๆ ของเซบาสเตียนเต็มไปด้วยความกังวล
บางอย่างแวบเข้ามาในดวงตาของไซม่อน แต่ทว่า สีหน้าของเขาไม่เปลี่ยนไปเลยระหว่างที่กำลังใช้ฝ่ามือจับหน้าลูกชาย “พ่อจะไปหาแม่เดี๋ยวนี้แหละ ลูกขึ้นไปนอนก่อนได้แล้วนะ”
“สัญญานะครับว่าพ่อจะพาแม่กลับมา”
"พ่อสัญญา" ไซม่อนไม่มีเวลาแล้ว ใครจะรู้ล่ะว่าคนเหล่านั้นต้องการอะไรกับชารอน?
ไซม่อนสั่งให้พ่อบ้านพาเซบาสเตียนขึ้นไปชั้นบนและอุ้มเขาเข้านอน ทันทีที่เข้าไปในรถ ไซม่อนก็พลันสตาร์ทเครื่องและรีบเหยียบคันเร่ง
ไซม่อนขับตามจีพีเอสที่แฟรงกี้ส่งมาให้ เขาขับรถออกไปนอกเมือง รถของไซม่อนแล่นไปตามถนน เขารู้สึกตึงเครียดไปทั้วทั้งตัว ไซม่อนจับพวงมาลัยเอาไว้แน่น แววตาเผยให้เห็นความกระหายเลือดสุดเย็นยะเยือก
ถ้าคนพวกนั้นกล้าทำร้ายเธอ ไซม่อนคงจะไม่มีวันให้อภัยพวกเขาแน่!
ทันทีที่รถของไซม่อนเพิ่งจะออกจากเมือง แฟรงกี้ก็โทรมาหาอีกครั้ง “ท่านประธานแซคคารี่ครับ เราเจอรถต้องสงสัยแล้วครับ มันเพิ่งขับออกไปจากโกดังร้างครับ เดี๋ยวผมจะส่งตำแหน่งให้ท่านเดี๋ยวนี้แหละ คุณชารอนน่าจะอยู่ข้างในครับ แต่ตอนนี้ผมกำลังขับตามหลังเพื่อสะกดรอบตามพวกมันอยู่ครับ"
“จับตาดูพวกมันเอาไว้ให้ดีเลย!” น้ำเสียงของไซม่อนเย็นชา
ภายใต้ความมืดมิดในยามค่ำคืน รถของไซม่อนแล่นผ่านความมืดราวกับเป็นนักล่าที่กำลังออกหากินเวลากลางคืน ไซม่อนขับรถตรงไปที่โกดังร้าง
ไม่นานนัก ไซม่อนก็มาถึงโกดังร้างสุดทรุดโทรม รอบตัวพลันมืดสนิท ไม่มีแสงแม้แต่ไฟ มีเพียงแค่แสงจันทร์สลัวจากเบื้องบนเท่านั้น
ไซม่อนดับเครื่องยนต์และกระโดดลงจากรถพร้อมกับวิ่งเข้าไปที่โกดังอย่างรวดเร็ว เขาไม่ได้ก่อเสียงดังมากไป เพราะไซม่อนเองก็ไม่รู้ว่าคนร้ายยังอยู่ข้างในหรือเปล่า ถ้าเขาทำเสียงดัง คนร้ายเหล่านั้นอาจทำร้ายชารอนก็ได้
ไซม่อนเดินมาถึงที่ประตู เขาพลันสังเกตเห็นว่าประตูด้านหน้าขึ้นสนิมและไม่ได้ถูกปิดเอาไว้ ข้างในนั้นมืดไม่ต่างกันเพราะมันไม่มีไฟเลย ไซม่อนไม่ได้ยินเสียงอะไรทั้งนั้นในตอนนี้ สภาพแวดล้อมรอบตัวนั้นเงียบมากเสียจนไซม่อนได้ยินเสียงหายใจของตัวเอง
ไซม่อนแอบเข้าไปทางประตูที่แง้มเอาไว้เล็กน้อย เขาใช้หูฟังเสียงเพื่อระวังการเคลื่อนไหวทุกท่วงท่า
ทว่า พอเข้าไปแล้ว ไซม่อนก็ยังไม่เห็นใครเลย มีเพียงแสงจันทร์ส่องเข้ามาทางหน้าต่างโลหะเท่านั้นที่ทำให้เขามองเห็นภายในตัวโกดัง ทว่า ไซม่อนพลันกวาดสายตาไปทั่วตัว ทันใดนั้นเอง เขาก็เพ่งสายตาไปที่บางสิ่งใกล้ตัว ดูเหมือนว่ามีคนกำลังนอนอยู่บนพื้นตรงนั้น!
ไซม่อนเพ่งมอง มันเป็นผู้หญิง เธอดูเหมือนชารอนไม่น้อยเลยด้วย!
ไซม่อนรู้สึกเจ็บหัวใจขึ้นมา เขารีบวิ่งไปหาเธอทันที “ชารอน...”
ไซม่อนมั่นใจมากว่าภายในโกดังแห่งนี้ไม่มีใครอยู่เลย มีเพียงชารอนอยู่คนเดียวเท่านั้น
ไซม่อนพลันสงสัยว่าทำไมพวกคนร้ายถึงทิ้งเธอไว้ที่นี่และหยีไป แต่สุดท้าย ไซม่อนก็เข้าใจทันทีที่เข้าไปถึงตัวชารอน ในเวลาเดียวกัน หัวใจของไซม่อนแทบพุ่งออกมาจากหน้าอก เขาถึงกับตัวเกร็งไปหมด “ชารอน!”
ผู้หญิงที่นอนอยู่บนพื้นถูกมัดด้วยเชือก เธอหมดสติและไม่ตอบสนองอะไรเลย มีเลือดสีแดงสดกองใหญ่ไหลอยู่บนพื้นด้านข้าง ดูเหมือนว่าเลือดพวกนั้นจะไหลออกมาจากบาดแผลที่ข้อมือของเธอ...
ทันทีที่ไซม่อนเห็นเช่นนั้น ไซม่อนพลันรู้สึกเคียดแค้นขึ้นมา ถ้าคนร้ายยังอยู่ที่นี่ เขาคงฆ่าทิ้งไปจนหมดแล้ว!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไม่รักได้มั้ย…หัวใจของป๊ะป๋าCEO