ชารอนรู้สึกตื่นเต้นทุกครั้งที่คิดเช่นนั้น หลังจากนั้นไม่นาน โทรศัพท์ที่อยู่บนโต๊ะข้างเตียงก็สั่นทันที มันทำให้เธอกลับมามีสติ
เธอมองไปที่โทรศัพท์ข้างกาย นั่นเป็นโทรศัพท์ส่วนตัวของไซม่อน เขาทิ้งไว้ให้เพื่อให้ชารอนได้โทรหาลูกชาย
เมื่อเธอเห็นว่าคนที่โทรมาคือแฟรงกี้ ชารอนพลันขมวดคิ้วเล็กน้อย นี่คือโทรศัพท์ของไซม่อน เพราะฉะนั้น เธอไม่ควรรับสาย แต่ทว่า แฟรงกี้ดูเหมือนจะมีเรื่องสำคัญจะบอกเขา เขาถึงโทรมาแบบนี้
ชารอนลังเล อย่างน้อย ชารอนก็ควรรับสายและบอกแฟรงกี้ว่าไซม่อนไปทำงานแล้ว
ทันทีที่ชารอนกดปุ่มรับสาย เสียงของแฟรงกี้ก็ดังขึ้น “ท่านประธานแซคคารี่ครับ คุณเป็นยังไงบ้าง?”
ทว่า น้ำเสียงของเขาฟังดูวิตกกังวล เพราะไซม่อนไม่เคยปล่อยให้โทรศัพท์ของตัวเองดังนานขนาดนั้น
ชารอนกระแอมในลำคอ “เอ่อ แฟรงกี้ นี่ฉันเอง”
แฟรงกี้ตกใจทันทีที่ได้ยินเสียงผู้หญิง ทำไมถึงมีผู้หญิงรับโทรศัพท์ของท่านประธานแซคคารี่กันล่ะ?
หลังจากที่รู้ว่าผู้หญิงคนนี้คือชารอน เขาก็พูดขึ้นทันที “อ่า คุณนายแซคคารี่ ท่านประธานอยู่กับคุณรึเปล่าครับ?”
“เขาไปที่บริษัทแล้ว แถมเขา... ลืมเอาโทรศัพท์ไปด้วย” เธอไม่ต้องการบอกแฟรงกี้ว่าไซมอนตั้งใจทิ้งโทรศัพท์ไว้
แฟรงกี้ตกใจไม่น้อย ท่านประธานลืมโทรศัพท์ของตัวเองเนี่ยนะ? เรื่องแบบนี้ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ในความเห็นของแฟรงกี้ ท่านประธานเป็นคนเข้มงวดและรอบคอบเสมอมา เขาจะไม่ทิ้งสิ่งของอย่างประมาทเช่นนี้ นับประสาของใช้ส่วนตัวอย่างโทรศัพท์...
แต่ทว่า แฟรงกี้ก็ไม่สามารถตั้งคำถามกับชารอนได้ เพราะท้ายที่สุดแล้ว ท่านประธานก็เปลี่ยนไปจากเดิมตั้งแต่เขาได้พบกับผู้หญิงคนนี้
“เข้าใจแล้วครับ งั้นเดี๋ยวผมจะโทรไปหาบริษัทเอง พักผ่อนก่อนเถอะครับ” แฟรงกี้วางสายทันที
ชารอนมองโทรศัพท์ของไซม่อนพร้อมกับอาการปวดหัว เธอจะต้องรับสายของคนอื่นอีกไหมเนี่ย?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไม่รักได้มั้ย…หัวใจของป๊ะป๋าCEO