ไม่รักได้มั้ย…หัวใจของป๊ะป๋าCEO นิยาย บท 134

แซลลี่กำลังยืนอยู่ตรงหน้าต่างในห้อง เธอกำลังคุยกับใครซักคนอยู่ ทันใดนั้น เสียงของแซลลี่ก็ดังขึ้น "นายว่ายังไงนะ? เธอยังไม่ตายงั้นเหรอ?”

ไม่นานนัด เสียงผู้ชายหยาบคายคนหนึ่งก็ดังออกมาจากปลายสาย “เราจับตัวเธอมาแล้ว แต่เธอกลับไม่ตาย เธอรอด ตอนนี้พวกเราก็ทำอะไรไม่ได้แล้วเช่นกัน เมื่อไหร่คุณจะจ่ายเงินให้เราตามที่สัญญาไว้ล่ะ?”

แซลลี่จับโทรศัพท์ของตัวเองเอาไว้แน่น มือของเธอสั่นด้วยความโกรธ เธอโพล่งออกไป “ก็เธอยังไม่ตาย แผนการสำเร็จบ้าบออะไรกันล่ะ? นายยังกล้าที่จะขอเงินจากฉันด้วยงั้นเหรอ?!”

“เราลักพาตัวเธอตามที่คุณขอแล้ว แถมเราก็กรีดข้อมือของเธอแล้วด้วย ใครจะไปคิดล่ะว่าจะมีคนอื่นมาช่วยเธอได้เร็วขนาดนั้น? อีกอย่าง ผมเองก็เสียลูกน้องไปตั้งสองคนด้วย สองชีวิตเลยนะครับ อันที่จริง คุณต้องจ่ายมามากกว่าที่พูดด้วยซ้ำ!” ผู้ชายคนนั้นแข็งกร้าวไม่น้อยเช่นกัน

“ถึงพวกนายจะตาย แล้วมันเกี่ยวอะไรกับฉันล่ะ? นายทำตามที่พูดไม่ได้ด้วยซ้ำ เพราะฉะนั้น พวกลูกน้องของนายก็สมควรตายแล้วแหละน่า! ฉันบอกบอกอะไรให้นะ ฉันจะยอมจ่ายเท่าที่สัญญาเอาไว้เท่านั้น แค่นี้แหละ!" แซลลี่กล่าวใส่ชายคนนั้นอย่างดุเดือด

แซลลี่แค่ต้องการชีวิตของชารอน มันถือเป็นเรื่องง่าย แต่คนพวกนี้กลับทำไม่ได้ เพราะฉะนั้น พวกเขายังกล้าขอเงินจากเธอได้ยังไงกัน?

เขาบอกว่าชารอนได้รับการช่วยเหลือ? ใครจะมาช่วยเธอได้เร็วขนาดนั้นกัน?

ไซม่อนงั้นเหรอ? เพราะนอกจากไซม่อน แซลลี่ก็นึกไม่ออกแล้วว่าใครจะโผล่มาช่วยชารอนได้เร็วขนาดนั้น หากเป็นเช่นนั้น ตอนนี้ไซม่อนจะเป็นยังไงแล้วบ้างนะ?

ถ้าเป็นแบบนั้น หลายสิ่งหลายอย่างก็คงจัดการได้ยากขึ้น

ทว่า ก่อนที่แซลลี่จะมีเวลาตื่นตระหนก คำสบถของอีกฝ่ายก็ดังออกมาจากปลายสาย “นางแพศยา! แกคิดว่าจะปากดีใส่เราแล้วทำเหมือนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้งั้นเหรอ? แกไม่กลัวว่าพวกเราจะเปิดเผยตัวตนแกให้ผู้หญิงคนนั้นรู้รึยังไงกัน?

อันที่จริง หากชารอนจะรู้เรื่องนั้น แซลลี่ไม่ได้รู้สึกกลัวเลย คนเดียวที่เธอกลัวคือไซม่อน แต่ทว่า... ถ้าแซลลี่กล้าทำเรื่องแบบนี้ เธอคงไม่ทิ้งหลักฐานอะไรเอาไว้เพื่อให้อีกฝ่ายตอบโต้เธอได้หรอก

แซลลี่เผยยิ้มอย่างเย็นชา “ได้ ไปบอกเธอเลยสิ แล้วก็อย่าคิดแม้แต่จะมาเอาเงินที่ฉันก็แล้วกัน!” แซลลี่วางสายไป

ให้ตายเถอะ! พวกหน้าไม่อาย! กล้าดียังไงมาข่มขู่กันแบบนี้?!

ชารอนในตอนนี้พักฟื้นในโรงพยาบาลเป็นเวลาสามวัน เธอเกือบจะหายดีแล้ว เธอขอออกจากโรงพยาบาลเพราะต้องการกลับบ้านไปหาลูกชาย

ในช่วงสามวันที่ผ่านมา ไซม่อนมาหาชารอนลังจากเลิกงานเสมอ แต่ทว่า ชารอนก็ไม่ได้ให้ไซม่อนค้างคืนด้วย เธอขอให้เขากลับบ้านไปอยู่กับลูกชาย

ชารอนโทรเซบาสเตียน เขาเชื่อจริง ๆ ด้วยว่าเธอกำลังเดินทางไปทำธุระ แถมตอนที่กำลังคุยกันผ่านทางโทรศัพท์ เซบาสเตียนยังคงร้องเรียกให้แม่กลับบ้านมาโดยเร็ว เขาคิดถึงแม่จะแย่อยู่แล้ว

แต่ทว่า ชารอนกลับคิดถึงลูกชายของเธอมากกว่า

ดังนั้น แม้ว่าอาการของชารอนจะไม่ค่อยสู้ดีนัก แต่เธอก็ต้องออกจากโรงพยาบาล

ไซม่อนพลันยุ่งกับงานอีกครั้งในช่วงสองวันที่ผ่านมา แทนที่ไซม่อนจะมารับชารอนเอง เขากลับส่งคนอื่นมารับเธอออกจากโรงพยาบาล

ชารอนกลับไปยังบ้านของตระกูลแซคคารี่ ทันใดนั้น เซบาสเตียนก็วิ่งเข้ามากอดแม่ของตน “แม่ครับ ในที่สุดแม่ก็กลับมาแล้ว! ผมคิดถึงแม่มาก ๆ เลย!" เซบาสเตียนจูบหน้าชารอน

ชารอนทั้งกอดเขาและจูบใบหน้าของเด็กน้อยเช่นกัน "แม่ก็คิดถึงลูกเหมือนกันจ่ะ" ทว่า ชารอนยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ ดังนั้น เธอจึงไม่มีเรี่ยวแรงมากนักระหว่างพูดแบบนั้นออกไป

ถึงกระนั้น เซบาสเตียนพลันสังเกตเห็นบางอย่างแปลก ๆ เซบาสเตียนมองดูชารอนโดยไม่กระพริบตา สายจตาของเขาดูเหมือนไซม่อนไม่น้อยเลย “แม่ครับ แม่เหนื่อยรึเปล่า? ทำไมเวลาพูด แม่ดูเหนื่อย ๆ จังล่ะ?"

ดวงตาของชารอนเป็นประกาย เซบาสเตียนเป็นเด็กช่างสังเกตไปแล้วงั้นเหรอ?

ชารอนแสร้งทำเป็นรู้สึกเหนื่อยและพิงไหล่ของเซบาสเตียน “ใช่จ่ะ แม่เหนื่อย แม่นั่งรถไปทำธุระนานมากเลยล่ะ”

“งั้นเดี๋ยวผมจะนวดให้แม่เอง” เด็กน้อยเอื้อมมือออกไปเพื่อนวดไหล่ให้ชารอนทันที

ทว่า ชารอนกลับจั๊กจี้มากจนต้องรีบคว้ามือเล็ก ๆ ของเซบาสเตียนเอาไว้อย่างรวดเร็ว “แต่หลังจากได้พักผ่อน แม่ก็ดีขึ้นแล้วจ้ะ”

ชารอนกับลูกชายกลับเข้าไปในห้อง ดักลาสกำลังพักผ่อนอยู่ในห้องของตัวเอง ดังนั้น เธอจึงไม่รบกวนอะไรเขามาก อีกทั้งตอนนี้ยังเป็นเวลาทำงานอีกด้วย เพราะฉะนั้น พี่สาวคนโตของไซม่อนจึงไม่อยู่บ้าน

เมื่อเซบาสเตียนได้ยินว่าแม่กำลังจะกลับมา เขาจึงขอหยุดเรียนเพื่อมารอแม่ที่บ้าน

ในตอนกลางคืน ท้ายที่สุด ชารอนก็ได้รับประทานอาหารสุดโปรดกับลูกชายอีกครั้ง ทว่า มีเพียงสามคนเท่านั้นที่นั่งกันอยู่ข้างโต๊ะอาหาร นั่นก็คือชารอน เซบาสเตียนและดักลาส

ในคืนนี้ ไซม่อนต้องทำงานล่วงเวลา ส่วนเพเนโลเป้ก็บอกว่าเธอกำลังยุ่งอยู่ เพราะฉะนั้น พวกเขาจึงยังไม่กลับบ้าน

ดักลาสยังคงเย็นชาและไม่แยแสต่อชารอน ถ้าไม่ใช่เพราะเด็กน้อย เขาจะไม่มีวันปล่อยให้ชารอนอยู่ในบ้านของตนเองเป็นแน่

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไม่รักได้มั้ย…หัวใจของป๊ะป๋าCEO