ไม่รักได้มั้ย…หัวใจของป๊ะป๋าCEO นิยาย บท 135

ทว่า ชารอนเองก็เคารพดักลาส แต่เธอเองไม่รู้ว่าจะทำให้เขาพอใจได้ยังไง

บางที มันอาจเป็นเพราะทั้งสองถูกจับแยกกันไปพักหนึ่ง เด็กน้อยจึงตัวติดแม่ของตนมาก หลังจากรับประทานอาหารเสร็จแล้ว เซบาสเตียนก็ขอให้ชารอนต่อเครื่องบินจำลองด้วยกัน

ชารอนรู้สึกหนักใจเล็กน้อย เธอนอนบนโซฟาในห้องและไม่อยากขยับตัวเลย “แม่ค่อยข้างเหนื่อยนิดหน่อยน่ะ เดี๋ยวแม่จะเฝ้าดูลูกเล่นนะจ้ะ”

เซบาสเตียนเม้มริมฝีปากเข้าหากัน “ถ้าพ่ออยู่ที่นี่ พ่อก็คงจะนั่งเล่นกับผมไปแล้ว” ดวงตาของเด็กน้อยเป็นประกาย “แม่ครับ แม่โทรไปถามพ่อได้ไหมว่าเขาจะกลับมาตอนไหน?”

เมื่อเห็นสายตาอ้อนวอนของเด็กน้อย ชารอนก็อดไม่ได้ที่จะปฏิเสธ ดูเหมือนว่าระหว่างที่ชารอนไม่อยู่บ้าน ไซม่อนและเซบาสเตียนจะสนิทสนมกันดี

ในตอนนี้ ไซม่อนได้ซื้อโทรศัพท์เครื่องใหม่ให้ชารอนพร้อมกับเปลี่ยนซิมการ์ดให้ใหม่แล้ว แต่ทว่า ชารอนก็ไม่สามารถหาโทรศัพท์เครื่องเก่าของตัวเองเจออีก

“ก็ได้จ่ะ เดี๋ยวแม่จะโทรถามพ่อให้” นี่ก็ดึกมากแล้ว แต่ไซม่อนก็ยังไม่กลับบ้าน ด้วยเหตุนั้น ชารอนก็กังวลและเป็นห่วงไซม่อนเช่นกัน

โทรศัพท์เครื่องใหม่ของชารอนมีเพียงเบอร์ของไซมอนบันทึกอยู่เท่านั้น หลังจากนั้น เธอก็กดปุ่มโทรออก

โทรศัพท์ของไซม่อนดังขึ้นเป็นเวลานานพอสมควร แต่ทว่า กลับไม่มีใครรับสายเลย ชารอนครุ่นคิด 'เขากำลังยุ่งอยู่งั้นเหรอ? เรากำลังรบกวนเขาอยู่รึเปล่านะ?'

ระหว่างที่ชารอนคิดว่าไซม่อนคงไม่รอบสายแล้ว แต่สุดท้าย ปลายสายก็มีเสียงบางอย่างดังขึ้นและสายทั้งสองก็เชื่อมต่อกันทันที

ระหว่างที่ชารอนกำลังพูด เสียงผู้หญิงคนหนึ่งพลันดังขึ้นมาจากปลายสาย "สวัสดีค่ะ"

ชารอนตกใจมาก ทำไมผู้หญิงถึงรับโทรศัพท์ของไซม่อนแทนล่ะ?

ชารอนรู้สึกตกใจไม่น้อยทันทีที่ได้ยินเสียงผู้หญิงที่ปลายสาย 'นี่ไม่ใช่หมายเลขของไซม่อนงั้นเหรอ?'

ชารอนชำเลืองมองดูโทรศัพท์ มันเป็นเบอร์ของไซม่อน! เธอไม่ได้โทรเบอร์ผิดสักหน่อย ถ้าอย่างนั้น ผู้หญิงคนนี้คือใครกันล่ะ?

ชารอนยังจำได้อยู่เลยว่าแฟรงกี้เคยบอกเอาไว้ว่าท่านประธานแซคคารี่จะไม่ยอมให้ใครแตะต้องโทรศัพท์ของเขาโดยเฉพาะผู้หญิง สิ่งที่แฟรงกี้นั่นทำให้ชารอนรู้สึกเป็นเกียรติที่เธอเป็นคนแรก

ถ้าเป็นคนอื่น เธอคงไม่เชื่อคำพูดเหล่านั้น แต่ทว่า ทันทีที่แฟรงกี้พูดออกมาเช่นนั้น เธอก็อดเชื่อคำพูดเขาไม่ได้

นั่นคือเหตุผลที่ชรอนสงสัยว่าตัวเองโทรผิดหรือเปล่า เพราะเธอกลับได้ยินเสียงผู้หญิงคนอื่นแทน

บางที ชารอนอาจเงียบนานเกินไป อีกฝ่ายจึงถามอีกครั้ง “สวัสดีค่ะ คุณเป็นใครเหรอคะ?”

คราวนี้ ชารอนรู้แล้วว่ามันเป็นเสียงของรีเบคก้า

หลังจากที่ดักลาสออกคำสั่ง รีเบคก้าก็กลายเป็นหนึ่งในเลขาของไซม่อน

ถ้าไซม่อนทำงานล่วงเวลาในบริษัท มันก็คงไม่น่าแปลกที่รีเบคก้าจะเป็นคนรับสายแทน ไซม่อนอาจจะกำลังยุ่งกับอะไรบางอย่าง

ทว่า ชารอนไม่ได้ตระหนักเอาไว้เลยว่าเธอกำลังคิดเช่นนั้นเพื่อปลอบใจตัวเอง เธอแอบสบถใส่แช่งแฟรงกี้อย่างเงียบ ๆ ที่โกหกเรื่องที่ไม่มีใครสามารถเข้าถึงโทรศัพท์ของไซม่อนได้

หลังจากที่รีเบคก้ารับสาย ไม่นานนัก ชารอนก็ไม่อยากที่จะถามไถ่หรือตามไซม่อนอีกต่อไป แต่ทว่า เซบาสเตียนก็ยังคงรออยู่ ดังนั้น เธอจึงถามรีเบคก้าว่าไซม่อนจะกลับมาตอนไหน

“ฉันเอง ชารอน ตอนนี้ท่านประธานแซคคารี่อยู่ที่ไหนงั้นเหรอ?”

รีเบคก้าอดรู้สึกประหลาดใจไม่ได้ทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น ชารอนงั้นเหรอ?

แต่ทว่า ทำไมเบอร์ของชารอนจึงกลายเป็นเบอร์นิรนามในโทรศัพท์ของไซม่อนกันล่ะ? เขาไม่ได้บันทึกเบอร์ของชารอนเอาไว้เลยเหรอ?

ทันใดนั้น รีเบคก้าก็นึกขึ้นได้ว่าฟิโอน่าเคยบอกเอาไว้ว่าไซม่อนและชารอนแอบแอบแต่งงานกัน อีกทั้ง ไซม่อนก็แต่งงานกับชารอนเพราะสงสารลูกชายเท่านั้นด้วย เขาไม่ได้ยอมรับให้ชารอนเป็นภรรยาของตัวเองอย่างจริงจังสักหน่อย

นั่นหมายความว่าไซม่อนไม่ได้รู้สึกอะไรกับชารอนใช่ไหม?

เมื่อคิดเช่นนั้น รีเบคก้าก็เข้าใจทันทีว่าทำไมเบอร์ของชารอนถึงกลายเป็นเบอร์แปลกนิรนาม

รีเบคก้ากัดริมฝีปากสีแดง ทันใดนั้น น้ำเสียงของเธอก็ฟังดูมีเสน่ห์และขี้อายเล็กน้อย “โอ้ คุณนักออกแบบยีนส์! ตอนนี้ท่านประธาน... ไซม่อนกำลังอาบน้ำอยู่น่ะค่ะ ทำไมคุณไม่โทรกลับมาทีหลังล่ะ?”

"อาบน้ำงั้นเหรอ? เขา... เขากำลังทำงานล่วงเวลาอยู่ไม่ใช่รึยังไงกัน?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไม่รักได้มั้ย…หัวใจของป๊ะป๋าCEO