ไม่รักได้มั้ย…หัวใจของป๊ะป๋าCEO นิยาย บท 176

ทว่า ฟิโอน่าเป็นคนแรกที่พยายามทำลายบรรยากาศที่น่าอึดอัดนี้ เธอเผยยิ้มและพูดกับชารอน “กลับมาแล้วเหรอ ชาร์? เธอมาที่นี่เพื่อฉลองวันเกิดของเพเนโลเป้ด้วยรึเปล่า?

เมื่อฟิโอน่าจงใจพูดกับเธอในลักษณะที่แปลกแบบนั้น ชารอนจึงรู้สึกขนลุกไปทั้งตัว

วันนี้เป็นวันเกิดของเพเนโลเป้งั้นหรือ? ทำไมไซม่อนไม่บอกเธอเลยล่ะ?

“ดูสิ รีเบคก้าทำเค้กมาให้พี่เพเนโลเป้ด้วย ว่าแต่เธอเอาของขวัญอะไรมาล่ะ?" ฟีโอน่าถาม

ชารอนเห็นเค้กขนาดยักษ์บนโต๊ะ รีเบคก้าเป็นคนทำเองหรือ? นั่นหมายความว่ารีเบคก้ารู้อยู่แล้วว่าวันนี้เป็นวันเกิดของเพเนโลเป้งั้นเหรอ?

สรุปแล้ว มีแต่เธอคนเดียวที่ไม่รู้...

ในเวลานี้ ชารอนพลันก็รู้สึกราวกับเป็นคนนอก

ชารอนมองดูเค้กขนาดยักษ์บนโต๊ะ หลังจากนั้น เธอก็ชำเลืองมองไปยังผู้คนที่มาฉลองวันเกิดให้เพเนโลเป้ นอกจากนี้ รีเบคก้ายังยืนอยู่ข้างไซม่อนด้วยใบหน้าที่เขินอายอีกด้วย ชารอนรู้สึกเจ็บปวดหัวใจขึ้นมา ไม่นานนัก ลำคอของเธอเริ่มรู้สึกขมและแห้งโดยไม่ทราบสาเหตุ

ชารอนไม่รู้ว่าทำไมเรื่องแบบนี้ถึงทำให้เธออารมณ์เสีย เธอรู้สึกโกรธขึ้นมานิดหน่อย

ไซม่อนไม่เคยบอกเธอเรื่องวันเกิดของเพเนโลเป้เลย แต่ทว่า รีเบคก้ากลับรู้เรื่องและสามารถมาฉลองวันเกิดด้วยได้ ด้วยเหตุนั้น ชารอนจึงรู้สึกรำคาญใจอย่างประหลาดกับเรื่องที่เกิดขึ้น

ชารอนหลับตาเพื่อซ่อนน้ำตาเอาไว้ เธอเผยรอยยิ้มออกมาอย่างแผ่วเบาและตอบกลับ “ฉันไม่รู้เลยว่าวันนี้เป็นวันเกิดของพี่เพเนโลเป้ ฉันเลยไม่ได้เตรียมของขวัญอะไรมาเลยค่ะ"

ชารอนเงยหน้าขึ้นมองเพเนโลเป้และกล่าวคำพูด “ฉันต้องขอโทษด้วยนะคะ พี่เพเนโลเป้"

ทว่า ใบหน้าของเพเนโลเป้กลับไร้อารมณ์ “เธอไม่จำเป็นต้องขอโทษอะไรหรอก ฉันไม่เคยเชิญบุคคลภายนอกมางานวันเกิดของตัวเองอยู่แล้ว” ดูเหมือนว่าเพเนโลเป้ไม่ได้พยายามสุภาพกับชารอนเลย

ทันใดนั้น ชารอนก็กลับกลายเป็นคนนอกอย่างที่เพเนโลเป้พูด

ฟิโอน่าหัวเราะคิกคัก “อ่า ไซม่อนไม่ได้บอกเธอเหรอว่าวันนี้เป็นวันเกิดของเพเนโลเป้น่ะ?” เมื่อฟิโอน่าเห็นท่าทางชารอน เธอพลันรู้สึกตื่นเต้น

ไซม่อนขมวดคิ้วและลุกขึ้นยืนทันที หลังจากนั้น เขาก็พูดกับชารอน “ไหน ๆ คุณก็มาถึงที่นี่แล้ว ก่อนจะกลับไป เรามาทานข้าวด้วยกันก่อนเถอะนะ"

ไซม่อนไม่ได้บอกชารอนเรื่องวันเกิดของเพเนโลเป้ก็เพราะเขาไม่ต้องการให้ชารอนเตรียมหรือซื้อของขวัญอะไรมามากมาย แต่ทว่า ถ้าชารอนมาถึงที่นี่แล้ว เธอก็ควรจะรับประทานอาหารเย็นกับพวกเขาด้วย

ถึงกระนั้น วันนี้ก็เป็นวันเกิดของเพเนโลเป้ ไซม่อนรู้อยู่แล้วว่าพี่สาวคงไม่มีความสุขที่ได้พบเจอกับชารอนแน่ เพราะฉะนั้น เขาเองก็ไม่ได้พูดอะไรมาก

นอกจากนี้ ไซม่อนเองก็ไม่คิดเหมือนกันว่าตัวเองจะลุกขึ้นและเชิญชารอนมารับประทานอาหารเย็นด้วยอย่างกะทันหันโดยไม่คิดอะไรเลย

มันเหมือนกันกับเวลามีคนมาเยี่ยมเยียนที่บ้าน เจ้าบ้านก็ต้องพูดออกไปแบบนั้นเพื่อแสดงความสุภาพ

ชารอนระงับความเศร้าในใจ เธอส่ายหัวและพยายามสงบสติอารมณ์ “ไม่เป็นไรค่ะ ฉันสัญญากับเซบาสเตียนเอาไว้แล้วว่าจะทำกับข้าวให้เขากิน" ทันใดนั้น ชารอนจึงก้มมองลูกชาย หาใช่ไซม่อนไม่

ชารอนเงียบไปครู่หนึ่งและพูดต่อ “งั้นฉันไม่ขอรบกวนพวกคุณแล้วค่ะ ฉันกับลูกขอตัวก่อน"

เจ้าตัวเล็กแทบรอไม่ไหวแล้ว เซบาสเตียนรีบจับมือเธอทันที “แม่ครับ เราจะไปซื้อวัตถุดิบทำอาหารกันด้วยไหม?"

ชารอนมองไปยังใบหน้าที่เต็มไปด้วยความคาดหวังของลูกชายและแตะหัวเขา “ได้สิจ๊ะ เดี๋ยวเราไปซื้อข้าวของมาทำกินกัน" ทุกครั้งที่มีลูกชายอยู่เคียงข้าง ชารอนไม่เคยรู้สึกแย่เลย

ในช่วงเวลาที่ทั้งสองคนต้องพึ่งพาอาศัยกันเพื่อความอยู่รอด ชารอนมักจะพาลูกชายไปตลาดทุกครั้งหลังเลิกงาน ทว่า หลังจากทั้งสองได้มาอยู่ที่บ้านใหญ่ตระกูลแซคคารี่ พวกเขาก็ไม่ได้ไปตลาดอีกเลย นอกจากนี้ เจ้าตัวเล็กยังไม่คุ้นชินกับอะไรแบบนี้อีกด้วย

“เซบาสเตียน หลานไม่คิดจะบอกลาปู่หน่อยเหรอ?" ดักลาสมองดูหลานชายซึ่งไร้หัวใจและถอนหายใจ

“บ๊ายบายครับ คุณปู่ เดี๋ยวผมขอไปอยู่กับแม่สักสองสามวัน เดี๋ยวผมจะกลับมาใหม่" หลังจากที่เซบาสเตียนพูดจบ เขาก็รีบดึงชารอนออกไปทันที เขากลัวว่าคุณปู่จะไม่ยอมเลิกรา

“เดี๋ยวผมเดินไปส่งพวกเขาเอง” ไซม่อนลุกขึ้นตามทั้งสองไป

“บอกเซบาสเตียนด้วยว่าเขาอยู่กับแม่ได้เพียงแค่วันเดียวเท่านั้น!" ดักลาสบอกกับไซม่อนด้วยท่าทีที่ไม่พอใจ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไม่รักได้มั้ย…หัวใจของป๊ะป๋าCEO