ไม่รักได้มั้ย…หัวใจของป๊ะป๋าCEO นิยาย บท 207

นอกจากนั้น เซบาสเตียนยังจ้องไปที่ฟิโอน่าด้วยความดุร้าย หลังจากนั้น เขาก็พลันตะโกนออกมา “แม่ของผมไม่ใช่คนดวงซวยสักหน่อย! คุณป้านั้นแหละคือคนดวงซวย!”

ฟิโอน่าอารมณ์เสียทันที “เจ้า... เจ้าเด็กไร้มารยาท! ถ้าแม่ของแกไม่ยอมรับ ฉันจะสั่งสอนบทเรียนให้..." ฟิโอน่ายกมือขึ้นเพื่อตบเด็กชาย

ทันใดนั้น ชารอนรีบดึงลูกชายมาไว้ในอ้อมแขนของตัวเอง เธอมองฟิโอน่าอย่างเย็นชา เธอเองก็กล่าวคำพูดอย่างไร้มารยาทเช่นกัน “ฟิโอน่าคะ ฉันเจ็บก็จริง แต่ยังไม่ตาย คุณไม่ต้องมาสั่งสอนอะไรให้ลูกชายฉันทั้งนั้นแหละ!"

ทันใดนั้น ดวงตาของฟิโอน่าเปล่งประกายด้วยความอาฆาตพยาบาท “พวกคนดวงซวยอย่างเธอจะไปสอนอะไรลูกได้?! ดูเหมือนว่าเราต้องทำให้ไซม่อนและเด็กน้อยอยู่ห่างจากเธอแล้วสินะ เพราะถ้าไม่ทำแบบนั้น เธอจะต้องทำให้พวกเขาทั้งสองเสียผู้เสียคนแน่"

ฟิโอน่ามองไปยังดักลาสและถามขึ้น “คุณพ่อเห็นด้วยรึเปล่าล่ะคะ?"

ทว่า ท่าทีของชารอนมืดลง ลูกชายของเธอคือสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิตเสมอมา แถมตอนนี้ เธอก็อยู่ห่างกับลูกมากแล้ว หากพวกเขาห้ามไม่ให้ชารอนได้พบกับลูกชาย เธอคงทนไม่ไหวอีกต่อไป

“ฟิโอน่า ฉันเป็นแม่ของเขานะ ฉันจะสอนเขายังไง มันก็เป็นเรื่องของฉัน! คุณก็ไม่มีสิทธิ์ที่สอดมือเข้ามายุ่งเรื่องนี้เลยด้วยซ้ำ เพราะหากคุณมีเวลาว่างมากพอที่จะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องของเราสองคน คุณควรใช้เวลาพวกนั้นเพื่อทบทวนการกระทำของตัวคุณเองคะ เมื่อคืนคุณข่มตานอนหลับไหมล่ะ?”

ฟิโอน่าถึงกับทนไม่ไหว แต่ถ้าฟิโอน่าเอาแต่พูดจาว่าร้ายใส่เธอ ชารอนเองก็ไม่รับประกันเหมือนกันว่าสักวันหนึ่ง เธอจะเปิดเผยความลับของฟิโอน่าออกมารึเปล่า

ทว่า ไซม่อนยังคงสลบอยู่ ดังนั้น ชารอนจึงยังไม่ต้องการทำให้ครอบครัวแซคคารี่ตกอยู่ในความโกลาหล

ฟิโอน่าจ้องมองชารอนอย่างเย็นชา นางผู้หญิงคนนี้รู้เรื่องอะไรกันนะ?

“พอได้แล้วทุกคน! เงียบสักที! พวกเธอต้องการรบกวนการพักผ่อนของไซม่อนรึยังไงกัน?" ท้ายที่สุด ดักลาสก็พูดขึ้น ดักลาสสามารถปิดปากทุกคนได้ด้วยคำพูดไม่กี่คำ

“คุณปู่ แต่คุณป้าตบหน้าแม่ผมนะ คุณปู่ต้องปกป้องแม่ผมสิ" เซบาสเตียนดึงมือชายชราและบ่น

ดักลาสมองดูหลานชาย หลังจากนั้น เขาก็มองไปทางชารอนอย่างเย็นชา สีหน้าของเขาดูมืดหม่น อันที่จริง เขาไม่ได้คัดค้านการตบของเพเนโลเป้เลย

เพเนโลเป้มองไปยังชารอนอย่างเย็นชาและหยาบคายเช่นเคย “ออกไปให้พ้น อย่าเข้าใกล้ไซม่อนอีก”

ชารอนลดสายตาต่ำลง เธอไม่โกรธอะไรที่ถูกตบ เพราะเธอทำให้ไซม่อนต้องตกอยู่ในสภาพแบบนี้

ทันใดนั้น ชารอนพลันสบตากับเพเนโลเป้ “ก็ได้ค่ะ ฉันจะอยู่ให้ห่างจากเขา แต่หลังจากที่เขาตื่นขึ้น ฉันจะต้องขอมาดูอาการของเขาด้วยว่าเป็นอะไรมากรึเปล่า...”

ชารอนรู้ดีว่าตอนนี้ไซม่อนมีรีเบคก้าอยู่ข้างกายแล้ว สำหรับไซม่อน ดูเหมือนว่าชารอนจะไม่จำเป็นเลย ส่วนสำหรับตระกูลแซคคารี่ ชารอนก็เป็นเหมือนเสี้ยนหนามที่พวกเขารังเกียจ เพียงแค่พวกเขายังกำจัดเธอออกไปไม่ได้ก็เท่านั้น

“ไซม่อน น-นี่... คุณตื่นแล้วเหรอ?” รีเบคก้าที่อยู่ข้างเตียงพลันอุทานออกมาด้วยความประหลาดใจ

คนอื่นรีบวิ่งเข้ามาหาไซม่อน ชารอนเองก็ต้องการวิ่งเข้าไปหาไซม่อนตามสัญชาตญาณเช่นกัน แต่ดักลาสกับรีเบคก้าก็เข้ามาแทรกทางเธอเอาไว้ ทั้งสองวิตกกังวลมากกว่าชารอนเสียอีก

ชารอนถึงกับหยุดชะงัก ในตอนนี้ ไซม่อนตื่นแล้ว ทั้งคนในครอบครัวและผู้หญิงที่เขาชอบต่างยืนอยู่เคียงข้างเขา เพราะฉะนั้น ชารอนก็ไม่ควรแทรกตัวเข้าไป

“แม่ครับ แม่ไม่เข้าไปหาพ่อบ้างเหรอ?" ลูกชายดึงมือของชารอนและมองขึ้นมา ดวงตาของเขาเหมือนกับของไซม่อนเลย เซบาสเตียนมองมาที่ชารอนโดยตรง

ชารอนก้มศีรษะลงและมองดูลูกชาย เธออยากจะพูดอะไรบางอย่างออกมา แต่เธอก็กลับพูดไม่ออก เธอไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้เลย

เตียงของไซม่อนรายล้อมไปด้วยคนอื่น ทุกคนต่างก็ตั้งคำถามกับเขา แต่ทว่า สายตาของไซม่อนกลับจับจ้องมายังผู้หญิงคนหนึ่งที่อยู่ปลายเตียง ทุกคนต่างก็เป็นห่วงเขา แต่ทำไมชารอนถึงอยู่ห่างออกไปข้างนั้นล่ะ?

“ชารอน...” ชื่อแรกที่ออกจากปากไซม่อนคือเธอ

ทั้งตระกูลแซคคารี่และรีเบคก้าต่างจ้องมองมาที่ชารอน ทำไมเธอถึงยังอยู่ที่นี่อีกล่ะ?

“เซบาสเตียน ไปหาพ่อสิลูก” ชารอนเพิกเฉยต่อสายตาของพวกเขาและกล่าวเตือนลูกชาย

“ไปหาพ่อด้วยกันนะครับ แม่” เด็กชายจูงมือชารอนและลากเธอไปที่ข้างเตียง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไม่รักได้มั้ย…หัวใจของป๊ะป๋าCEO