ต้องขอโทษด้วย ฉันไม่ได้ยอกย้อนอะไรคุณเสียหน่อย ฉันก็แค่ต้องปกป้องศักดิ์ศรีตัวเองเท่านั้น ถ้าถูกกล่าวหาอย่างผิด ๆ แบบนั้น คิดว่าฉันจะตอบโต้ไม่ได้เลยรึไง?”
ในตอนนี้ เพเนโลเป้ไม่คาดคิดเลยว่าชารอนจะหยาบคายได้ขนาดนี้ เธอมองไปยังไซม่อนและกล่าวคำพูดออกมาอย่างขุ่นเคือง “ดูสิ นี่คือผู้หญิงที่นายอยากจะแต่งงานด้วยนักหนา เธอแทบจะไม่เห็นหัวคนอย่างพี่ที่อายุมากกว่าเลยด้วยซ้ำ!"
“ท่านรองประธานแซคคารี่คะ เมื่อครู่คุณพูดออกไม่ใช่รึยังไงกันว่าไม่ให้ฉันเรียกคุณว่าพี่สาวน่ะ? เพราะฉะนั้น คุณก็ไม่ใช่พี่ของฉัน" ชารอนกล่าว
“ปากดีนัก” เพเนโลเป้กล่าวเตือนอย่างเย็นชา
“พอได้แล้ว หยุดเถียงกันสักที” ท้ายที่สุด ไซม่อนก็ก้าวเข้ามาและหยุดทั้งสองเอาไว้ ระหว่างที่กำลังมองไปยังชารอน ไซม่อนพลันเผยรอยยิ้มมุมปากออกมา เขาไม่คาดคิดเลยว่าชารอนไม่เพียงแต่จะไม่กลัวเพเนโลเป้เท่านั้น แต่ชารอนยังยั่วโมโหเธอได้อีกด้วย
พี่สาวคนโตพูดถูก ผู้หญิงคนนี้ปากดีและไร้มารยาท
ถึงอย่างไร ดูเหมือนว่าไซม่อนจะตกอยู่ภายใต้มนต์สะกดไปแล้ว และไม่ได้ทำตัวเชื่องตามคำสั่งของพี่สาวตนเองอีกแล้ว
“พี่เพเนโลเป้ ถ้าอย่างนั้น ทำไมพี่ถึงต้องเข้ามายุ่งวุ่นวายกับผู้หญิงที่ไม่คู่ควรและไร้มารยาทแบบนี้ด้วยล่ะ?" น้ำเสียงของไซม่อนยังคงอ่อนโยน แต่ทว่า เขาพลันเผยแววตาที่แปลกและต่างออกไป
ชารอนจ้องมองยังไซม่อน อันที่จริง ถ้าเขาไม่คิดจะช่วยเธอ ก็ไม่เป็นไร แต่ทว่า ทำไมไซม่อนถึงพูดอะไรแบบนั้นออกมาด้วยล่ะ?
ในตอนนี้ เพเนโลเป้ยังไม่สามารถสงบสติอารมณ์ของตัวเองได้เลย ไซม่อนพูดถูก ทำไมเธอต้องเข้าไปยุ่งวุ่นวายกับชารอนด้วย? มันไม่ใช่เรื่องของเธอเลยด้วยซ้ำ
“แฟรงกี้ นายมาที่นี่ทำไมกัน?” เพเนโลเป้หันไปหาแฟรงกี้
“พอดีผมมีเรื่องจะต้องรายงานต่อท่านประธานแซคคารี่น่ะครับ" แฟรงกี้ตอบ
เพเนโลเป้ขมวดคิ้ว “ตอนนี้ไซม่อนต้องพักฟื้น อย่าเพิ่งเอาเรื่องงานมารบกวนเขาตอนนี้เลย”
“พี่เพเนโลเป้ ผมไม่ได้อ่อนแอขนาดนั้นสักหน่อย อีกอย่าง ก็แค่เอกสาร ผมตรวจดูได้สบายอยู่แล้ว" ไซม่อนกล่าว
“ไซม่อน...”
“พี่เพเนโลเป้ ตอนแรกพี่บอกว่าตัวเองมีประชุมไม่ใช่เหรอ? ใกล้ถึงเวลาแล้วนะครับ พี่ควรกลับไปที่บริษัทได้แล้ว” ไซม่อนขัดจังหวะพี่สาวของตน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไม่รักได้มั้ย…หัวใจของป๊ะป๋าCEO