ไม่รักได้มั้ย…หัวใจของป๊ะป๋าCEO นิยาย บท 216

ต้องขอโทษด้วย ฉันไม่ได้ยอกย้อนอะไรคุณเสียหน่อย ฉันก็แค่ต้องปกป้องศักดิ์ศรีตัวเองเท่านั้น ถ้าถูกกล่าวหาอย่างผิด ๆ แบบนั้น คิดว่าฉันจะตอบโต้ไม่ได้เลยรึไง?”

ในตอนนี้ เพเนโลเป้ไม่คาดคิดเลยว่าชารอนจะหยาบคายได้ขนาดนี้ เธอมองไปยังไซม่อนและกล่าวคำพูดออกมาอย่างขุ่นเคือง “ดูสิ นี่คือผู้หญิงที่นายอยากจะแต่งงานด้วยนักหนา เธอแทบจะไม่เห็นหัวคนอย่างพี่ที่อายุมากกว่าเลยด้วยซ้ำ!"

“ท่านรองประธานแซคคารี่คะ เมื่อครู่คุณพูดออกไม่ใช่รึยังไงกันว่าไม่ให้ฉันเรียกคุณว่าพี่สาวน่ะ? เพราะฉะนั้น คุณก็ไม่ใช่พี่ของฉัน" ชารอนกล่าว

“ปากดีนัก” เพเนโลเป้กล่าวเตือนอย่างเย็นชา

“พอได้แล้ว หยุดเถียงกันสักที” ท้ายที่สุด ไซม่อนก็ก้าวเข้ามาและหยุดทั้งสองเอาไว้ ระหว่างที่กำลังมองไปยังชารอน ไซม่อนพลันเผยรอยยิ้มมุมปากออกมา เขาไม่คาดคิดเลยว่าชารอนไม่เพียงแต่จะไม่กลัวเพเนโลเป้เท่านั้น แต่ชารอนยังยั่วโมโหเธอได้อีกด้วย

พี่สาวคนโตพูดถูก ผู้หญิงคนนี้ปากดีและไร้มารยาท

ถึงอย่างไร ดูเหมือนว่าไซม่อนจะตกอยู่ภายใต้มนต์สะกดไปแล้ว และไม่ได้ทำตัวเชื่องตามคำสั่งของพี่สาวตนเองอีกแล้ว

“พี่เพเนโลเป้ ถ้าอย่างนั้น ทำไมพี่ถึงต้องเข้ามายุ่งวุ่นวายกับผู้หญิงที่ไม่คู่ควรและไร้มารยาทแบบนี้ด้วยล่ะ?" น้ำเสียงของไซม่อนยังคงอ่อนโยน แต่ทว่า เขาพลันเผยแววตาที่แปลกและต่างออกไป

ชารอนจ้องมองยังไซม่อน อันที่จริง ถ้าเขาไม่คิดจะช่วยเธอ ก็ไม่เป็นไร แต่ทว่า ทำไมไซม่อนถึงพูดอะไรแบบนั้นออกมาด้วยล่ะ?

ในตอนนี้ เพเนโลเป้ยังไม่สามารถสงบสติอารมณ์ของตัวเองได้เลย ไซม่อนพูดถูก ทำไมเธอต้องเข้าไปยุ่งวุ่นวายกับชารอนด้วย? มันไม่ใช่เรื่องของเธอเลยด้วยซ้ำ

“แฟรงกี้ นายมาที่นี่ทำไมกัน?” เพเนโลเป้หันไปหาแฟรงกี้

“พอดีผมมีเรื่องจะต้องรายงานต่อท่านประธานแซคคารี่น่ะครับ" แฟรงกี้ตอบ

เพเนโลเป้ขมวดคิ้ว “ตอนนี้ไซม่อนต้องพักฟื้น อย่าเพิ่งเอาเรื่องงานมารบกวนเขาตอนนี้เลย”

“พี่เพเนโลเป้ ผมไม่ได้อ่อนแอขนาดนั้นสักหน่อย อีกอย่าง ก็แค่เอกสาร ผมตรวจดูได้สบายอยู่แล้ว" ไซม่อนกล่าว

“ไซม่อน...”

“พี่เพเนโลเป้ ตอนแรกพี่บอกว่าตัวเองมีประชุมไม่ใช่เหรอ? ใกล้ถึงเวลาแล้วนะครับ พี่ควรกลับไปที่บริษัทได้แล้ว” ไซม่อนขัดจังหวะพี่สาวของตน

เพเนโลเป้ตระหนักถึงนิสัยของไซม่อนดี ยิ่งพูดมากไปก็ยิ่งไร้ประโยชน์ ทันใดนั้น เพเนโลเป้พลันหันไปหาแฟรงกี้และกล่าวคำพูดออกมา “จำสิ่งที่ฉันพูดเมื่อกี้นี้ได้ไหม? ถ้างานทำให้ไซม่อนล้มหมอนนอนเสื่อไปอีก ฉันจะเป็นคนจัดการกับนายเอง”

แฟรงกี้รู้สึกตกใจกับน้ำเสียงของเพเนโลเป้ไม่น้อย ทันใดนั้น เขาจึงรีบกล่าวคำพูดออกมาอย่างรวดเร็ว “ไม่ต้องห่วงเลยครับ เดี๋ยวผมจะช่วยคุณจับตาดูท่านประธานแซคคารี่เองครับ ผมจะไม่ปล่อยให้เรื่องงานมาทำลายสุขภาพเขาแน่"

ในตอนนั้นเอง เพเนโลเป้พลันพยักหน้าอย่างพึงพอใจ ทันใดนั้น เธอก็จำได้ว่าชารอนยังคงยืนอยู่ที่เดิม เพเนโลเป้ขมวดคิ้วและจ้องไปยังชารอนอย่างเย็นชา “ทำไมเธอถึงยังยืนอยู่ตรงนี้อีกล่ะ? ไซม่อนต้องการพักผ่อน คนนอกไม่ควรยุ่มย่ามมากไปกว่านี้นะ”

“แต่ฉันไม่ใช่คนนอกนะคะ ฉันเป็นภรรยาของไซม่อน เพราะฉะนั้น ฉันจะคอยดูแลเขาเอง"

เพเนโลเป้กล่าวคำพูดออกมา “ไซม่อนนอนพักรักษาตัวมาตั้งสองสามวันแล้วนะ แต่ฉันก็ไม่เห็นว่าเธอจะมาเยี่ยมเขาเลย เพราะฉะนั้น ทำไมเธอต้องแสร้งทำเป็นภรรยาผู้มีคุณธรรมสูงส่งของไซม่อนในตอนนี้ด้วยล่ะ?”

ชารอนก้มมองต่ำและเริ่มยอมรับความผิดของตัวเอง “เรื่องนั้นฉันผิดเอง ฉันควรมาเยี่ยมเขาในทุกวัน”

ทันใดนั้น ดวงตาของเพเนโลเป้พลันหรี่ลง “ลืมเรื่องนั้นไปได้เลย เธอมีแต่จะทำให้ไซม่อนเจ็บหนักกว่าเดิมมากกว่า เพราะฉะนั้น เธอน่าจะต้องอยู่ห่างไซม่อนเอาไว้ดีกว่านะ"

“ไซม่อนได้รับบาดเจ็บก็เพราะฉัน ฉันจะเมินเฉยไปได้ยังไงคะ?” ชารอนเดินไปหาไซม่อน ทันใดนั้น ชารอนก็มองไซม่อนอย่างใส่ใจและกล่าวคำพูดออกมาอย่างแผ่วเบา “ไซม่อนคะ คุณหิวน้ำไหม? เดี๋ยวฉันจะเทน้ำให้คุณเองนะคะ?"

ทว่า ก่อนที่ไซม่อนจะกล่าวคำพูดออกมา ชารอนก็พลันเทน้ำเสร็จแล้ว ระหว่างที่ชารอนกำลังยื่นแก้วให้ไซม่อน เธอพลันกล่าวเตือน "ระวังด้วยนะ มันร้อน" ทว่า ดูเหมือนว่าชารอนจะไม่สบายใจ ดังนั้น เธอจึงดึงแก้วกลับมาและเป่าเพื่อทำให้เย็นลง "รอเดี๋ยวก่อนนะ"

การเปลี่ยนแปลงท่าทีอย่างกะทันหันของชารอนถึงกับทำให้ตาของไซม่อนกระตุก เกิดอะไรขึ้นกับผู้หญิงคนนี้กันนะ?

เธอกล่าวคำพูดเหล่านั้นออกมาอย่างไม่มีเหตุผล อันที่จริง เธอน่าจะต้องทำตัวเหลวไหลกว่านี้สิ

ระหว่างที่กำลังยืนอยู่ข้างกาย แฟรงกี้อดไม่ได้ที่จะขนลุกไปทั้งตัว คุณชารอนต้องไม่ใช่ผู้หญิงที่อ่อนโยนและน่ารักแบบนี้แน่นอน

ทันใดนั้น เพเนโลเป้พลันรู้สึกทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว ชารอนคนนี้จงใจทำให้เธอโกรธ แทนที่ชารอนควรจะอยู่ห่างจากไซม่อนอย่างที่เพเนโลเป้บอก แต่เธอกลับแสร้งทำเป็นเป็นภรรยาที่ห่วงใยไซม่อนนักหนา!

ถึงอย่างไร ดูเหมือนว่าเพเนโลเป้เองก็ต้องรีบไปแล้ว เพราะฉะนั้น เพเนโลเป้จึงทำได้เพียงแค่กล่าวเตือนเท่านั้น "ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับไซม่อนอีก เธอระวังตัวเอาไว้ให้ดีก็แล้วกัน ฉันไม่ปล่อยเธอเอาไว้แน่!"

ในตอนนี้ ชารอนไม่ได้อารมณ์เสียเลย เธอทำเพียงแค่เผยยิ้มและตอบกลับ “ไม่ต้องกังวลไปหรอกค่ะ ฉันจะดูแลเขาอย่างดีเลยแหละ”

ถึงอย่างไร ดูเหมือนว่าเพเนโลเป้จะทนเห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของชารอนไม่ได้อีกต่อไปแล้ว เพเนโลเป้จ้องมองไปที่ชารอนอย่างเย็นชา ไม่นานนัก เธอก็พลันเดินออกจากห้องไป

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไม่รักได้มั้ย…หัวใจของป๊ะป๋าCEO