ชารอนวางจานข้าวลงบนโต๊ะอาหารแล้วชวนไซม่อนเข้ามานั่ง
อันที่จริง ชารอนรู้สึกแย่นิดหน่อย เพราะเธอทำอาหารที่ดูธรรมดามาก ทั้งสามจานเลย ไม่นานนัก ชารอนกล่าวคำพูดออกมาอย่างเขินอาย "เอ่อ... มันก็ไม่ใช่อาหารจานพิเศษอะไรขนาดนั้นหรอกนะคะ ฉันหวังว่าคุณจะทนกินได้"
ไซม่อนไม่ได้พูดอะไร เขาเพียงแต่นั่งลงที่ข้างโต๊ะเท่านั้น
ในทางกลับกัน เซบาสเตียนรู้สึกดีใจไม่น้อย “แม่ครับ แค่หมูตุ๋นจานโตจากนี้ก็มากเกินพอแล้วครับ”
ไซม่อนมองไปยังเซบาสเตียนและจ้องไปยังแขนและขาอันผอมเพรียวของเขา 'ชีวิตพวกเขาก่อนหน้านี้ลำบากกันไหมนะ? หรือเมื่อก่อนเด็กคนนี้ไม่มีแม้แต่เนื้อให้กินเลย?'
“งั้นกินให้เต็มที่เลย” ไซม่อนตักหมูตุ๋นชิ้นโตให้เซบาสเตียน
“ขอบคุณครับ แต่ผมตักเองได้นะ คุณลุงไม่ต้องสุภาพกับผมขนาดนั้นก็ได้” ทันทีที่เซบาสเตียนพูดจบ เขาก็ใช้ช้อนตักเนื้อขึ้นมาอีกสองชิ้นพร้อมกับวางมันลงบนจาน เมื่อพูดถึงเรื่องกิน เซบาสเตียนไม่ยอมแพ้แน่นอน
เมื่อเห็นเซบาสเตียนรับประทานอาหารอย่างมีความสุข ไซม่อนเผยรอยยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว
“ท่านประธานแซคคารี่คะ คุณเองก็ควรกินนะ ไม่ต้องตักให้เขาก็ได้ค่ะ” ชารอนตักข้าวให้ไซม่อนหนึ่งช้อน
ไซม่อนเงยหน้าขึ้นและหยิบช้อนส้อมขึ้นมา
ชารอนชำเลืองมองไซม่อนในระหว่างที่เขากัดเนื้อตุ๋นคำแรกเข้าไป ทันใดนั้น เธอเอ่ยถามขึ้น “รสชาติถูกปากคุณไหมคะ?”
“ยังกินได้อยู่” ไซม่อนโพล่งออกมาเช่นนั้น
ดวงตาของชารอนกระตุกเล็กน้อย 'มันเป็นคำตอบแบบไหนกันล่ะเนี่ย?'
ถึงกระนั้น ไซม่อนก็เกิดมาในตระกูลที่ร่ำรวย เขาต้องมีพ่อครัวชั้นยอดที่เตรียมอาหารให้ที่บ้านแน่นอน อันที่จริง มันถือเป็นเรื่องที่ดีหากไซม่อนสามารถลดมาตรฐานและรับประทานอาหารร่วมกับเธอได้ งั้นชารอนกำลังคาดหวังคำตอบดี ๆ อะไรจากไซม่อนกันล่ะ?
หลังจากทานเสร็จ ท้องฟ้าเริ่มมืดลง ฝนเริ่มเทลงมาอย่างหนัก แถมเสียงฟ้าร้องยังดังตามมาอีกด้วย ดูเหมือนว่าฝนจะไม่หยุดตกเลย
ชารอนมองไปยังไซม่อนที่กำลังเล่นหมากรุกกับลูกชายของเธอ แม้ว่าฝนจะตกหนัก แต่เธอก็ไม่สามารถให้ไซม่อนค้างคืนที่นี่ได้
แต่ถึงอย่างไร เธอก็ยังไล่ไซม่อนออกไปไม่ได้ นั่นเป็นเพราะฝนยังตกอยู่ ทว่า ระหว่างที่เธอกำลังรู้สึกสับสน โทรศัพท์ของไซม่อนก็ดังขึ้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไม่รักได้มั้ย…หัวใจของป๊ะป๋าCEO