ในเวลาเช่นนี้ แค่ประโยคเดียวจากปากลูกชายก็สามารถทำให้ชารอนรู้สึกดีขึ้นได้ ไม่ว่าบุคคลภายนอกจะปฏิบัติกันชารอนยังไง เธอก็ยังคงมีลูกชายคอยอยู่เคียงข้างเสมอ
อันที่จริง แค่นี้เธอก็พอใจแล้ว
แซลลี่ซึ่งกำลังนอนเจ็บปวดอย่างแสนสาหัสอยู่บนพื้นพจ้องไปที่ชารอนด้วยความรำคาญสายตาและความเกลียดชัง แซลลี่เดิมพันชีวิตลูกในท้องเพื่อใส่ร้ายป้ายสีให้กับชารอน ทำไมเหตุการณ์ถึงเป็นแบบนี้ไปได้ล่ะ?
แซลลี่มองไปที่ชารอนอย่างทุกข์ทรมาน เธอกล่าวคำพูดสุดน่าสงสารออกมาด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยน้ำตา “ชารอน ฉันรู้นะว่าเธอเกลียดฉันที่ไปทำลายงานวิวาห์เมื่อห้าปีก่อน แต่เด็กในท้องไม่รู้เรื่องอะไรด้วยเลยนะ เธอจะทำอะไรกับฉันก็ได้... แต่ทำไมเธอต้องมาทำร้ายลูกในท้องฉันด้วยล่ะ?”
ทว่า คำพูดของแซลลี่จุดประกายความโกรธของฟิโอน่าอีกครั้ง ด้วยสีหน้าสุดชั่วร้าย ฟิโอน่าต้องการฉีกร่างของชารอนออกจากกันไม่น้อย “ให้ตายเถอะ แกจะต้องชดใช้ให้กับหลานชายของฉัน!” ฟิโอน่ากำลังพุ่งไปหาชารอนอีกครั้ง
แต่ทว่า ไซม่อนก็พุ่งเข้ามาขวางเอาไว้พร้อมกับแสดงสีหน้าสุดเย็นชา "พอได้แล้ว! รถพยาบาลมาแล้ว คุณป้าฟิโอน่า พาแซลลี่ไปโรงพยาบาลก่อนเถอะ แล้วเดี๋ยวผมจะเคลียร์เรื่องนี้ให้เอง”
หน่วยแพทย์รีบเข้ามาอุ้มแซลลี่ขึ้นรถพยาบาลทันที
“แม่คะ โฮเวิร์ด... หนูอยากเห็นหน้าโฮเวิร์ด” แซลลี่กล่าวคำพูดพร้อมกับจับมือของฟิโอน่าเอาไว้อย่างกังวลใจก่อนที่จะเป็นลมไป
แม้ว่าฟิโอน่าอยากจะบีบคอชารอนให้ตายมากขนาดไหน แต่เธอยังคงหวังอยู่ในใจ บางทีเด็กในท้องอาจจะยังรอดอยู่ก็ได้? หลังจากนั้น ฟิโอน่าก็รีบพาแซลลี่ขึ้นรถพยาบาลและพูดปลอบใจทันที “แม่จะโทรเรียกเขาให้ไปที่โรงพยาบาลเดี๋ยวนี้แหละ”
ก่อนที่รถพยาบาลจะขับออกไปจากคฤหาสน์ของตระกูลแซคคารี่ ฟิโอน่าพลันจ้องมองไปที่ชารอนและกล่าวพูดออกมาอย่างชั่วร้าย “แกหยุดรออยู่ตรงนั้นแหละ!”
เมื่อเห็นว่าแซลลี่จากไปแล้ว ชารอนพลันนึกถึงบางอย่าง เธอรีบคว้าแขนของไซม่อนและกระซิบข้างหูอย่างกังวลใจ “เด็กในท้องของแซลลี่ไม่ใช่ลูกของโฮเวิร์ด คุณช่วยไปที่โรงพยาบาลเพื่อพิสูจน์หน่อยได้ไหม?”
ไซม่อนตกใจไม่น้อยทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น "คุณแน่ใจใช่ไหม?"
ชารอนพยักหน้า "ใช่ค่ะ"
ก่อนหน้านี้ ถ้าชารอนไม่เคยได้ยินบทสนทนาในโรงพยาบาลระหว่างแซลลี่กับศัลยแพทย์ที่ชื่อว่าคุณหมอเวย์น จอห์นคนนั้น เธอก็คงจะไม่แน่ใจนัก อีกอย่าง เมื่อชารอนกลับไปตามหาตัวไปหาคุณหมอเวย์นในภายหลัง ปรากฎว่าเขาได้ลาออกและหายไปแล้ว นั่นสามารถบ่งชี้ได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติเกิดขึ้น แซลลี่ต้องบังคับให้เขาลาออกอย่างแน่นอน
แววตาของไซม่อนเปลี่ยนไป แต่ทว่า สีหน้าของเขาก็ยังคงเย็นชาอยู่ โฮเวิร์ดเป็นหลานชายของไซม่อน ดังนั้น เขาจึงปล่อยให้เรื่องนี้เลื่อนลอยไปไม่ได้
ไซม่อนเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดขึ้นมา “งั้นผมจะไปโรงพยาบาลทันที ส่วนตอนนี้คุณและลูกไปอยู่ที่บ้านเพื่อนก่อนเลย”
นั่นหมายความว่าไซม่อนยังคงเชื่อในคำพูดของชารอน หลังจากนั้น ชารอนถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก
ในตอนนี้ เธอกลายเป็นผู้ร้ายที่ผลักแซลลี่ลงบันได ดังนั้น มันจึงเป็นเรื่องยากที่ชารอนจะเข้าใกล้แซลลี่ในตอนนี้ ถึงอย่างไร ชารอนเองก็ทำได้เพียงแค่ขอความช่วยเหลือจากไซม่อนในเรื่องนี้เท่านั้น
ชารอนเห็นด้วยกับคำพูดของไซม่อน เธอต้องพาลูกชายออกไปจากบ้านหลังนี้ก่อน
แม้ว่าดักลาสจะไม่ได้ตั้งคำถามกับชารอนอะไรเป็นพิเศษ เขาทำได้เพียงแค่ปล่อยให้ทั้งสองไป ถึงแม้จะมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น ถึงแม้ว่าตัวเขาจะลังเลที่จะต้องแยกทางกับหลานชายก็ตาม
ชารอนรู้สึกท้อแท้ไม่น้อย เธอรีบพาลูกชายมาไปยังคอนโดของไรลีย์
ทว่า ไรลีย์ไม่อยู่ เธอน่าจะออกไปซื้อของกับเพื่อน
สำหรับตอนนี้ ไรลีย์เองก็รู้แล้วด้วยว่าไซม่อนเป็นพ่อของเซบาสเตียน และชารอนกับลูกก็ไปคฤหาสน์ของตระกูลแซคคารี่เมื่อวันก่อน ไรลีย์จึงไม่คิดว่าทั้งสองจะกลับมาในวันนี้ เธอจึงออกไปข้างนอกกับเพื่อนเพราะรู้สึกเบื่อและต้องอยู่คนเดียว
ตั้งแต่กลับมาถึงคอนโด ชารอนเอาตั้งตารอไซม่อนโทรกลับมา เมื่อถึงเวลากลางคืน แม้แต่เซบาสเตียนก็ถึงกับผล็อยหลับไป แต่ทว่า มันกลับไม่มีสายเรียกเข้าหรือแม้แต่ข้อความจากไซม่อนแม้แต่น้อย
ชารอนรู้สึกกังวลใจไม่น้อย เธอเอาแต่ครุ่นคิดเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับแซลลี่ ลูกในท้องของแซลลี่ยังสบายดีอยู่ไหมนะ?
ถ้าไซม่อนไปถึงโรงพยาบาล เขาจะได้หลักฐานว่าเด็กในท้องของแซลลี่ไม่ใช่ลูกของโฮเวิร์ดไหมนะ?
ด้วยความคิดที่สุดวุ่นวายเหล่านี้ ชารอนจึงผล็อยหลับไปท่ามกลางความสับสน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไม่รักได้มั้ย…หัวใจของป๊ะป๋าCEO