ไม่รักได้มั้ย…หัวใจของป๊ะป๋าCEO นิยาย บท 57

ปากของโฮเวิร์ดเต็มไปด้วยรสชาติของเลือด เขาเช็ดเลือดที่มุมปากและเงยหน้าขึ้นมองไปที่ไซม่อนอย่างด้วยความโมโห ในตอนนั้น เขาเสียสติไปแล้ว แถมเขาไม่สนใจแล้วด้วยว่าชายที่ยืนอยู่ตรงหน้าจะเป็นลุงของตัวเองหรือเปล่า

“ผมอยากฆ่าเธอ! เธอเป็นคนที่ฆ่าลูกของผม!” เสียงของโฮเวิร์ดแหบแห้ง ดวงตาของเขาเป็นประกายด้วยแรงอาฆาต

“ฉันไม่ได้...” ชารอนรู้สึกแสบร้อนในลำคอหลังจากถูกบีบรัดเอาไว้แน่น ระหว่างที่เธอกำลังพูดออกมา น้ำเสียงกลับดูเปลี่ยนไป

“เธอมันฆาตกร เธอกล้าปฏิเสธออกมาแบบนั้นได้ยังไงกัน?!” ทุกคำที่โฮเวิร์ดโพล่งออกมาไม่ต่างอะไรกับดาบอันแหลมคมที่คอยสับเธอเป็นชิ้น ๆ

ทว่า ทุกครั้งที่ชารอนเอ่ยคำพูด เธอมักจะรู้สึกเจ็บปวดบริเวณรอบคออยู่เสมอ แต่ถึงกระนั้น ชารอนเองก็ยังยืนกรานที่จะพูดต่อ “ฉันไม่ได้ผลักเธอ เธอตั้งใจทำแบบนั้นเอง เธอเป็นคนฆ่าลูกของตัวเองอย่างไร้ความปราณีต่างหากล่ะ!”

“หือ? เธอยังจะตีหน้าซื่อไม่เลิกอีกเหรอ? ทำไมแซลลี่ถึงต้องการฆ่าลูกของตัวเองด้วยล่ะ? ถ้าอยากจะโกหกมากนัก ก็ช่วยหาข้อแก้ตัวที่มันดีกว่านี้หน่อยเถอะ!”

ชารอนรู้ดีว่าคำพูดของเธอนั้นยากที่จะเชื่อ เพราะชารอนเองก็ไม่มีหลักฐานที่จะสามารถพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเองได้แม้แต่ชิ้นเดียว นอกจากนี้ แซลลี่ที่เพิ่งสูญเสียลูกในท้องไปยังตกเป็นเหยื่ออีกด้วย ด้วยเหตุนั้น ทุกคนจึงสงสารแซลลี่และเชื่อในทุกคำพูดจอมเจ้าเล่ห์ของเธอ

เนื่องจากหลายสิ่งหลายอย่างมาถึงขั้นนี้แล้ว ชารอนจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องชี้แจงให้กระจ่าง “นั่นเป็นเพราะว่าเด็กในท้องไม่ใช่ลูกของคุณยังไงล่ะ! เธอกลัวว่าฉันจะเอาความลับเรื่องนี้มาเปิดโปงกับคุณ นั่นแหละเป็นสาเหตุที่แซลลี่ฆ่าลูกในท้องเพื่อใส่ร้ายป้ายสีฉัน!”

ไซม่อนขมวดคิ้ว ในตอนแรก เขาต้องการเข้าไปห้ามไม่ให้ชารอนพูดอะไรแบบนั้นออกมา แต่ว่า ดูเหมือนว่ายังมีเรื่องที่เขาไม่รู้อยู่อีก

อันที่จริง โฮเวิร์ดไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ชารอนพูดออกมาเลยด้วยซ้ำ แต่ทว่า เขาตอบกลับอย่างเย็นชา “มันต้องเป็นฝีมือเธอนั้นแหละ โกหกให้มันเนียนกว่านี้หน่อยเถอะ!” สายตาของโฮเวิร์ดจับจ้องมาที่ชารอน “คุณบอกว่าเด็กในท้องไม่ใช่ลูกของผม งั้นเด็กคนนั้นเป็นลูกใครกันล่ะ? คุณกำลังพยายามจะบอกผมว่าแซลลี่นอกใจฉันผมงั้นเหรอ? คุณคิดว่าผู้หญิงทุกคนจะแพศยาเหมือนตัวเองหมดเลยหรือยังไงกัน?”

ชารอนรู้สึกแย่ไม่น้อย แต่เธอในตอนนี้ไม่หายใจหอบอีกต่อไปแล้ว เธอกล่าวคำพูดด้วยน้ำเสียงแหบแห้งแทน “คุณจะเชื่อหรือไม่ มันก็ขึ้นอยู่กับคุณ แต่เด็กในท้องเป็นลูกของศัลยแพทย์คนหนึ่งที่ชื่อว่าคุณหมอเวย์น จอห์น คุณลองไปถามเขาเองก็แล้วกัน!”

โฮเวิร์ดเงียบไปสองสามวินาทีก่อนจะกล่าวคำพูดออกมา แต่ทว่า ในตอนนั้นเอง ไซม่อนก็พลันตะโกนแทรกขึ้นมา “พอได้แล้ว!” เขาตะโกนออกมาอย่างเย็นชาในระหว่างที่ทั้งร่างกายของไซม่อนเผยให้เห็นถึงออร่าอันแข็งแกร่ง ดวงตาของไซม่อนเป็นประกายในระหว่างที่กำลังกล่าวคำพูด “โฮเวิร์ด นายควรตรวจสอบเรื่องนี้ก่อนที่จะพูดอะไรออกมานะ ตอนนี้ฉันว่านายควรกลับไปก่อน แล้วถ้านายยังกล้าเข้ามายุ่งกับชารอนอีก ถ้าหาว่าฉันไม่เตือนก็แล้วกัน"

โฮเวิร์ดรู้สึกตกใจในทันที “คุณลุง! ชารอนเป็นผู้หญิงที่ชั่วร้ายที่กล้าทำร้ายแซลลี่นะครับ! เธอเป็นคนฆ่าลูกของผมนะ เธอต้องชดใช้เรื่องทั้งหมดด้วยชีวิตเท่านั้น! นั่นแหละสมเหตสมผลที่สุดแล้ว ทำไมคุณลุงต้องปกป้องเธอด้วยกันล่ะ? เธอใช้วิธีไหนหลอกล่อคุณกัน?”

ไซม่อนเผยสายตาเย็นชาออกมาทันที บรรยากาศรอบตัวไซม่อนเริ่มเย็นลงในระหว่างที่กำลังกล่าวคำพูดสุดเยือกเย็นออกมา “สรุปแล้วนายก็รู้สินะว่าเรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นในคฤหาสน์ของตระกูลแซคคารี่น่ะ ชารอนจะต้องโง่ขนาดไหนกันถึงกล้าทำเรื่องแบบนั้นที่บ้านเราน่ะ?"

อันที่จริง หากเราพิจารณาอย่างถี่ถ้วนและรอบคอบ เราจะสามารถระบุสาเหตุทั้งหมดได้ ถึงกระนั้น ดูเหมือนว่าโฮเวิร์ดจะโมโหเลือดขึ้นหน้าจนตกเป็นเหยื่อเสียเอง

“นายควรกลับไปก่อน ฉันขอเวลาหน่อย จับตาดูผู้หญิงของนายเอาไว้ให้ดีเถอะ อย่าปล่อยให้เธอทำอะไรโง่ ๆ อีก” ดูเหมือนว่าไซม่อนจะสื่อความหมายโดยนัยออกมาเพื่อให้โฮเวิร์ดเข้าใจ ถึงแม้ว่าเขาจะไม่พูดออกมาตรง ๆ ก็ตาม

โฮเวิร์ดเหลือบมองไปยังลุงไซม่อนที่กำลังไร้อารมณ์ หลังจากนั้น โฮเวิร์ดก็มองไปที่ชารอนซึ่งยังคงนั่งอยู่บนพื้น ความโกรธในดวงตายังไม่หายไปไหน แต่ทว่า ด้วยความที่รู้ว่าไซม่อนยังอยู่ตรงนี้ เขาจึงไม่สามารถทำอะไรชารอนได้อีกต่อไปแล้ว

โฮเวิร์ดพยายามลุกขึ้นและล้เช็ดเลือดที่มุมปากออก ดวงตาของเขาเป็นประกายเผยให้เห็นออร่าสุดชั่วร้าย เขาพลันกล่าวคำพูดออกมาอย่างเย็นชา “ยังไงก็เถอะ ชารอน เธอเองก็ระวังตัวให้ดีก็แล้วกัน!” หลังจากพูดจบ โฮเวิร์ดก็เดินออกไปโดยไม่หันหลังกลับมามองเลยสักนิด

ชารอนรู้สึกว่าเธอยังไม่มีเรี่ยวแรง หลังจากได้เห็นดวงตาของโฮเวิร์ดที่เต็มไปด้วยความโหดเหี้ยม เธอรู้ดีว่าเขาจะไม่ยอมปล่อยให้เรื่องนี้หลุดลอยไปแน่

ชารอนรีบส่ายหัวและมองไปที่ไซม่อนซึ่งยังคงเผยท่าทีเย็นชา เธอถามอย่างลังเล “ลูกของแซลลี่...”

ทว่า ไซม่อนรู้ดีว่าชารอนอยากจะถามอะไร เขาหยิบเอกสารที่วางไว้ด้านบนของตู้ ณ ทางเข้าออกมา อันที่จริง ไซม่อนมาที่นี่เพื่อมอบเอกสารนี้ให้กับชารอน แต่เมื่อเขามาถึงหน้าประตู ไซม่อนก็เห็นโฮเวิร์ดกำลังบีบคอเธออยู่ ในสถานการณ์ที่เลวร้ายตรงหน้า ไซม่อนจึงต้องทิ้งเอกสารเอาไว้และพุ่งเข้ามา

"เธอดูเอาเองก็แล้วกัน" ไซม่อนวางเอกสารไว้ข้างหน้าชารอน

ชารอนเอื้อมมือไปรับเอกสารมาด้วยความรู้สึกงงงวย มันเป็นรายงานผลตรวจดีเอ็นเอ ชารอนเป็นคนขอให้ไซม่อนทำการทดสอบนี้เพื่อพิสูจน์ว่าเด็กที่อยู่ในท้องของแซลลี่นั้นไม่ใช่ลูกของโฮเวิร์ด

แต่ทว่า ชารอนพลันพลิกดูเอกสารเพื่อดูผลลัพธ์ ในระหว่างนั้น เธอก็ต้องตกตะลึง ผลปรากฏว่าเด็กนั้นในท้องของแซลลี่เป็นลูกของโฮเวิร์ดจริง ๆ!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไม่รักได้มั้ย…หัวใจของป๊ะป๋าCEO