ชารอนถึงกับต้องตั้งรับ ฟิโอน่าตบไม่โดนหน้าเธอด้วยซ้ำ นั่นเป็นเพราะชารอนคว้ามือของฟิโอน่าเอาไว้
“คุณป้าฟิโอน่าคะ หนูไม่ใช่คนที่ต้องรับผิดชอบชีวิตของเด็กคนนั้น หนูแค่มาเยี่ยมแซลลี่เองนะคะ” ชารอนสามารถสงบสติอารมณ์ของตัวเองได้แม้จะต้องเผชิญหน้ากับฟิโอน่าที่กำลังรู้สึกโกรธเคือง
ทว่า ฟิโอน่าเชื่อไปแล้วว่าเป็นชารอนเป็นคนผลักแซลลี่ตกบันได และเมื่อชารอนอ้างว่าเด็กในท้องแซลลี่ไม่ใช่ลูกของโฮเวิร์ด มันเพียงแต่จะทำให้ชารอนดูแย่ในสายตาของฟิโอน่าก็เท่านั้น
ถึงอย่างไร ชารอนพลันสังเกตเห็นว่าท่าทีของแซลลี่เปลี่ยนไป ก่อนที่แซลลี่จะเสียลูกในท้อง เธอยอมรับไปแล้วว่าเด็กคนนั้นไม่ใช่ลูกของโฮเวิร์ด
ถึงกระนั้น หลังจากสูญเสียเด็กไป แซลลี่ก็หมดความกลัวเพราะไม่มีหลักฐานพิสูจน์ตัวตนของเด็กอีกต่อไปแล้ว ด้วยเหตุนั้น โฮเวิร์ดจึงไม่มีวันได้รู้อีกต่อไปแล้วว่าแซลลี่กำลังนอกใจเขาอยู่
ฟิโอน่าก็ยิ่งโกรธมากขึ้นกว่าเดิมหลังจากที่พลาดตบไม่โดนชารอน เธอกระชากมือกลับไปและคำรามใส่ชารอน “คอยดูเถอะ! หลังจากที่แกเอาชีวิตของหลานฉันไป ฉันจะไม่มีวันปล่อยให้คนอย่างแกหนีรอดไปได้แน่!” ฟิโอน่าสาบานว่าจะขับไล่ชารอนออกจากตระกูลแซคคารี่เสีย
ชารอนเหลือบมองไปยังแซลลี่ ดวงตาของแซลลี่กำลังส่องประกายด้วยความเย่อหยิ่ง
ชารอนเข้าใจแล้วว่าเด็กในท้องเป็นแค่เบี้ยสำหรับแซลลี่ ถึงแม้จะฆ่าเด็กในท้องไป เธอก็ไม่รู้สึกเสียใจหรือเศร้าโศกเลยแม้แต่น้อย
ทว่า หากชารอนยังคงยืนอยู่ในห้องนี้ มันก็มีแต่จะสร้างปัญหาเข้าตัวเองขึ้นเรื่อย ๆ ทันใดนั้น ชารอนจึงเมยเฉยใส่ฟิโอน่าที่กำลังตะโกนและหันไปกล่าวคำพูดกับแซลลี่ "งั้นก็ดูแลสุขภาพของตัวเองให้ดี ๆ และขอให้เด็กคนนั้นได้เกิดมาเจอกับแม่ดี ๆ ในชาติหน้าก็แล้วกัน" หลังจากนั้น ชารอนก็หมุนตัวกลับและจากไป
แซลลี่จ้องไปยังแผ่นหลังของชารอน คำพูดของชารอนทำให้แซลลี่รู้สึกบีบคั้นหัวใจไม่น้อย 'นางชารอน นางสารเลว มันพยายามจะขู่เรางั้นหรอ? ชาติหน้าบ้าบออะไรกัน? ใครเชื่อเรื่องชาติหน้าก็บ้าแล้วล่ะ!'
ฟิโอน่าซึ่งถูกเมินเฉยรู้สึกโกรธมากเสียจนต้องจนกระทืบเท้า เธอชี้ไปที่ชารอนและสบถไม่หยุดจนกระทั่งเลือนร่างของชารอนหายไปจากประตู
ทว่า ฟิโอน่ายังคงควบคุมสติและอารมณ์ของตัวเองไม่ได้ ถึงอย่างไร ทันทีที่ความคิดหนึ่งผุดขึ้นมาในหัว ความเย็นชาในดวงตาของเธอก็พลันหายไป ไม่นานนัก ฟิโอน่าก็เผยยิ้มอย่างเยือกเย็นออกมาแทน
ทันทีที่ฟิโอน่าเยี่ยมแซลลี่เสร็จแล้ว เธอก็ออกมาจากโรงพยาบาล ทันทีที่ฟิโอน่าขึ้นรถ เธอก็รีบโทรหารีเบคก้า “รีเบคก้า มาเจอกันหน่อยสิ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไม่รักได้มั้ย…หัวใจของป๊ะป๋าCEO