ไซม่อนพักค้างคืนที่โรงพยาบาลโดยไม่ได้ออกไปไหน แม้ว่าเขาจะช่วยเหลืออะไรไม่ได้มาก แต่มันก็ยังดีกว่าปล่อยให้ชารอนดูแลลูกคนเดียว
ไซม่อนขอให้แฟรงกี้ส่งเอกสารที่ตนต้องจัดการเพื่อที่จะได้นั่งทำงานในห้องของเซบาสเตียนได้ พร้อมกับมองดูชารอนดูแลลูกไปด้วย
ตามที่เซบาสเตียนพูด ชารอนดูแลเขาตลอดทั้งคืน ชารอนทั้งเช็ดเหงื่อและเปลี่ยนผ้าเช็ดตัว เธอวัดอุณหภูมิร่างกายของเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่าด้วยความกลัวว่าลูกชายจะเป็นไข้อีก
เซบาสเตียนรับประทานยาไปในตอนกลางคืนและนอนหลับสนิท ชารอนหันไปมองชายที่กำลังยุ่งอยู่กับเอกสารซึ่งนั่งอยู่ไม่ไกลนัก
เธอลุกขึ้นเดินไปหาไซม่อน “พักผ่อนบ้างนะคะ เดี๋ยวพรุ่งนี้คุณจะต้องหัวปั่นกับงานที่บริษัทอีก” เธอกล่าวอย่างแผ่วเบา ทว่า นี่เป็นห้องผู้ป่วยระดับพรีเมียม มันมีทั้งเตียงเสริมและโซฟา ดังนั้น ถ้าเหนื่อย เขาก็สามารถพักผ่อนได้
ไซม่อนเงยหน้าขึ้นมองชารอน ผมของเธอยุ่งเล็กน้อยเพราะเธอหมกหมุ่นอยู่กับการดูแลเซบาสเตียน แสงสว่างภายในห้องทำให้เกิดแสงสลัวบนเรือนร่างของเธอ ในตอนนี้ ชารอนกลายเป็นคุณแม่สุดอ่อนโยนไปแล้ว
ถึงอย่างไร ไซม่อนเองก็สูญเสียแม่ไปทันทีที่เขาได้เกิดมา ดังนั้น เขาจึงไม่เคยมีประสบการณ์ความรักแบบแม่ลูกเลย เขาไม่เข้าใจเลยความรู้สึกที่แม่คอยเป็นห่วงนั้นเป็นอย่างไร ถึงกระนั้น เขาก็สามารถสัมผัสความรู้สึกนั้นได้ในคืนนี้
หัวใจของไซม่อนสั่นไหวในระหว่างที่กำลังจ้องมองลึกเข้าไปในดวงตาของชารอน “คุณเองก็ควรพักผ่อนนะ ไปนอนก่อนเถอะ เดี๋ยวผมดูแลเขาเอง” ไซม่อนกล่าว
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ตอนนี้ฉันยังไม่ง่วง งั้นคุณก็ทำงานต่อไปก็ได้ ฉันยังนอนไม่หลับ เดี๋ยวฉันดูแลเขาเอง ยังไงก็เถอะ ฉันชินแล้วแหละ” ชารอนพูดพร้อมกับโบกมือ ถ้าลูกชายอยู่ในสภาพเช่นนี้ ชารอนเองก็นอนไม่หลับเช่นกัน
ถึงกระนั้น ไซม่อนลุกขึ้นและจับข้อมือของชารอนเอาไว้แน่น หลังจากนั้น เขาก็ดึงเธอไปที่เตียงและกดไหล่ของชารอนลงบนเตียงเพื่อให้เธอนั่งลง
ชารอนกลับมารู้สึกตัวอีกครั้งก่อนที่ไซม่อนจะกดเธอลงบนเตียง เธอคว้ามือของไซม่อนซึ่งยังอยู่บนไหล่ของตัวเอง พร้อมกับเงยหน้าขึ้นมอง “ฉันบอกแล้วไงว่าฉันนอนไม่หลับ” เธอพูดอย่างไม่พอใจ
“ถึงจะนอนไม่หลับ แต่คุณต้องนอน” ไซม่อนพูดโดยไม่เหลือที่ว่างให้ชารอนคัดค้านเลย เขากดเธอลงบนเตียงและพยายามบังคับให้ชารอนนอน
แน่นอน ชารอนยังไม่อยากนอน เธอพยายามลุกขึ้น ทว่าา ไซม่อนใช้มือทั้งสองข้างของสกัดเธอเอาไว้และบังคับให้ชารอนนอนอยู่บนเตียง
ใบหน้าของไซม่อนอยู่ใกล้กับชานมากจนลมหายใจของทั้งสองประสานกัน ชารอนนอนอยู่ตรงนั้นไม่กล้าขยับ แต่ทว่า มันก็ไม่ได้หมายความว่าเธอยอมจำนนต่อไซม่อน
“ไซม่อน..."
“ชู่ อย่าพูดสิ หลับตาแล้วไปนอนไปเลย” ไซม่อนกล่าวด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาระหว่างที่กำลังกดนิ้วชี้ลงบนริมฝีปากของชารอน แม้มันจะดูเหมือนไซม่อนกำลังเกลี้ยกล่อมชารอนให้หลับ แต่พฤติกรรมของเขาก็อาจทำให้คนอื่นคิดผิดได้
“ฉัน...” เธอบ่นพึมพำ ชารอนยังคงลังเลที่จะนอน
“ให้ผมไปส่งคุณขึ้นเตียงแทนไหมล่ะ?” เขาพูดแทรกขึ้นมา
ชารอนมองเข้าไปในดวงตาของไซม่อน มันเป็นสายตาที่มืดมิดและลึกล้ำ หัวใจของชารอนพลันเต้นผิดจังหวะ ถ้าเขาขยับเข้าไปใกล้อีกนิด ริมฝีปากของทั้งคู่ก็จะสัมผัสกันแล้ว
“ไม่ใช่ว่าไม่อยากนอน แต่ฉันเป็นห่วง...”
“คุณผู้หญิง คุณรู้ไหมว่าบางครั้งคุณไม่จำเป็นต้องทำตัวแข็งกร้าวขนาดนี้ก็ได้? ถ้าไม่งั้น คุณจะไม่มีใครรักเอานะ” ไซม่อนพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ ดวงตาของเขาแน่วแน่
ชารอนจ้องมองไซม่อนโดยไม่พูดอะไรออกมาสักคำ อารมณ์ที่ซับซ้อนกำลังพัดผ่านหัวใจของเธอ นี่ถือเป็นการแสดงที่ดุเดือดหรือเปล่านะ?
อันที่จริง ไม่ใช่ว่าชารอนไม่ต้องการให้ใครมารัก แต่ถึงกระนั้น เธอก็เคยชินกับการเลี้ยงลูกคนเดียวมาตลอดห้าปีแล้ว เธอไม่ได้คาดหวังว่าจะต้องพึ่งพาคนอื่นมานานแล้ว
ชารอนสามารถพึ่งพาผู้ชายตรงหน้าได้ไหมนะ?
ไซม่อนถอนหายใจและเอามือปิดปากชารอน "นอนเถอะ เดี๋ยวผมดูแลลูกเอง” เขากล่าว
ชารอนพลันคิดว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่เธอจะผล็อยหลับไป บางที มันก็อาจเป็นเสียงของไซม่อนที่ทำให้เธออุ่นใจ หรือเธอเหนื่อยเกินไปกันแน่? ถึงอย่างไร ทันทีที่ชารอนลืมตา แสงอาทิตย์ก็ส่องผ่านหน้าต่างเข้ามาแล้ว
เธอรีบลุกขึ้นนั่งและหันไปมองด้านข้าง เซบาสเตียนยังคงหลับตาอยู่บนเตียง เธอลงจากเตียงและรีบเดินไปวัดอุณหภูมิร่างกายของเด็กน้อยโดยไม่แม้แต่จะใส่รองเท้าเลยด้วยซ้ำ
อุณหภูมิร่างกายของเขาปกติดี ไข้ของลูกชายไม่มีแล้ว ชารอนถอนหายใจด้วยความโล่งอก ความกังวลทั้งหมดในใจของเธอหายไป
ทว่า ชารอนพลันขมวดคิ้วทันทีที่เห็นกองผ้าเช็ดตัวที่ใช้แล้วข้างเตียง ไซม่อนเป็นคนดูแลเซบาสเตียนตั้งแต่เมื่อคืนจริง ๆ เหรอ?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไม่รักได้มั้ย…หัวใจของป๊ะป๋าCEO