โฮเวิร์ดเผยรอยยิ้ม “ไม่เข้าใจหรือยังไงกัน? ผมกำลังบอกว่าลุงไซม่อนไม่เคยพูดถึงเรื่องการแต่งงานของเขาออกมาเลย สุดท้าย คุณเองก็ต้องหย่ากับเขาอยู่ดี และอีกไม่นาน คุณก็อาจถูกไล่ออกจากตระกูลแซคคารี่ด้วย” เขากล่าว
โฮเวิร์ดหยุดพูดและมองชารอนด้วยสายตาแห่งความสงสาร “อย่ามาตกหลุมรักลุงไซม่อนเลย ไม่อย่างนั้น ชีวิตตุณพังแน่นอน” โฮเวิร์ดกล่าว
ชารอนครุ่นคิด โฮเวิร์ดกำลังจะสื่อว่าดักลาสจะเข้ามาขัดขวางการแต่งงานของพวกเขางั้นหรือ?
“คุณไม่ต้องกังวลเรื่องของพวกเราหรอกค่ะ อย่างน้อยในตอนนี้ คุณลุงดักลาสก็ไม่ได้คัดค้านความสัมพันธ์ของเรา” ชารอนกล่าวอย่างฉุนเฉียว
“ใครบอกคุณว่าเป็นคุณปู่กันล่ะ? คุณยังไม่เจอคนที่ผมพูดถึงเลย เธอน่ากลัวและสยดสยองกว่าคุณปู่มากเลยล่ะ ขนาดลุงไซม่อนยังไม่กล้าขัดกับคำพูดของเธอสักคำ” เขากล่าว
ชารอนขมวดคิ้ว ไซม่อนจะกลัวใครอีกล่ะ?
"งั้นเหรอ? งั้นคนที่คุณพูดถึงคือใครกันล่ะ?”
“อยากพบเธอมากเลยใช่ไหมล่ะ? ไม่ต้องห่วง ในอีกไม่นาน ผมเชื่อว่าคุณจะต้องได้พบเธอแน่ เธอคือผู้มีอำนาจสูงสุดของตระกูลแซคคารี่เลยล่ะ” เขากล่าวอย่างตั้งใจ
ทันใดนั้น โทรศัพท์ของชารอนก็ดังขึ้น เธอกลับมามีสติและก้มมอง เธอรีบหยิบโทรศัพท์ของตัวเองออกมา "สวัสดีคะ ท่านประธานแซคคารี่?”
โฮเวิร์ดจ้องไปที่ชารอนทันทีที่ได้ยินเธอกำลังพูดกับอีกคนที่อยู่ปลายสาย แววตาเย็นเยียบแวบผ่านออกมาจากสายตาของโฮเวิร์ด
ไซม่อนโทรมาขอให้ชารอนไปที่ห้องทำงาน แต่เขากลับไม่ได้บอกเหตุผลกับชารอนว่าทำไม
ชารอนชำเลืองมองไปทางโฮเวิร์ด บางที โฮเวิร์ดอาจจะจงใจบอกเธอทั้งหมดนี้เพียงเพื่อทำให้เธอตกใจก็ได้ เธอไม่ยอมตกหลุมพรางของเขาแน่ ดังนั้น เธอจึงไม่ถามคำถามอะไรอีกต่อไป ชารอนมุ่งหน้าไปยังห้องทำงานของไซม่อนทันที
ชารอนเคาะประตูก่อนเข้าไปในห้อง ไซม่อนนั่งอยู่หน้าโต๊ะทำงาน เขายังคงทำงานอยู่
ไซม่อนสวมสูทสั่งตัด เขาถือปากกาอยู่ในมือ มันช่วยเน้นข้อนิ้วของไซม่อนให้เห็นชัดขึ้น แสงสว่างสาดส่องลงบนใบหน้าของไซม่อนในระหว่างที่เขากำลังเซ็นเอกสาร มันทำให้เขาดูหล่อเหลามากยิ่งขึ้น
ชารอนเดินเข้ามา “ท่านประธานแซคคารี่ คุณกำลังตามหาฉันอยู่งั้นเหรอ?” เธอถาม เมื่อทั้งสองอยู่ในบริษัท ไซม่อนก็ยังไม่ลืมได้ว่าเขาคือเจ้านายของชารอน
ไซม่อนหยุดเขียนและเงยหน้าขึ้นมอง เขามองดูเธอด้วยสายตาอ้อนวอนและเผยรอยยิ้ม "คุณนายแซคคารี่ ตอนนี้เป็นเวลาอาหารกลางวันแล้วนะ” เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่ไพเราะและทุ้มลึก
หัวใจของชารอนเต้นแรงระหว่างที่สบตากับไซม่อน ทว่า ชารอนรู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อยทันทีที่ได้ยินไซม่อนเรียกตนเองว่า 'คุณนายแซคคารี่'
ชารอนหลับตาลง ชายตรงหน้าเตือนเธอให้เรียกเขาว่าไซม่อนแล้วนี่?
“ใช่ค่ะ เป็นเวลาพักทานอาหารกลางวันแล้ว หยุดทำงานก่อนเถอะค่ะ คุณควรทานข้าวก่อน” เธอพูดพร้อมกับเผยยิ้ม
ไซม่อนวางปากกาแล้วลุกขึ้น หลังจากนั้น เขาก็เดินตรงไปที่โซฟาในบริเวณแผนกต้อนรับ เขาหันกลับมามองชารอนซึ่งยังคงยืนอยู่ด้วยความงุนงง “มานี่สิ” ไซม่อนพูดขึ้น
ชารอนเดินไปทันทีที่ถูกเรียก ทว่า มีกล่องอาหารกลางวันสองสามกล่องวางอยู่บนโต๊ะกาแฟ นี่เป็นอาหารกลางวันที่เลขาเตรียมไว้ให้งั้นเหรอ?
“นั่งลงสิ” ไซม่อนพูดเสียงเรียบ
ชารอนกำลังจะนั่งลงตรงข้ามไซม่อน แต่ทว่า เขาตบเก้าอีกครั้งและพูดขึ้น "มานั่งตรงนี้”
เธอมองไซม่อนโดยไม่ขยับตัวเลย พวกเขาแค่ทานอาหารกัน เธอต้องนั่งลงข้างเขาเลยงั้นเหรอ?
ไซม่อนนั่งอยู่ตรงนั้นด้วยความสง่างามในระหว่างจ้องมองเธอ ท่าทางของไซม่อนเหมือนจะบอกเป็นนัยว่าเขาไม่ต้องการให้ชารอนคัดค้าน
ชารอนหัวเราะแห้ง ๆ และนั่งลงข้างไซม่อน
“อาหารพวกนี้ปรุงสดใหม่ แถมส่งตรงมาจากบ้านเราเลยนะ ผมขอให้พ่อครัวเตรียมอาหารที่คุณชอบมาก ๆ เอาไว้ด้วย” ไซม่อนกล่าวพร้อมเปิดฝากล่องอาหารกลางวัน
มันมีอยู่ห้ากล่อง พร้อมกับริซอสโต้สองชิ้น ทันทีที่ชารอนได้กลิ่นหอมลอยขึ้นมา เธอก็รู้ได้ทันทีว่ามันเป็นฝีมือของพ่อครัวที่บ้าน
ชารอนไม่คาดคิดเลยว่าไซม่อนจะเป็นคนละเอียดอ่อนขนาดที่ต้องสั่งให้พ่อครัวทำอาหารและส่งมาให้ที่บริษัท
“ขอบคุณนะ แต่มันไม่เยอะไปหน่อยเหรอ?”
“ไม่เยอะไปหรอก คุณผอมเกินไปแล้ว ดังนั้น คุณควรกินเยอะ ๆ นะ” ไซม่อนกล่าวพร้อมกับตักชิ้นเนื้อในกล่องอาหารกลางวันให้ชารอน
ชารอนพลันเผยยิ้ม อันที่จริง น้ำหนักของชารอนก็ไม่ได้ผอมไปหรืออ้วนไป เธอผอมขนาดนั้นเลยหรือ?
“คุณเองก็ควรทานเหมือนกันนะคะ” เธอตอบ ชารอนมีความสุภาพต่อไซม่อนเสมอ
ไซม่อนจ้องมองชารอน สายตาของเขามืดลงทันทีที่กล่าวคำพูดขึ้นมาอย่างกะทันหัน “ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป คุณต้องมากินกลางวันกับผมทุกวันเลยนะ”
ชารอนตกตะลึง ทุกวันเลยเหรอ?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไม่รักได้มั้ย…หัวใจของป๊ะป๋าCEO