“เรื่องทั้งหมดเป็นอดีตไปแล้วนะครับ...”
“เพียงเพราะมันเคยเกิดขึ้นมาแล้วในอดีต ก็ไม่ได้หมายความว่ามันไม่เคยเกิดขึ้นเลยนี่! นายกล้าดียังไงถึงได้มาแต่งงานกับผู้หญิงแบบนี้?! ดูก็รู้ว่าเธอมีแรงจูงใจอย่างอื่นซ่อนเร้นอยู่!”
“พี่เพเนโลเป้ พี่ยังไม่เคยแม้แต่ใช้เวลากับเธอเลยนะ สิ่งที่พี่ทำคือฟังข่าวลือ พี่จะด่วนสรุปได้ยังไงกันว่าเธอมีแรงจูงใจซ่อนเร้นอะไรแบบนั้นหรือเปล่าน่ะ?” ไซม่อนไม่ได้ขึ้นเสียงเลย ทั้งหมดที่ไซม่อนต้องการทำคือพูดคุยกับพี่สาวอย่างมีเหตุผล ไม่ใช่การเถียงกับเธอ
ถึงกระนั้น ดูเหมือนว่านี่จะเป็นครั้งแรกที่ไซม่อนทะเลาะกับเพเนโลเป้เพราะผู้หญิงคนหนึ่ง!
เธอจับโต๊ะและยืดหน้าอกยกขึ้น “ยังไงก็เถอะ พี่ไม่เห็นด้วยกับการแต่งของนายแล้วก็ผู้หญิงคนนี้ วันนี้เธอขับชนรถพี่ด้วยนะ ถ้าไม่ใช่เพราะโชคช่วย พี่คงตายไปแล้วแหละ! หย่ากับเธอเดี๋ยวนี้เลยนะ ทั้งหมดก็เพื่อประโยชน์ของนายเอง!”
ไซม่อนขมวดคิ้ว “พี่เพเนโลเป้ พี่เข้าใจผิดหมดแล้ว พี่ไม่คิดว่าตัวเองกำลังมีอคติกับเธอมากไปหน่อยเหรอ?”
“ฉันไม่มีอคติอะไรกับเธอทั้งนั้นแหละ แค่ผู้หญิงคนนั้นไม่คู่ควรกับนาย!”
“ผมเป็นคนเดียวเท่านั้นที่จะเข้าใจว่าเธอเหมาะกับผมหรือเปล่า พี่เพเนโลเป้ ผมอายุสามสิบแล้วนะ พี่เองก็เคยวางแผนชีวิตของผมมาตั้งนานแล้ว แต่... แต่ผมแค่ต้องการที่จะรับผิดชอบอนาคตตัวเองต่อจากนี้ แค่นั้นเอง” ไซม่อนพูดแต่ละคำอย่างสุภาพ ทัศนคติของเขานั้นชัดเจน
เพเนโลเป้รู้สึกสั่นสะท้าน น้องชายคนเล็กที่เธอเลี้ยงดูมาเพียงลำพังไม่ใช่เด็กที่เชื่อฟังเธออีกต่อไปแล้ว ไซม่อนดูเหมือนคนแปลกหน้าสำหรับเพเนโลเป้ไปแล้ว
ความกลัวเกิดขึ้นในใจของเพเนโลเป้ อันที่จริง เธอต้องการที่จะควบคุมไซม่อนมากกว่านี้!
“ถ้าพี่เคยวางแผนชีวิตครึ่งแรกให้นาย ชีวิตครึ่งหลังของนาย พี่ก็จะจัดการให้เหมือนกัน! พี่จะจัดการชีวิตให้นายจนกว่าพี่จะตายนั้นแหละ!” เธอทำตัวให้มีอำนาจเหนือไซม่อน
ไซม่อนเบิกตากว้างออกครู่หนึ่ง แต่ทว่า เขายังคงพูดต่อไปหลังจากเงียบไปชั่วครู่ “พี่เพเนโลเป้ พี่ทำเกินไปแล้วนะ ชารอนเป็นภรรยาและแม่ของลูกผม เราเป็นครอบครัวสามคน พ่อแม่ลูก จะให้ขาดใครไปสักคน มันเป็นไปไม่ได้หรอกครับ”
“หมายความว่านายจะไม่ยอมหย่ากับเธองั้นเหรอ?”
ไซม่อนยืนขึ้นและพูดอย่างใจเย็น “พี่เพเนโลเป้ ผมคิดว่าพี่ควรให้โอกาสชารอนหน่อยนะ ลองใช้เวลากับเธอดูก่อนที่พี่จะตัดสินใจว่าเราสองคนเหมาะสมกันหรือเปล่า พี่ไม่อยากให้ผมมีความสุขหรือยังไงกัน? ถ้าผมหย่ากับชารอน ผมก็คงไม่พบกับความสุขอีกต่อไปแล้วแหละ”
ไซม่อนกล่าวคำพูดโดยไม่รอให้เพเนโลเป้พูดแทรกเลย “วันนี้พี่คงผ่านอะไรมาหนักมาก งั้นผมจะจัดงานเลี้ยงต้อนรับพี่ในวันอื่นและให้ชารอนขอโทษพี่ก็แล้วกันนะ”
ไซม่อนหันหลังเดินออกจากห้องหนังสือทันทีที่พูดจบเพเนโลเป้นั่งนิ่งและไม่พูดอะไรในระหว่างที่กำลังมองดูไซม่อนจากไป
เพเนโลเป้ขมวดคิ้ว ความสุขงั้นรึ? ชารอนสามารถมอบสิ่งนั้นแก่ไซม่อนได้ด้วยงั้นรึ?
...
ชารอนกำลังรอไซม่อนอยู่ในห้อง แต่ทว่า ชารอนไม่สามารถนั่งอยู่นิ่ง ๆ ได้เลย ดังนั้น ชารอนจึงเดินไปมาอยู่ในห้องพร้อมครุ่นคิด 'พวกเขาทั้งสองจะคุยอะไรกันบ้างนะ?'
ทว่า ทันทีที่ได้ยินเสียงเปิดประตู ชารอนก็หันศีรษะไป ไซม่อนกลับมาแล้ว
เธอรีบวิ่งออกไปทันที “เป็นยังไงบ้างคะ? พี่เพเนโลเป้ให้อภัยฉันหรือเปล่า?”
สีหน้าของไซม่อนดูเคร่งขรึมทันทีที่เห็นว่าชารอนวิตกกังวลขนาดไหน ดูเหมือนว่าเขาจะมีปัญหาในการแสดงสีหน้าไม่น้อย
ทันทีที่เห็นสีหน้าบูดบึ้งของไซม่อน ชารอนก็พูดขึ้น "คุณคงไม่ได้ทะเลาะจนแตกหักกับพี่สาวหรอกใช่ไหมคะ? เธอไม่ยอมยกโทษให้ฉันใช่ไหม?”
ไซม่อนนั่งลงบนโซฟา ชารอนเดินตามหลังไป เธออดไม่ได้ที่จะถอนหายใจและพูดขึ้น “ฉันรู้ว่ามันไม่ง่ายเลยที่จะไปคุยกับเธอ ถึงแม้ว่าฉันจะชดใช้ค่าเสียหายให้กับรถของเธอก็เถอะ แต่พี่สาวของคุณก็น่าจะอคติกับฉันไปแล้ว"
“เธอ... เธอแค่รู้สึกไม่ดีกับคุณ แค่นั้นแหละ” ไซม่อนพยักหน้าเห็นด้วย
“แล้วคุณจะทำอะไรต่อไปล่ะ?” หัวใจของชารอนหนักอึ้ง ไซม่อนคงไม่ได้โดนพี่สาวดุเพราะเธอหรอกใช่ไหม?
“พี่เพเนโลเป้ต้องการให้เราหย่ากัน” ไซม่อนพูดขึ้นและจ้องตรงมาที่ชารอน
"หือ? หย่ากัน?” หัวใจของชารอนเต็มไปด้วยความตกใจ เธอเคยไตร่ตรองถึงความเป็นไปได้ในส่วนนี้ แต่เธอไม่คิดคาดหวังว่าเพเนโลเป้จะพูดถึงเรื่องนี้ออกมาจริง ๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไม่รักได้มั้ย…หัวใจของป๊ะป๋าCEO