ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น นิยาย บท 906

สรุปบท บทที่ 906 พระชายารองกวนและหลวนอี๋พบกันครั้งแรก: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น

ตอน บทที่ 906 พระชายารองกวนและหลวนอี๋พบกันครั้งแรก จาก ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 906 พระชายารองกวนและหลวนอี๋พบกันครั้งแรก คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายการเกิดใหม่ ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น ที่เขียนโดย พระจันทร์ขี้เมา เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

ตำหนักที่แต่เดิมเต็มไปด้วยความสนุกสนานนั้นตกอยู่ในความเงียบงันทันที หยุนหยินและแม่นมหยางสบตากันแล้วก็เผยสีหน้าที่ไม่เป็นมิตรออกมา

พวกนางไม่เห็นด้วยกับวิธีที่กวนปี้อวี้ใช้เพื่อได้มาซึ่งตำแหน่ง และตอนนี้นางยังมีหน้ามาเยี่ยมเยียนถึงตำหนัก

มันเป็นกิริยาเพื่อโอ้อวดว่าตนได้สิ่งที่ต้องการแล้ว

หลวนอี๋ขมวดคิ้วแล้วเอ่ย "พระชายารองของพี่แปดของข้าหรือ"

เมื่ออ๋องเซ่อเจิ้งจัดงานแต่งงานนั้นหลวนอี๋ไม่ได้ไป

ตอนนี้อาการของหลวนอี๋ยังไม่หายดี บางครั้งก็จะแสดงอาการออกมา ทำให้ในช่วงงานแต่งของอ๋องเซ่อเจิ้งนั้นนางจึงล้มป่วยลง โดยมีคุณชายหวู่ค่อยอยู่เคียงข้าง

และจักรพรรดิเองก็ห้ามคุณชายหวู่ว่า ช่วงนี้ห้ามหลวนอี๋ร่วมงานที่มีความคึกคัก ดังนั้นเรื่องต่างๆ ที่เกิดขึ้นในจวนอ๋องเซ่อเจิ้งนั้นหลวนอี๋ก็รู้เพียงผิวเผินเท่านั้น

ไป๋ชิงหลิงพยักหน้าและพูดว่า "ใช่ นางเป็นพระชายารองของพี่แปดเจ้า"

"ข้าจำได้ว่า พี่แปดมีพระชายาแล้ว แต่พระชายารองนี้มันโผล่มาจากไหนหรือ" หลวนอี๋เอ่ยถาม

แม่นมหยางเอ่ยตอบหลวนอี๋ว่า "องค์หญิง เรื่องนี้ให้ข้าน้อยเป็นคนเล่าให้ฟังเถิด หรือไม่เราเข้าไปดูข้างในก่อนเพค่ะ"

ในสถานการณ์แบบนี้ ทางที่ดีคือไม่ต้องให้หลวนอี๋เจอหน้ากับกวนปี้อวี้ อาการป่วยของนางอาจจะเกิดอาการกะทันหันแล้วสร้างเรื่องใหญ่ก็เป็นไปได้

ไม่กลัวนางจะเผลอทำไป แต่กลัวว่าจะมีคนแอบใช้นางทำ

"ข้าอยากจะอยู่ตรงนี้ดูพระชายารองคนนี้ว่าเป็นใครกันแน่ ถึงทำให้พี่แปดที่มีเสด็จพี่สะใภ้แปดแล้วยังรับพระชายารองเพิ่มเข้าจวนอีกคน" หลวนอี้พูดไปด้วยพร้อมกับอุ้มอาหวงนั่งลงเก้าอี้ข้างๆ

แม่นมหยางมองไปที่ไป๋ชิงหลิง

ไป๋ชิงหลิงแอบส่ายหัวให้นางแล้วโบกมือส่งสัญญาณให้นางออกไปก่อน

แล้วจึงเอ่ย "วั่นฝู เชิญพระชายารองอ๋องเซ่อเจิ้งเข้ามาเถิด"

วั่นฝูเดินออกจากตำหนักทันที

หลังจากนั้นไม่นาน กวนปี้อวี้ก็เดินเชิดเข้ามา

เดินเชิดเข้ามาอย่างไรหรือ ก็เพราะตอนที่นางเดินเข้ามานั้นมีบ่าวรับใช้เดินตามหลังกว่าสิบคนเพื่อคอยอารักขา ความสง่างามนั้นแทบจะเปรียบได้กับนางที่เป็นฮองเฮาได้แล้ว

บ่าวรับใช้ที่เดินตามนางนั้นคุกเข่าลงทันที

กวนปี้อวี้เองก็ทำตามธรรมเนียมของคนเป็นชายารอง ทักทายฮองเฮา " หม่อมฉันขอคารวะฮองเฮาเหนียงเหนียง"

คำทักทายอันพร้อมเพรียงของบ่าวรับใช้ดังก้องท้องพระโรงตำหนักเฟิงอี๋

เมื่อหลวนอี๋เห็นฉากนี้ก็รู้สึกไม่ชอบชายารองคนนี้ขึ้นมาทันที " มีนางสนมไหนล่ะที่มาทักทายฮองเฮาแล้วยังพาบ่าวรับใช้มามากขนาดนี้ คนที่ไม่รู้ก็คงจะคิดว่า คนที่มานั้นไม่ใช่พระชายารอง แต่เป็นสนมเอกของจักรพรรดิ"

กวนปี้อวี้ตกใจและหันไปมองหลวนอี๋ ชั่วครู่ต่อมา นางแสดงสีหน้าน้อยเนื้อต่ำใจพร้อมเอ่ย "ข้าก็ไม่ได้ต้องการจะพาคนมามากมายขนาดนี้ แต่ว่า...แต่ว่าไทเฮารับสั่งไว้ กลัวว่าข้าจะไม่ได้ระวังแล้วหกล้มทำให้ร่างกายได้รับบาดเจ็บ เพื่อความปลอดภัยจึงรับสั่งให้แม่นมเลี่ยวเลือกคนเหล่านี้ตามข้ามา รอข้ากลับตำหนักฮุ่ยหนิง ข้าจะขอไทเฮาทรงโปรดลดคนลง เพื่อไม่เป็นการรบกวนไทเฮาเหนียงเหนียง"

"นี่เจ้า..."คำพูดของกวนปี้อวี้ทำให้หลวนอี๋โกรธจนพูดไม่ออก

และไป๋ชิงหลิงก็ต้องชื่นชมวิธีการของกวนปี้อวี้เสียจริง คำพูดเพียงไม่กี่คำนางก็เอาตัวเองอยู่หมัด และยังลากไทเฮามาเกี่ยวด้วย

หากหลวนอี๋มีปัญหากับนางในเรื่องนี้ ไทเฮาก็จะรู้สึกว่าหลวนอี๋เป็นคนวู่วาม สวนนางที่เป็นเสด็จพี่สะใภ้ก็จะถูกหาว่าไม่ทำหน้าที่

"องค์หญิง" ไป๋ชิงหลิงขัดจังหวะหลวนอี๋ " นี้คือพระชายารองของพี่แปดของเจ้า อย่าได้เสียมารยาทกับนาง"

"แต่ว่า ข้า..."

"ในเมื่อไทเฮาทรงเห็นชอบ ไทเฮาก็ต้องมีเหตุผลที่วางคนมากมายเหล่านี้ไว้ข้างกายพระชายารอง เจ้านี่ เป็นคนที่ใจร้อน และคอยคิดเผื่อไทเฮาตลอด กลัวว่าพระองค์จะไม่มีคนคอยดูแล เจ้าวางใจเถิด หลังจากนี้ พี่สะใภ้คนนี้จะหาบ่าวรับใช้ส่งไปยังตำหนักฮุ่ยหนิงเพื่อไปดูแลไทเฮาเอง"

แต่บ่าวรับใช้ข้างหลังนางนั้นไม่มีใครกล้าออกหน้าพูดแทนนางเลย

แม้ว่าผิวเผินนั้นฮองเฮากำลังพูดเข้าข้างนาง แต่จริงๆ แล้วแอบทำให้นางอับอาย แต่นางก็หาความผิดของฮองเฮาไม่พบ

ในเวลานี้ น้ำเสียงของไป๋ชิงหลิงจริงจังขึ้นเล็กน้อย "หลวนอี๋ เจ้ากล่าวเกินไปแล้ว นางเพิ่งจะเข้าวังไม่กี่วัน กำลังเรียนรู้กฎเกณฑ์ต่างๆ ในวัง ไม่มีใครเก่งได้ในวันเดียว เจ้าต้องให้เวลาพระชายารองกวนด้วย"

ประโยคนี้ทำให้ความอึกอักใจของกวนปี้อวี้นั้นลดน้อยลงทันที

กวนปี้อวี้เอ่ย "ขอบคุณ ไทเฮาที่ทรงเข้าใจ"

" จัดที่นั่งให้นาง" ไป๋ชิงหลิงเอ่ย

แม่นมหยางรีบไปยกเก้าอี้ทันที

กวนปี้อวี้จะนั่งลงได้อย่างไร ตอนนี้นางละอายใจมากจนอยากจะอยู่ห่างจากตำหนักเฟิงอี๋ให้ไกลที่สุด " ฮองเฮา ไม่ต้องแล้วเพคะ หม่อมฉันยังต้องกลับไปตำหนักฮุ่ยหนิง เพื่อช่วยไทเฮาคลี่คลายเรื่องการฆ่าล้างโคตรตระกูลสวี่ หม่อมฉันขอทูลลา"

"เช่นนั้น ก็ดียิ่งนัก ข้าฝากเจ้าช่วยชี้แนะไทเฮาด้วย ถือว่าเจ้าได้ช่วยข้าแบ่งเบาภาระแล้ว " ไปชิงหลิงเอ่ย

กวนปี้อวี๋คำนับแล้วก็เดินออกจากตำหนักเฟิงอี๋ทันที

แต่ทันทีที่นางหันกลับไปนั้น สีหน้าของนางก็เผยความอาฆาตออกมาเป็นระลอก

หลังจากที่เดินออกจากตำหนักเฟิงอี๋ กวนปี้อวี้ก็หันหน้ากลับไปถามบ่าวข้างกาย " ตอนนี้องค์หญิงไม่ได้พำนักในวังหรือ"

นางกำนัลที่อยู่ข้างหลังเอ่ยตอบ " เรียนพระชายารอง หลังจากที่จักรพรรดิองค์ก่อนสวรรคต จักรพรรดิองค์ใหม่ก็ได้ให้องค์หญิงหลวนอี๋เลือกตำหนักขององค์หญิง ตอนนี้องค์หญิงอยู่ตำหนักของตัวเอง แต่ว่านางจะเข้าวังบ่อยมากเพื่อมาหาไทเฮาและฮองเฮา ความสัมพันธ์กับไทเฮาและองค์หญิงเซิงนั้นดีมาก และยิ่งสนิทกับฮองเฮา แต่ว่า..."

"แต่ว่าอะไร"

" แต่ว่าเรื่องนั้นฮองเฮาไม่ให้คนแพร่งพรายออกไป ดังนั้นบ่าวรับใช้ในวังต่างก็มิกล้าเอ่ยถึง ข้าน้อยขออ้อนวอนพระชายารองกวน ให้อยู่ห่างๆ กับองค์หญิงเถิด เกรงว่าองค์หญิงจะทำร้ายท่าน และฝ่าบาทก็ตัดสินแทนท่านไม่ได้"

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น