อ่านสรุป บทที่ 903 ไทเฮาเปลี่ยนพระทัย จาก ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น โดย พระจันทร์ขี้เมา
บทที่ บทที่ 903 ไทเฮาเปลี่ยนพระทัย คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายการเกิดใหม่ ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย พระจันทร์ขี้เมา อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง
ฉางเล่อเหยียนย่อตัวลงเล็กน้อย แล้วเอ่ยตอบด้วยเสียงที่อ่อนโยน " ไทเฮา หม่อมฉันเพิ่งจะแต่งเข้ามาจวนอ๋อง และยังไม่เคยเห็นหน้าแม่นางกวน แต่หม่อมฉันได้ยินท่านอ๋องบอกว่า ก่อนที่หม่อมฉันจะแต่งเข้ามาจวนนี้ ท่านอ๋องไม่เคยลดทอนความอิสระของนางเลย ปล่อยให้นางไปมาได้ตามอำเภอใจในจวนอ๋องเซ่อเจิ้ง แม้ว่าคนรับใช้ในจวนนี้จะไม่เคยเห็นแม่นางกวน แต่ถ้าหากแม่นางกวนตั้งครรภ์ลูกของท่านอ๋องจริง ก็จำเป็นต้องรับกลับมาดูแลอย่างดีเพค่ะ แม่นมเถียน เจ้าใช้คนไปหาให้ทั่วทั้งจวนอ๋อง เสาะหาดูว่าแม่นางกวนเคยกลับจวนหรือไม่"
ไทเฮาขมวดคิ้ว เผชิญหน้ากับท่าทีที่อ่อนโยนของฉางเล่อเหยียนทำให้สีหน้าของนางเปลี่ยนไปเล็กน้อย
แต่เดิมนางก็ไม่ใช่ผู้หญิงที่ชอบสร้างคู่อริไปทั่ว และไม่อยากจะยุ่งเกี่ยวกับเรื่องในวังหลังในจวนอ๋องเซ่อเจิ้งด้วย และไม่อยากจะเข้าไปวุ่นวายกับความเป็นตัวตนของพระชายาที่อ๋องเซ่อเจิ้งแต่งเข้ามา
เมื่อคนเราอายุเท่านี้แล้ว นางก็สามารถที่จะมองสิ่งต่างๆ ได้อย่างกระจ่างแจ้ง
ดังนั้น เมื่อเห็นฉางเล่อเหยียนพูดคุยกับนางด้วยความอดทน ไทเฮาก็รู้สึกอึกอักพระทัย แต่ว่าการฆ่าล้างโคตรตระกูลสวี่นั้นกลับกลายเป็นความเจ็บปวดที่ไม่สามารถลบออกจากใจนางได้
เมื่อเปรียบเทียบทั้งสองเรื่องแล้ว นางก็ให้ความสำคัญกับเรื่องหลังมากกว่า
นางเอ่ยด้วยเสียงเข้ม " ข้าได้ยินมาว่าเจ้ารู้จักท่านอ๋องเซ่อเจิ้งที่เมืองชี"
ฉางเล่อเหยียนเอ่ยตอบ "เพค่ะ หม่อมฉันเป็นลูกสาวของพ่อค้านิรนาม เมื่อท่านอ๋องนำทัพนั้น เสบียงของทหารก็ขาดแคลน ดังนั้นหม่อมฉันจึงรวบรวมเสบียงบางส่วนและขนส่งไปยังแนวหน้าให้พวกเขา"
นี่เป็นคำพูดที่นางกับไป๋ชิงหลิงตกลงกันไว้แล้ว แน่นอนว่า ไป๋ชิงหลิงก็ยังได้สร้างข่าวเกี่ยวกับตัวตนของนางด้วย ต่อให้ไทเฮาจะตรวจสอบขึ้นมาก็จะได้ผลลัพธ์เหมือนที่นางพูด
คนใช้ที่ส่งไปตรวจค้นจวนอ๋องนั้นกลับมารายงาน " ไทเฮา ไม่พบแม่นางกวนพ่ะย่ะค่ะ"
"เรียนไทเฮา หม่อมฉันได้ตรวจสอบหลายจวนแล้วก็ไม่พบเบาะแสเกี่ยวกับแม่นางกวนเพค่ะ"
" เรียนไทเฮา หม่อมฉันได้ไต่ถามนางกำนัลในวัง และได้ความว่าแม่นางกวนออกจากจวนอ๋องตั้งแต่เดือนก่อน และยังไม่เคยกลับมาเพค่ะ"
หลังจากได้ยินสิ่งเหล่านี้ ใบหน้าของไทเฮาก็กระตุกเล็กน้อย และเกิดรู้สึกผิดขึ้นมาทันที
"สถานะนางกำนัลชั้นต่ำนี้ ลดทอนคุณค่าของปี้อวี้เสียจริง" ไทเฮาจ้องมองฉางเล่อเหยียน แต่ก็ไม่ได้พูดต่อ เอ่ยด้วยเสียงแข็ง " กลับวัง"
ฉางเล่อเหยียนได้ส่งไทเฮาออกจากจวนอ๋องเซ่อเจิ้ง
รอให้ไทเฮาขึ้นเกี้ยวออกไปไกล สีหน้าของฉางเล่เหยียนถึงค่อยๆ เคร่งขรึมขึ้นมา " ผู้บงการเรื่องนี้ช่างฉลาดนัก เรื่องที่บ้านตระกูลสวี่ถูกฆ่าล้างทั้งตระกูลทำให้ไทเฮารู้สึกผิดต่อบ้านตระกูลสวี่ คนรับผลประโยชน์อย่างกวยปี้อวี้ช่างมีจิตใจอำมหิตยิ่งนัก"
" หม่อมฉันเห็นท่าทางของไทเฮานั้นมาด้วยความดุเดือด เกรงว่าภายภาคหน้านางอาจจะหาวิธีอื่นมาหาเรื่องพระชายาอีกเพค่ะ"
ในเวลานี้ องครักษ์ประจำตัวอ๋องเซ่อเจิ้งได้กลับมาจากการตามล่าข่าว " พระชายา ฝ่าบาทรับสั่งว่าจะคุมตัวท่านอ๋องไปขังไว้ที่ศาลต้าหลี่เพื่อพิจารณาคดีพ่ะย่ะค่ะ "
ฉางเล่อเหยียนสะดุ้งเล็กน้อย แล้วหันหน้ากลับไปมองทางที่ไทเฮาจากไป เอ่ย " ถ้างั้นก็รอต่อไป..."
นางเชื่อว่าไทเฮาและฝ่าบาทนั้น นอกจากการรอแล้วพระองค์ทั้งสองท่านก็ทำอะไรไม่ได้
"ประกาศออกไปว่า พระชายาอ๋องเซ่อเจิ้งนั้นครรภ์เป็นพิษ สลบไปทันที"
แม่นมเถียนขานรับ จากนั้นก็พยุงฉางเล่อเหยียนกลับเรือนไป
เกี้ยวของไทเฮานั้นได้มาหยุดอยู่หน้าที่ว่าการ แล้วก็มุ่งหน้าตรงเข้าไปยังห้องเก็บศพเพื่อไปดูคนบ้านตระกูลสวี่
เมื่อเดินออกมานั้น สีหน้าของไทเฮาก็ซีดเขียว แล้วอวกหลายครั้งถึงรู้สึกดีขึ้น สิ่งนี้ทำให้นางเกิดความคิดที่มุ่งมั่นอีกครั้ง
นางต้องหากวนปี้อวี้กลับมาให้ได้ เพราะนั้นเป็นความปรารถนาสุดท้ายของฮูหยินเฒ่าสวี่ และเป็นเพียงสิ่งเดียวที่นางทำได้ในตอนนี้
นางคว้าแขนของแม่นมเลี่ยวไว้เอ่ย " ต้องไปฟ้องคดี ให้บอกว่ากวนปี้อวี้นั้นหายตัวไปในจวนอ๋องเซ่อเจิ้ง"
" ไทเฮา ท่านทำแบบนี้ เป็นการเปิดฉากว่าต้องการสู้กับจวนอ๋องเซ่อเจิ้ง และทางด้านฮองเฮา..."
"แต่ว่า เจ้าอย่าคิดว่าความสุขสบายทั้งหมดนี้เจ้าได้มาด้วยวิธีของเจ้า เจ้าจำไว้ กลอุบายสกปรกของเจ้านั้นข้ารับรู้ทั้งหมด และสิ่งที่เจ้าได้รับต่อจากนี้นั้น ไม่ใช่ไทเฮาเป็นคนให้เจ้า แต่เป็นข้าต่างหากที่อนุญาต"
"ถ้าหากว่าเจ้าเปิดเรื่องของเจ้าในจวนอ๋องเซ่อเจิ้งให้ไทเฮารับรู้ เพื่อทำลายความสัมพันธ์ของข้ากับไทเฮา ข้าก็มีวิธีมากมายที่จะให้เจ้าหายไปต่อหน้าต่อตาไทเฮาอย่างไร้ร่องรอย"
" หม่อม...หม่อมฉัน...ไม่เข้าใจว่าฮองเฮาเหนียงเหนียงต้องการจะสื่ออันใด" กวนปี้อวี้เอ่ย
"เจ้าไม่เข้าใจหรือ ถ้างั้นก็ลองไปสืบเกี่ยวกับ ธิดาผีและ หมอปีศาจ"
ธิดาผีหมอปีศาจที่ใช้ยา อย่างไร้ร่องรอย
นางสามารถชุบคนตายให้ฟื้นได้ แต่ก็สามารถทำให้คนเป็นตายไปต่อหน้าต่อตาฝูงชนได้เหมือนกัน
และยังทำให้หาผู้ลงมือไม่ได้อีก
ทันใดนั้น กวนปี้อวี้ก็เข้าใจสิ่งที่นางต้องการจะสื่อทันที
" หม่อมฉัน...ขอทำตามที่ฮองเฮาเหนียงเหนียงรับสั่งเพค่ะ"
" ฮึ่ม เจ้าจำไว้ว่า ครึ่งเดือนก่อนเจ้าก็ได้ออกจากจวนอ๋องเซ่อเจิ้ง และไม่ได้กลับมาอีก ่ครั้งนี้ที่เจ้ามาในตำหนักข้านั้น เป็นเพราะข้าได้ช่วยชีวิตเจ้าจากพวกอันธพาล ข้าคือผู้มีพระคุณของเจ้า ขอแค่เจ้าปิดปากของเจ้าให้สนิท ต่อแต่นี้ไปเจ้าก็สามารถอยู่ข้างกายไทเฮาอย่างสงบผาสุก ริมรสความมั่งคั่งที่เจ้าเสาะหามานาน" ไป๋ชิงหลิงเตือนนางด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็น
กวนปี้อวี้พยักหน้าตอบ
ในขณะนี้ มีเสียงดังออกมาจากข้างนอก " ไทเฮาเสด็จ"
ไป๋ชิงหลิงจัดเสื้อผ้าหน้าผม ลุกขึ้นแล้วเดินออกจากห้องบรรทม
เมื่อนางมาถึงหน้าประตู ไทเฮาก็เดินมาอย่างรีบเร่งแล้วก็คว้ามือไป๋ชิงหลิง เอ่ยถาม " ฮองเฮา ปี้อวี้ล่ะ พาข้าไปหานางเร็วเข้า"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น
จากขทที่ 907ข้ามมาบทที่ 987 เลยเหรอคะหายไป 80บท...แอดขาตามกลับมาให้หน่อยค่าาาาา😅😢😘...
จักรพรรดิตายแล้วค่อยมีกำลังใจอ่านหน่อยอย่างน้อยๆก็ไม่ต้องหัวเสียกับตาแก่งี่เง่าคนนี้อีก......
เรื่องนี้ทำพี่น้ำตาท่วมบ้าน...สามีบอกว่าถ้ามันโศกมันเศร้านักก็เลิกอ่านเหอะ...ไม่ได้สิตามมาขนาดนี้แล้วเอาให้สุดแล้วหยุดที่กระดาษทิชชู่...
อยากรู้ว่าพระเอกและนางเอกจะรู้ความจริงตอนไหนว่าเป็นครบครัวเดียวกันและจิ่นหลินคือลูกอีกคน ช่วยสปอยหน่อยค่ะ...
นางเอกเรื่องนี้เก่ง..แต่อ่อนแอและงี่เง่า..หลายครั้งที่อ่านไปถอนหายใจไป...
อัพต่อนะคะ..กำลังสนุกเลยค่ะ...
บทที่614-623เนื้อหาไม่ครบมีแค่5-6บรรทัดอ่านไม่รู้เรื่องเดาทางไมาถูกเลย...
บทที่594-602สั้นมากค่ะ...
ตอน 460 โอ้โหวว หนักหน่วงมาก ตั้งแต่แมวตาย หลังจากนั้นคนที่นางเอกรักตายเป็นใบไม้ร่วงเลย แต่คนล่าสุดเนี่ย ได้ไงวะ รับไม่ได้อย่างแรง😭 ชีวิตนางเอกบัดซบมาก คนธรรมดาที่ไหนจะทนได้วะเนี่ย เป็นคนปกติป่านนี้เป็นบ้าตายไปแล้ว ว่าแต่อีจักรพรรดิจะเลิกประสาทแดกได้ตอนไหน🤬🤬...
อยากผ่าสมองอ๋องเฉินออกมาดูว่าข้างในมันมีมันสมองอยู่จริงๆรึเปล่า...อะไรจะมึนและง่าวได้ขนาดนี้...