แม่นมเลี่ยวก้าวไปข้างหน้าแล้วถามว่า :“พวกเจ้าทำอะไรอยู่หน้าบ้านตระกูลสวี่?”
ผู้หญิงคนหนึ่งหันกลับมาแล้วพูดว่า :“พี่สาว ท่านยังไม่รู้เหรอ ตระกูลสวี่ถูกฆ่าล้างตระกูล ตั้งแต่คนแกฮูหยินผู้เฒ่า ไปจนถึงเด็กเล็กคุณชายน้อย ไม่มีใครรอดชีวิตเลย”
“ไม่สิ ได้ยินมาว่ามีสาวใช้คนหนึ่งที่ฉลาด ซ่อนตัวอยู่ใต้เตียงของนายผู้เฒ่า จึงหลีกเลี่ยงจากเคราะห์ครั้งนี้ อย่างไรก็ตาม นางก็กลายเป็นคนสติเลอะเลือน”
ดวงตาของแม่นมเลี่ยวเบิกกว้าง ราวกับว่านางถูกแช่อยู่ในห้องใต้ดินน้ำแข็ง และนางก็อดไม่ได้ที่จะตัวสั่น
จากนั้นนางก็เบียดตัวเข้าไปในฝูงชน และวิ่งเข้าไปในบ้านตระกูลสวี่
ในลานบ้านตระกูลสวี่ มีเลือดนองอยู่ทุกแห่งหน
แม่นมเลี่ยวไปที่ลานบ้านของฮูหยินผู้เฒ่า เตียงที่ฮูหยินผู้เฒ่าเคยนอน มีเลือดเปียกโชกผ้าห่ม ภาพที่เห็นช่างน่าสังเวชยิ่งนัก
นางกลับไปที่ตำหนักฮุ่ยหนิงด้วยน้ำตา และคุกเข่าลงอย่างแรงต่อหน้าไทเฮา
เมื่อไทเฮาเห็นนางน้ำตาอาบหน้า หัวใจของไทเฮาก็เต้นแรงขึ้น แล้วพูดว่า:“ แม่นมเลี่ยว เจ้าเป็นอะไรไป ฮูหยินผู้เฒ่าทำให้เจ้าลำบากใจหรือ?”
“ไทเฮา ท่านโปรดไปพบนายผู้เฒ่าเป็นครั้งสุดท้ายด้วยเถิด........” แม่นมเลี่ยวพูดพร้อมสะอื้น และน้ำเสียงของนางก็ดังขึ้น สะอื้นแล้วพูดว่า :“บ้านตระกูลสวี่นับร้อยถูกฆ่าล้างตระกูล มีเพียงสาวใช้ตระกูลกวนรอดชีวิตเพียงผู้เดียว แม้แต่พี่ชายเจ็ดก็ถูกฆ่าและแยกชิ้นส่วน ได้ยินมาว่าฆาตกรตัดหัวของฮูหยินผู้เฒ่า ในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่ บนเตียงอาบไปด้วยเลือด”
“ตุบ!”
ไทเฮาเป็นลมหมดสติไป
แม่นมเลี่ยวตะโกน :“ไทเฮา——”
แม่นมเลี่ยวยืนขึ้น รีบพุ่งเข้าไปหาไทเฮา ประคองร่างของนาง แล้วให้แรงกดลงที่ช่องระหว่างจมูก
ไทเฮาสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วก็ฟื้นขึ้นมา
นางคว้าแขนของแม่นมเลี่ยว ถามขณะที่หายใจหอบว่า :“ปี้.........ปี้อวี้.........ล่ะ........”
“ไม่รู้ว่าอยู่หนใด!”
“หา........ตามหา........ปี้อวี้ และพานางมา........มาหาข้า........”
“ไทเฮา ทรงดื่มน้ำก่อน” นางกำนัลยกน้ำเข้ามา
แม่นมเลี่ยวรับน้ำอุ่นมาและป้อนให้ไทเฮาดื่มสองสามคำ
แม้ว่าสีหน้าของไทเฮายังไม่ค่อยดีนัก แต่ก็ดีขึ้นบ้างแล้ว นางเป็นคนที่เคยผ่านมรสุมมามากมาย นางสงบสติอารมณ์และตั้งสติได้อย่างรวดเร็ว :“ไม่ ข้า......ข้าจะไปที่จวนท่านอ๋องเซ่อเจิ้งด้วยตัวเอง”
นางต้องการไปยืนยันคำถามข้อหนึ่งด้วยตัวเอง
ในไม่ช้า ข่าวที่ไทเฮาออกจากวัง ก็แพร่ไปถึงตำหนักเฟิงอี๋
ไป๋ชิงหลิงขมวดคิ้วแล้วพูดว่า :“ไทเฮาออกจากวัง?”
“เพคะ กำลังไปยังจวนอ๋องเซ่อเจิ้ง” อิงเหลียนรายงาน
ไป๋ชิงหลิงแอบพูดว่า :ไม่ได้การละ!
“ช่างเป็นหลุมพรางที่ใหญ่มาก อีกฝ่ายต้องการเดินหมากเช่นนี้นี่เอง”
“เหนียงเหนียง ท่านหมายถึงอะไร? ฆาตกรที่อยู่เบื้องหลังการฆ่าล้างตระกูลสวี่ พวกเขาต้องการทำอะไร?” หยุนหยินถามด้วยความสงสัย
ไป๋ชิงหลิงพูดว่า :“ไทเฮา ฮองเฮา และจักรพรรดิ ต่างก็รวมใจกันเป็นหนึ่งเดียว เป็นกำแพงที่ไม่อาจทำลายได้ พวกเขาต้องการให้เชื้อพระวงศ์แตกแยกกัน และแสวงหาผลประโยชน์ที่พวกเขาต้องการจากเรื่องนี้ เช่น.........”
เธอเงยหน้าขึ้นมองคนสนิทที่อยู่ข้างหน้า :“ความมั่งคั่ง!”
ทันใดนั้นหยุนหยินก็นึกถึงกวนปี้อวี้ :“กวน...........”
ดวงตาของไป๋ชิงหลิงเบิกกว้าง หยุนหยินรีบหุบปากโดยเร็ว
“จัดเตรียมเสื้อผ้าของใช้ให้ข้า ข้าจะออกจากวังไปจัดการปัญหาบางอย่างที่จวนอ๋องเซ่อเจิ้ง”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น
จากขทที่ 907ข้ามมาบทที่ 987 เลยเหรอคะหายไป 80บท...แอดขาตามกลับมาให้หน่อยค่าาาาา😅😢😘...
จักรพรรดิตายแล้วค่อยมีกำลังใจอ่านหน่อยอย่างน้อยๆก็ไม่ต้องหัวเสียกับตาแก่งี่เง่าคนนี้อีก......
เรื่องนี้ทำพี่น้ำตาท่วมบ้าน...สามีบอกว่าถ้ามันโศกมันเศร้านักก็เลิกอ่านเหอะ...ไม่ได้สิตามมาขนาดนี้แล้วเอาให้สุดแล้วหยุดที่กระดาษทิชชู่...
อยากรู้ว่าพระเอกและนางเอกจะรู้ความจริงตอนไหนว่าเป็นครบครัวเดียวกันและจิ่นหลินคือลูกอีกคน ช่วยสปอยหน่อยค่ะ...
นางเอกเรื่องนี้เก่ง..แต่อ่อนแอและงี่เง่า..หลายครั้งที่อ่านไปถอนหายใจไป...
อัพต่อนะคะ..กำลังสนุกเลยค่ะ...
บทที่614-623เนื้อหาไม่ครบมีแค่5-6บรรทัดอ่านไม่รู้เรื่องเดาทางไมาถูกเลย...
บทที่594-602สั้นมากค่ะ...
ตอน 460 โอ้โหวว หนักหน่วงมาก ตั้งแต่แมวตาย หลังจากนั้นคนที่นางเอกรักตายเป็นใบไม้ร่วงเลย แต่คนล่าสุดเนี่ย ได้ไงวะ รับไม่ได้อย่างแรง😭 ชีวิตนางเอกบัดซบมาก คนธรรมดาที่ไหนจะทนได้วะเนี่ย เป็นคนปกติป่านนี้เป็นบ้าตายไปแล้ว ว่าแต่อีจักรพรรดิจะเลิกประสาทแดกได้ตอนไหน🤬🤬...
อยากผ่าสมองอ๋องเฉินออกมาดูว่าข้างในมันมีมันสมองอยู่จริงๆรึเปล่า...อะไรจะมึนและง่าวได้ขนาดนี้...