เข้าสู่ระบบผ่าน

บันทึกตำนานนายน้อยเจ้าสำราญ นิยาย บท 31

บทที่ 31 พี่หญิงใหญ่ถูกปองร้าย

ฉินเฟิงเพียงต้องการดูว่าเสี่ยวเซียงเซียงและฉินเสี่ยวฝูคิดอย่างไรกับเรื่องนี้ ท้ายที่สุด ทั้งสองคนก็เป็นบ่าวรับใช้ข้างกายเขา ไม่ต้องพูดถึงความภักดีหรือไม่ภักดี อย่างน้อย ๆ ต้องเข้าใจความสามารถทั้งคู่ก่อนจะได้เลือกใช้คนให้ถูก

คำพูดของเสี่ยวเซียงเซียงโดนใจนายน้อยตระกูลฉินเข้าเต็มเปา ดังคำกล่าวที่ว่าคนใกล้ชาดติดสีแดง คนใกล้หมึกติดสีดำ หากนางไม่มีวิสัยทัศน์ ในอนาคตก็คงเป็นได้เพียงดอกไม้ประดับแจกันเท่านั้น

ฉินเฟิงแสร้งทำเป็นประหลาดใจ ยื่นมือออกไปเกลี่ยจมูกสาวใช้ตัวน้อย “มองไม่ออกเลย เจ้าก็รู้หรือว่าศัตรูควรได้รับการแก้ไขแทนที่จะผูกปมแค้น”

เสี่ยวเซียงเซียงหน้าแดงทันที นางลดศีรษะลงและพึมพำเสียงต่ำ “นายน้อยท่านรังแกข้าอีกแล้ว”

ฉินเฟิงหัวเราะ เขายืนขึ้น ชี้ไปที่ฉินเสี่ยวฝู “เจ้ามานี่ซิ ข้ามีเรื่องจะคุยด้วย”

ดวงตาของฉินเสี่ยวฝูเป็นประกาย เด็กหนุ่มคิดว่านายน้อยกำลังจะให้รางวัลจึงรีบเดินต้อย ๆ เข้าไปหา

ฉินเฟิงไม่พูดพร่ำทำเพลง ยกขาขึ้นเตะตูดคนสนิท ก่อนจะเอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์ “ต่อไปอย่าลืมเคาะประตูก่อนเข้ามา ไอ้เด็กตัวเหม็น!”

เห็นได้ชัดว่านายน้อยฉินไม่ได้ออกแรงใด ๆ แต่ฉินเสี่ยวฝูกลับแยกเขี้ยวยิงฟัน เด็กหนุ่มวิ่งกะโผลกกะเผลกไปที่ประตู ขณะเดียวกันก็ส่งยิ้มแป้นแล้นกลับมาให้ “ขาและเท้าของนายน้อยปราดเปรียวยิ่งนัก ถูกท่านเตะครั้งเดียว ร่างกายข้าน้อยรู้สึกสดชื่นยิ่ง”

ฉินเฟิงส่งเสียงหึเบา ๆ ในใจรู้สึกขบขัน ท่าทางไร้ยางอายของเจ้าเด็กตัวเหม็นนี่มีกลิ่นอายของเขาอยู่สองสามส่วน ดูเหมือนตอนเขาโดนหลิ่วหงเหยียนดุด่าสั่งสอน ฉินเสี่ยวฝูที่อยู่ข้างกายจะได้เรียนรู้มาไม่น้อย

เมื่อเห็นฉินเฟิงที่ถูกขัดจังหวะยังมีสีหน้าไม่พอใจ ฉินเสี่ยวฝูก็รีบยกบั้นท้ายอีกข้างขึ้นมา “นายน้อยโปรดประทานพร”

ฉินเสี่ยวฝูไม่ได้โง่ บุกรุกสถานที่พักผ่อนของนายน้อยแล้วถูกเตะก้นหนึ่งทีก็พิสูจน์ได้แล้วว่าตนได้รับความโปรดปรานมากเพียงใด หากเจ้านายโกรธจริง ๆ นับประสาอะไรกับการถูกเตะ ตามความผิดฐาน ‘กำเริบเสิบสาน’ ต่อให้ถูกทำโทษด้วยการเฆี่ยนจนตายก็ไม่มีอะไรให้ติเตียน

ฉินเฟิงไม่มีเวลาตบมุกกับเจ้าเด็กตัวเหม็นคนนี้ ฉีหยางจวิ้นจู่ต้องไปถึงหอวิจิตรศิลป์เรียบร้อยแล้วแน่นอน พี่หญิงใหญ่เสิ่นชิงฉือเกิดมาพร้อมนิสัยหยิ่งผยอง หากนางต้องจัดการกับฉีหยางจวิ้นจู่เพียงคนเดียวก็แล้วไป ทว่าหากมีหลี่หนิงฮุ่ยอยู่ข้าง ๆ เกรงว่าจะเกินกำลัง

“ทำตามที่เสี่ยวเซียงเซียงบอก ข้าจะไปพบแม่นางน้อยทั้งสองคนนั้น”

“เสี่ยวฝู เจ้าไปแจ้งบัณฑิตหญิงของสำนักศึกษาเซิ่งหลินหน่อยว่า นายน้อยอย่างข้ากำลังจะท่องบทกวีอีกครั้ง หากสนใจจะเป็นกองเชียร์ให้ไปที่หอวิจิตรศิลป์โดยเร็วที่สุด ฉากเด็ดอย่างนี้จะปล่อยให้พวกนางพลาดได้อย่างไร จริงไหม?”

“ขอรับ” แม้ฉินเสี่ยวฝูจะไม่รู้ว่า ‘กองเชียร์’ คืออะไร แต่เมื่อนายน้อยพูดเช่นนี้ย่อมมีกลยุทธ์อยู่ในใจ เขาเพียงทำตามคำสั่งก็พอ

ฉินเฟิงกางแขนออก จากนั้นสั่งให้เสี่ยวเซียงเซียงเผากำยาน เปลี่ยนเครื่องแต่งกายเป็นชุดผ้าแพรกับเข็มขัดหยกให้เขา จากนั้นก็นึกถึงภาพลักษณ์ของนายน้อยในละครทีวี ที่มักจะวางมือซ้ายอยู่ด้านหน้าและพาดมือขวาไว้ด้านหลัง ชายหนุ่มเดินวางมาดไปที่ประตูจวนฉิน

ทว่าขณะกำลังจะก้าวออกจากประตูกลับนึกบางอย่างขึ้นมาได้ พลันภาพลักษณ์ที่เปล่งประกายความฮึกเหิมเมื่อครู่ก็หมดไปทันที เขาถอยกลับไปหลังประตูและกระซิบ “เร็วเข้า รีบไปเรียกชูเฟิงมา นายน้อยอย่างข้าได้รับการศึกษาและการสั่งสอนอบรมชั้นสูง ถ้ามีอะไรเกิดขึ้น เรื่องรำดาบแทงหอกมอบให้เป็นหน้าที่นางก็แล้วกัน”

เสี่ยวเซียงเซียงอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ แม้ไม่เข้าใจอารมณ์ของผู้เป็นนาย แต่การคุยโวเกินจริงทำให้นางขบขันอยู่ไม่น้อย

เห็นได้ชัดว่าภายนอก นายน้อยตระกูลฉินไม่กลัวแม้จะต้องเผชิญหน้ากับราชวงศ์ ทว่าพอกลับถึงบ้าน ราวกับอีกฝ่ายกลายเป็นคนละคน บางครั้งเขาก็ขี้ขลาดเหมือนหนู แต่บางครั้งก็ซุกซนปลิ้นปล้อน อย่างน้อย ๆ ทั่วทั้งเมืองหลวงก็ไม่สามารถหานายน้อยฉินคนที่สองได้อีก

บทที่ 31 พี่หญิงใหญ่ถูกปองร้าย 1

บทที่ 31 พี่หญิงใหญ่ถูกปองร้าย 2

บทที่ 31 พี่หญิงใหญ่ถูกปองร้าย 3

Verify captcha to read the content.ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกตำนานนายน้อยเจ้าสำราญ