เข้าสู่ระบบผ่าน

บันทึกตำนานนายน้อยเจ้าสำราญ นิยาย บท 74

บทที่ 74 อาวุธตามกฎหมาย

เมื่อเจ้าสารเลวฉินเฟิงนั่นกล้ามาจริง ๆ แววตาหลงป้าเทียนพลันสว่างไสวขึ้นมาอย่างอดไม่ได้

ทุกวันนี้ไม่มีใครในเมืองหลวงไม่รู้จักฉินเฟิงผู้โด่งดัง หากเขาสามารถเหยียบฉินเฟิงไว้ใต้ฝ่าเท้าได้ เขาจะต้องมีชื่อเสียงเลื่องลือไปทั่วอย่างแน่นอน

เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ หลงป้าเทียนก็ตื่นเต้นขึ้นมาเล็กน้อย เขาตะโกนถามทันที “มาแล้วก็ดี วันนี้ข้าจะทำให้เจ้าหนูฉินเฟิงรู้ว่า โลกของผู้ใหญ่อันตรายเพียงใด! เขาพาคนมากี่คน?”

ลูกสมุนเหลือบมองพี่น้องที่กำลังเตรียมตัวพร้อมรบ พลางตัวสั่นและมีท่าทางอึกอัก ไม่กล้าที่จะพูดออกมา

เมื่อเห็นลูกสมุนพูดติดอ่างและทำท่าทางพะว้าพะวัง ผู้ดูแลพรรคก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะเยาะ “มีหัวหน้าพรรคอยู่ที่นี่ เจ้าจะกลัวอะไร? แค่พูดมันออกมา!”

หลงป้าเทียนใจร้อน “การทุบหอสุรานั่นเป็นคำสั่งจากนายท่านจ้าวแห่งหอเซียนเมามาย และนายน้อยเกา สองคนนี้แข็งแกร่งระดับใด เจ้ายังต้องการให้ข้าอธิบายอีกหรือไม่? ฉินเฟิงเป็นเพียงคนตัวเล็ก ๆ ต่อให้พ่อของเขา ฉินเทียนหู่จะมา หัวหน้าพรรคคนนี้ก็ไม่กลัว! ข้าจะสอนเสนาบดีกรมกลาโหมให้รู้วิธีสั่งสอนบุตรชายเอง!”

หลังจากได้ยินคำพูดของหลงป้าเทียน ลูกสมุนก็มั่นใจขึ้นมา เขากระซิบตอบ “รายงานหัวหน้าพรรค ฉินเฟิงนำคนมา… สามถึงสี่ร้อยคนเห็นจะได้ขอรับ”

สิ้นประโยคนั้น หลงป้าเทียนที่ก่อนหน้านี้วางท่ายโสลำพอง ก็หน้าซีดลงทันควัน แต่เขาก็ยังต้องแสร้งทำเป็นสงบ

“สามถึงสี่ร้อยคน? แค่นายน้อยเจ้าสำราญตัวเล็ก ๆ แม้มันจะรวบรวมบ่าวรับใช้ทั้งหมดมาได้ มากที่สุดก็คงแค่ไม่กี่สิบคนเท่านั้น คนสามสี่ร้อยคนมาจากที่ใดกัน? ไอ้สารเลวนี่! เจ้ากล้าล้อเล่นกับข้ารึ?”

สองขาของลูกสมุนสั่นเทา เขาคุกเข่าลงทันที ก่อนจะพูดทั้งน้ำตาว่า “แม้ว่าข้าน้อยจะมีสักร้อยความกล้าก็ไม่กล้าล้อเล่นกับท่านหัวหน้าพรรคแน่นอนขอรับ เจ้าฉินเฟิงนั่นพาคนมาหลายร้อยคนจริง ๆ ทั่วทั้งถนนล้วนคับคั่งไปด้วยมนุษย์… อีกทั้งเขายังตะโกนตลอดทางว่า ว่าอะไรนะ… ปราบปรามอาชญากรรม กำจัดความชั่วร้าย ปกป้องบ้านเมืองและราษฎร”

“มีอย่างที่ไหนกัน!” ก่อนที่หลงป้าเทียนจะเอ่ยปาก ผู้ดูแลที่อยู่ด้านข้างก็โกรธจัด และตะโกนเสียงดัง “ปราบปรามอาชญากรรม กำจัดความชั่วร้าย? ฉินเฟิงน่ะหรือ? น่าขันเกินไปแล้ว! หากเขานำมือดีหลายร้อยคนมาได้จริง ๆ เช่นนั้นข้าจะนับถือว่าเขาเจ๋ง ทว่าไม่ต้องคิดก็รู้แล้วว่าคนหลายร้อยคนนั้นล้วนแล้วแต่เป็นพวกถุงสุราห่อข้าว*[1] จะเทียบกับพี่น้องผู้แข็งแกร่ง ที่ผ่านการต่อสู้ของพรรคพยัคฆ์มังกรของเราได้อย่างไร?”

ทันใดนั้น เหล่าลูกสมุนที่หดหู่ในคราแรกก็เงยหน้าขึ้นเมื่อได้ยินสิ่งนี้

หัวใจที่แขวนอยู่ของหลงป้าเทียนเองก็สงบลงเช่นกัน สีหน้าเขาเต็มไปด้วยความโอหังอีกครั้ง เอ่ยกับสายลมเสียงแผ่วเบาว่า “ผู้ดูแลกล่าวได้ถูกต้อง เจ้าสารเลวตัวจ้อย! ไม่มีอะไรให้ต้องหวาดกลัว คนมากแล้วอย่างไร? มิใช่เป็นแค่เศษทรายหรอกหรือ? ตราบใดที่ทำให้เจ้าสารเลวฉินเฟิงนั่นล้มลงกับพื้นได้ คนที่เหลือย่อมแยกย้ายกันไปตามธรรมชาติ เหมือนนกที่ถูกสัตว์ร้ายทำให้กระเจิดกระเจิง ทุกคน! รอสัญญาณจากข้าเพื่อโจมตีฉินเฟิง!”

ระหว่างที่พูด นายน้อยฉินก็ค่อย ๆ ปรากฏตัวที่หัวมุมถนนพร้อมกับเสียงอึกทึก เขากำลังมุ่งหน้ามายังพรรคพยัคฆ์มังกร

เมื่อพบว่าข้างกายฉินเฟิงมีคนเพียงไม่กี่คน หลงป้าเทียนก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะเยาะ “รอมาครึ่งวัน? เอิกเกริกได้เพียงนี้เองหรือ? ข้าเรียกรวมกำลังคนมาเสียเที่ยวแล้ว หากรู้เช่นนี้ส่งน้องชายสองสามคนมาที่นี่ก็คงเพียงพอ”

ผู้ดูแลพยักหน้าและโค้งตัวเอ่ยต่อ “กลุ่มคนหลายร้อยคนที่ว่า คงจะเป็นพวกร่วมสนุกครึกครื้นโดยที่ไม่รู้เรื่องรู้ราว แต่กล้าดีอย่างไรจะมาเป็นศัตรูกับพรรคพยัคฆ์มังกรของเรา? เกรงว่ามาได้ครึ่งทางก็คงหนีกันไปเกลี้ยงแล้ว”

หลงป้าเทียนยกดาบเก้าห่วงในมือขึ้น แม้เขาจะไม่กล้าก่อเหตุฆาตกรรมบนท้องถนน แต่ตราบใดที่มีดาบอยู่ในมือ เขาก็รู้สึกมั่นใจและมองดูฉินเฟิงด้วยความเหยียดหยามยิ่งขึ้น

ในขณะที่ฉินเฟิงเดินเข้ามาใกล้ เขาก็ได้ยินเสียงฝีเท้าดังมาจากระยะไกล จากนั้นคนหนุ่มสาวหลายสิบคนที่แต่งกายเหมือนผู้คุ้มกันก็ออกมาจากมุมถนนพร้อมกระบองและไม้พลองในมือ

ลักษณะของผู้คุ้มกันและบ่าวรับใช้นั้นแตกต่างอย่างสิ้นเชิง ผู้คุ้มกันล้วนต้องฝึกฝนศิลปะการต่อสู้บางอย่างมาไม่มากก็น้อย แน่นอนว่า ผู้ที่สามารถทำหน้าที่เป็นผู้คุ้มกันในจวนเสนาบดีกรมกลาโหมได้ แม้จะไม่ได้ฝึกฝนวรยุทธ์มาตั้งแต่เยาว์วัย แต่ก็ต้องเป็นนักสู้มือดีอย่างแน่นอน

เมื่อเห็นผู้คุ้มกันหลายสิบคน แม้หลงป้าเทียนจะยังคงมีรอยยิ้มบนใบหน้า แต่ก็มิได้กำเริบเสิบสานเหมือนก่อนหน้านี้อีก

บทที่ 74 อาวุธตามกฎหมาย 1

Verify captcha to read the content.ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกตำนานนายน้อยเจ้าสำราญ