ปรากฏการณ์ประหลาดเช่นนี้ ยามอวิ๋นชิ่งไป๋ฝ่าการเคี่ยวกรำในแดนลับด่านที่สิบแปดในตอนนั้นก็เคยปรากฏขึ้นมาก่อน
และตอนนี้ก็บังเกิดขึ้นอีกครั้งแล้ว!
เพียงแต่ต่างจากตอนนั้น เพราะนี่เป็นครั้งที่สี่ที่เสียงระฆังมรรคขับขานจิตดังขึ้น
ไม่เหมือนกับสมัยอวิ๋นชิ่งไป๋ เด็กหนุ่มคนเมื่อกี้ต้องผ่านการทดสอบเคี่ยวกรำของแดนลับด่านที่สิบเก้าเป็นอย่างน้อย
นี่จึงจะเป็นสาเหตุที่ทำให้เซียวชิงเหอหน้าเปลี่ยนสียกใหญ่
‘ระดับถัดจากจิตมรรคสว่างไสวก็คือ ‘กระจ่างจิต’ หรือสภาวะจิตของเขาจะมีพลังเช่นนี้แล้ว’
จิตใจเซียวชิงเหอไหวกระเพื่อมไม่ว่างเว้น
กระจ่างจิต หมายถึงจิตวิญญาณปลอดโปร่งกระจ่างแจ้ง
ระดับสภาวะจิตชั้นนี้ ยึดโยงจิตแต่ไม่ผูกติดกับจิต ยึดโยงมรรคแต่ไม่ผูกติดกับมรรค!
เซียวชิงเหอแน่ใจว่าในตำหนักศักดิ์สิทธิ์สุริยันจันทรา ผู้สืบทอดระดับกระบวนแปรจุติที่บรรลุพลังสภาวะจิตถึงขั้นนี้ได้…
ไม่มีสักคน!
ขนาดศิษย์พี่หมีเหิงเจินยังห่างจากระดับนี้ไปเล็กน้อย
เขาเคยได้ยินหมีเหิงเจินพูดว่า ต้องการหล่อหลอมสภาวะจิตให้ถึงระดับกระจ่างจิตก่อนมหายุคมาเยือน นี่ย่อมพิสูจน์ว่าหมีเหิงเจินยังไม่บรรลุระดับนี้!
หมีเหิงเจินเป็นหนึ่งในสิบยักษ์ใหญ่ยอดมกุฎรุ่นเยาว์ที่ชื่อเสียงสะท้านไปทั่วแดนชัยบูรพา
เรื่องที่ขนาดเขายังทำไม่ได้ แต่เด็กหนุ่มที่ดูที่มาที่ไปไม่ออกคนหนึ่งกลับทำได้ นี่ทำให้เซียวชิงเหอรู้สึกชาหนึบที่ศีรษะ
‘สัตว์ประหลาด เด็กนี่ต้องเป็นสัตว์ประหลาดเย้ยฟ้าแน่ๆ!’ เซียวชิงเหอเองก็เป็นบุคคลขอบเขตมกุฎที่หยิ่งทระนงมั่นใจในตัวเองถึงที่สุดผู้หนึ่ง แต่เวลานี้กลับทำตัวเย่อหยิ่งไม่ออกสักนิดเสียแล้ว
……
‘กระจ่างจิต…’
บนถนนหลินสวินพึมพำในใจ
ยามผ่านประสบการณ์ ‘ไต่ถามจิตมรรค’ เขารู้สึกหมดหวัง หนทางข้างหน้าถูกตัดขาด ทั้งไม่มีทางให้ถอยหลัง
เรียกได้ว่าจะไปข้างหน้าก็ไม่ได้ จะถอยก็ไม่ได้
ในโสตประสาทมีเสียงถอนใจอย่างอับจนหนทาง หดหู่และไม่ยินยอมดังขึ้นเสียงหนึ่ง ทำให้สภาวะจิตของเขาได้รับความทรมานเป็นร้อยเท่า ถูกความสิ้นหวังสั่นคลอน
เขาก็เริ่มเคลือบแคลงตัวเอง เคลือบแคลงมรรคาของตน
ทันทีที่ความคิดนี้เกิดขึ้น ก็ทำให้สภาวะจิตของเขามีเงามืดปกคลุม ตกอยู่ในอันตรายถึงขีดสุด
ถ้าจ่อมจมลงไปแล้ว จะถึงกับสูญเสียมรรควิถีทั้งร่างเพราะ ‘จิตวิญญาณยุ่งเหยิง’!
และในช่วงเวลาอันตรายหน้าสิ่วหน้าขวานนี้เอง หลินสวินก็เดินหน้าไปก้าวหนึ่ง
ทางข้างหน้าถูกตัดขาด เป็นรอยแยกของห้วงอากาศที่ขาดออก อ้างว้างว่างปล่าเหมือนหลุมดำ คล้ายสามารถกลืนกินสรรพสิ่ง
แต่หลินสวินกลับใช้ ‘พลังใจ’ แผ้วทางออก!
เมื่อก้าวออกไปครั้งนี้ ฟ้าดินพลันแปรผัน เส้นทางที่ขาดออกแหลกสะบั้น ฉายรุ้งเทพสายหนึ่งพาดฟ้า ส่องสว่างทางข้างหน้า
ก้าวนี้ราวกับพลิกเป็นพลิกตาย!
‘ในใจข้ามีที่ยึดเหนี่ยว ไม่เสียใจกับเรื่องที่แล้วมา ไม่คลางแคลงหนทางข้างหน้า เพียงต้องการก้าวต่อไป ตัดบุญคุณความแค้น สะบั้นความเป็นความตาย เสาะหาความอมตะ!’
‘มรรคา เดิมไร้ทางถอย ไม่ตายตอนนี้ก็มีชีวิตในวันข้างหน้า’
‘ไม่ผูกติดกับจิตใจ ไม่ยึดโยงกับมรรค ก็จะยึดมั่นในจิตใจที่แท้กับมรรคของตนได้!’
เมื่อหลินสวินรู้แจ้งทั้งหมดนี้ สภาวะจิตก็เปล่งแสงสว่างเจิดจ้า จิตวิญญาณโปร่งโล่งราวหลุดออกจากพันธนาการ
การเคี่ยวกรำทั้งหมดของแดนลับเบื้องหน้าก็มลายหายไปเหมือนกระแสน้ำ กระจายฟุ้งออกไปพร้อมกัน ฟ้าดินรอบทิศปรากฏลักษณ์สว่างไสว
จากนั้นป้ายหินป้ายหนึ่งก็เผยออกมา บนนั้นว่างเปล่า
คราวนี้หลินสวินยื่นนิ้วออกมาต่างพู่กัน สลักตัวอักษรบรรทัดหนึ่งลงไปบนป้ายหินว่า ‘ใจปลอดโปร่งกระจ่างจิต หมื่นเคราะห์ก็เป็นฝุ่นธุลี’
‘ฆ่าผู้ร่วมสายเลือดข้า ชิงชีพจรวิญญาณข้า ใจสงบหรือไม่’
‘เจ้าเมื่อสิบปีก่อน ฝีมือยังด้อยอยู่ดี!’
ดวงตาดำของหลินสวินลึกล้ำและสงบนิ่ง
การฝ่าผ่านหอเกลาจิต เท่ากับทำให้หลินสวินได้ประลองฝีมือในด้าน ‘สภาวะจิต’ กับอวิ๋นชิ่งไป๋เมื่อสิบปีก่อนครั้งหนึ่ง
การประลองฝีมือเช่นนี้ ทำให้เขารับรู้ ‘สภาวะจิต’ ของอวิ๋นชิ่งไป๋ในตอนนั้นขึ้นอีกขั้นหนึ่ง สิ่งที่ได้รับมีมากมาย
“สหายยุทธ์โปรดหยุดก่อน” เซียวชิงเหอตามมาทัน
“มีเรื่องอะไรหรือ” หลินสวินถูกขัดความคิดจึงนิ่วหน้าอย่างอดไม่ได้
ในใจเซียวชิงเหอไม่สบอารมณ์อยู่บ้าง ตัวเขาแต่ก่อนประหนึ่งอาทิตย์ช่วงโชติส่องสว่างเหนือเวิ้งฟ้า เดินไปที่ไหนก็ถูกผู้อื่นตามติดและห้อมล้อม
แต่ตอนนี้กลับดีนัก เขาออกตัวผูกมิตร แต่กลับถูกต่อต้านเสียแล้ว!
ทว่าเขาไม่ได้แสดงอะไรออกมา เขารู้ดีว่าต่อหน้าสัตว์ประหลาดเย้ยฟ้าเบื้องหน้านี้ ตนต้องเก็บความรู้สึกไว้บ้าง
“ขอถามว่าสหายยุทธ์ต้องการไปที่ ‘หอหลอมจิตวิญญาณ’ หรือ” เซียวชิงเหอพูด เขาดูออกแล้วว่าอีกฝ่ายไม่ต้องการเปิดเผยฐานะ แต่เขาเองก็มีวิธี
หลินสวินพยักหน้า ในเมืองนภาม่วงแห่งนี้มีหอสามแห่งที่อยู่ใน ‘สิบสองหอ’ ได้แก่หอลองกระบี่ หอเกลาจิตและหอหลอมจิตวิญญาณ
ที่อีกฝ่ายเดาได้เช่นนี้ไม่ใช่เรื่องประหลาด
“เช่นนั้นสหายยุทธ์มีป้ายคำสั่งเข้าหอหลอมจิตวิญญาณหรือไม่” เซียวชิงเหอถามต่อ
หลินสวินอึ้งไป เอ่ยว่า “ข้ากำลังคิดจะไปแลกมาป้ายหนึ่ง”
ตามที่เขารู้ ในเมืองนภาม่วงแห่งนี้มีสถานที่ไว้แลกป้ายคำสั่งเข้าหอหลอมจิตวิญญาณโดยเฉพาะอยู่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์