พลันเกิดความฮือฮาไม่รู้เท่าไหร่
“คนผู้นั้นเป็นใคร”
ผู้ฝึกปราณจำนวนนับไม่ถ้วนต่างตกใจ อยากรู้ฐานะของผู้ทะลวงห้าหอ
……
“ทำลายสถิติห้าอันของอวิ๋นชิ่งไป๋ภายในวันเดียว นี่เป็นเรื่องที่ไม่เคยมีมาก่อนเลย!”
“อวิ๋นชิ่งไป๋เป็นถึงบุคคลระดับตำนานไร้พ่าย วันนี้ในที่สุดฐานะของเขาก็จะถูกโค่นล้มแล้วงั้นหรือ”
ผู้คนมากมายตกใจกับข่าวนี้
……
“นั่นเป็นเพียงแค่สถิติของอวิ๋นชิ่งไป๋เมื่อสิบปีที่แล้ว ในเมื่อเป็นสถิติ ย่อมมีความเป็นไปได้ที่จะถูกทำลาย เหตุใดต้องตกใจถึงเพียงนี้”
“ไม่ผิด เพียงแค่สถิติเมื่อสิบปีที่แล้วเท่านั้น แน่นอนว่าไม่สามารถโค่นล้มฐานะของอวิ๋นชิ่งไป๋ได้”
และมีผู้ฝึกปราณที่ไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้
……
แต่ในสำนักกระบี่เทียมฟ้ากลับสามารถใช้คำว่าวุ่นวายอลม่านและกระสับกระส่ายมาเปรียบเทียบได้แล้ว
มีคนโกรธ มีคนร้อนรน และมีคนรับไม่ได้ ร้องโวยจะไปสังหารหลินสวิน
แน่นอนว่าตอนนี้พวกเขายังไม่รู้ว่าหลินสวินเป็นใคร
สิ่งที่น่าอึดอัดที่สุดก็คือตรงนี้ เพียงแค่เด็กหนุ่มที่มีที่มาไม่ชัดเจนเท่านั้น แต่ไม่เพียงทำลายสถิติห้าอันของอวิ๋นชิ่งไป๋ จวบจนกระทั่งตอนท้าย พวกเขาในฐานะเจ้าถิ่นนครหยกขาวยังไม่อาจรับรู้ฐานะของอีกฝ่ายด้วยซ้ำ นี่ถ้าเผยแพร่ออกไปจะต้องกลายเป็นเรื่องตลกมากแน่
……
ข่งหลิงสีหน้าเย็นชา หว่างคิ้วเต็มไปด้วยความอึมครึม
ตอนนี้นางเดินอยู่บนถนนที่เจริญรุ่งเรือง ในใจมีความเคียดแค้นและอับอายที่ไม่สามารถเปรียบเทียบได้
อวิ๋นชิ่งไป๋เพิ่งให้กระบี่แสงราตรีกับนางวันนี้
แต่วันนี้เอง กระบี่นั่นก็ถูกช่วงชิงไป นี่ทำให้ข่งหลิงเกือบจะคลั่ง
ในฐานะบุคคลขอบเขตมกุฎอันดับที่สามของสิบสามกระบี่แห่งสำนักกระบี่เทียมฟ้า ข่งหลิงมีต้นทุนมากพอที่จะเย่อหยิ่ง
นางบุคลิกสง่าไร้เทียมทาน พลังต่อสู้โดดเด่น ถือกำเนิดจากเผ่าโบราณนกยูงห้าสีอันลึกลับ ไม่ว่าในด้านใดล้วนเรียกได้ว่าสูงล้ำ
แต่ในวันนี้นางกลับพบเจอวันที่สะบักสะบอมและมืดมนที่สุดในชีวิต!
‘อย่าให้ข้ารู้เชียวว่าเจ้าเป็นใคร!’
ในดวงตาคู่ใสของข่งหลิงมีเพลิงโกรธพลุ่งพล่าน ชิงชังจนขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน
“ยังจะเป็นใครได้อีก แน่นอนว่าต้องเป็นเทพมารหลิน!”
เสียงหนึ่งดังมาจากระยะไกล ทำให้ข่งหลิงที่ตกอยู่ท่ามกลางความขึ้งโกรธและโทษตัวเองรู้สึกตัวกะทันหัน พลันเชยตาขึ้นมองไป
นางกลับมาถึงหอสำแดงมรรคอีกครั้งโดยไม่รู้ตัว
เพียงแต่ที่แห่งนี้ไม่ได้รกร้างว่างเปล่าเหมือนก่อนหน้านี้ เงาร่างของผู้ฝึกปราณมากมายมารวมตัวกัน
คนที่ส่งเสียงเมื่อครู่นี้ก็คือชายชุดคลุมดำที่อยู่ท่ามกลางผู้คน มีใบหน้าเยียบเย็น เบ้าตาลึก แผ่กลิ่นอายกระหายเลือดไปทั่วทั้งตัวคนหนึ่ง
“เทพมารหลินไหน” มีคนถาม
“แน่นอนว่าต้องเป็นเจ้าคนที่กล้ารับพันดาบหมื่นพิบัติ ช่วงก่อนเขาป่วนจนแคว้นกู่ชางพลิกตลบ ทำให้แดนศักดิ์สิทธิ์แกนสวรรค์สั่นสะเทือน สายฟ้าโหมกระหน่ำ พวกเจ้าไม่มีทางไม่รู้หรอกมั้ง”
ชายชุดคลุมดำพูดเสียงเย็น
“เจ้าแน่ใจได้อย่างไรว่าคนที่ทำลายสถิติของอวิ๋นชิ่งไป๋คือเขา”
หลายคนยังคงไม่เชื่อ
ชายชุดคลุมดำยิ้มเยาะพูด “แม้เขากลายเป็นเถ้าถ่านข้าก็จำได้ ส่วนพวกเจ้าจะเชื่อหรือไม่ ข้าคร้านจะสนใจ”
ในขณะที่พูดเขาก็ก้าวเท้าออกจากกลางฝูงชน
เพียงแต่เดินไปได้ไม่เท่าไหร่ก็ถูกข่งหลิงขวางเอาไว้
“แม่นางนี่เจ้าจะทำอะไร” ชายชุดคลุมดำหรี่ตา ใบหน้าเผยความหวาดเกรงอย่างชัดเจน
“เจ้าแน่ใจหรือว่านี่เป็นฝีมือของเทพมารหลินนั่น” ข่งหลิงไฟสุมอกมาตั้งนานแล้ว ตอนนี้บังเอิญได้ยินข่าว แน่นอนว่านางต้องไม่ยอมพลาด
“แน่ใจ!”
ชายชุดคลุมดำพยักหน้า ผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าแม้จะงดงามปานเทพธิดา แต่กลิ่นอายกลับดุร้ายและน่ากลัวอย่างที่สุด
ถูกดวงตาคู่ใสของนางจ้อง ทำให้แม้แต่วิญญาณของชายชุดคลุมดำยังรู้สึกเจ็บแสบเหมือนโดนดาบกรีด
“จริงหรือ” ข่งหลิงถาม แม้จะดูนิ่งสงบ แต่กลับมีอานุภาพที่กดดันใจคน
ชายชุดคลุมดำสั่นไปทั้งตัว แม้แต่จิตใจยังมีท่าทีจะพังทลาย
“พูดตรงๆ อย่างไม่ปิดบัง ข้ามาจากเผ่าสุนัขสวรรค์มายาทมิฬ ชื่อว่าโก่วซวีสิง มีความแค้นที่ไม่สามารถอยู่ร่วมใต้ฟ้าเดียวกันกับหลินสวิน!”
ชายชุดคลุมดำขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน “พอรู้ว่าเขาปรากฏตัวในแดนชัยบูรพา ข้าก็ไปที่แคว้นกู่ชางทันที เคลื่อนกำลังของเผ่าดำเนินการตรวจสอบอย่างรอบด้าน ในที่สุดก็มั่นใจแล้วว่าเจ้าหมอนั่นคือเทพมารหลินจริงๆ…”
ไม่รอให้พูดจบก็ถูกข่งหลิงตัดบทเสียก่อน “อย่ามัวพูดจาไร้สาระ ข้าถามเจ้าว่า เจ้าแน่ใจหรือว่าคนที่ทำลายสถิติห้าหอวันนี้คือเทพมารหลินนั่นจริงๆ”
โก่วซวีสิงชะงักไปก่อนจะพูดว่า “แม่นาง ทอดสายตามองไปทั่วทั้งดินแดนรกร้างโบราณ หากพูดถึงวิชาตามรอย ถ้าเผ่าสุนัขสวรรค์มายาทมิฬของพวกเราอ้างตัวว่าเป็นที่สอง ก็ไม่มีใครกล้าเป็นที่หนึ่งแล้ว”
“ข้ากล้าเอาหัวเป็นประกัน คนที่ทำลายสถิติห้าหอในครั้งนี้คือเทพมารหลินสวินอย่างไม่ต้องสงสัย เมื่อครู่นี้ข้าได้ตรวจบริเวณรอบๆ หอสำแดงมรรคจนจับกลิ่นอายที่เขาหลงเหลือไว้ได้ตั้งนานแล้ว ไม่มีผิดแน่”
คำพูดหนักแน่น เห็นได้ชัดว่ามั่นใจเต็มเปี่ยม
“หลินสวิน… เทพมารหลิน… ที่แท้ก็คือเจ้าคนดุดันที่มาจากแดนฐิติประจิมคนนี้…”
ใบหน้างดงามดั่งหยกของข่งหลิงวูบไหว อยากจะส่งข่าวนี้กลับสำนักเสียเดี๋ยวนี้
โก่วซวีสิงเห็นเช่นนี้พลันฉวยโอกาสพูดว่า “แม่นาง ตอนที่เจ้าหมอนี่อยู่แดนฐิติประจิมก็ทำให้ข้าประสบเคราะห์จนเกือบไม่รอด ข้าเห็นว่าเจ้าเหมือนจะเจ็บแค้นคนผู้นี้มาก ถ้าอย่างนั้น… พวกเราร่วมมือกันจัดการเขาดีหรือไม่”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์