Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 1039

ตอนที่ 1039 อาหลู่
ในใจซูคงเปี่ยมด้วยความชื่นมื่นปานได้แก้แค้น

หลายวันก่อนในแคว้นหมึกขาวเขาถูกหลินสวินลอบโจมตี ไม่เพียงได้รับบาดเจ็บอย่างหนัก ซ้ำยังต้องแบกคำตราหน้าว่าสมคบคิดกับพวกเผ่าสุนัขสวรรค์มายาทมิฬอีกด้วย

สิ่งนี้พาให้เขามองว่าเป็นความอัปยศครั้งใหญ่เสียหน้าอย่างหนักจนไม่สามารถควบคุมตัวเองได้สักนิด เริ่มเสาะหาร่องรอยของหลินสวินในทันใด

หลังผ่านการวิเคราะห์ ในมุมมองของเขา หากหลินสวินหมายจะผงาดในแดนชัยบูรพา ก็เป็นไปได้อย่างยิ่งว่าอาจเข้าร่วมการแข่งขันกระดานยอดมกุฎรุ่นเยาว์ครั้งนี้ด้วย

ดังนั้นซูคงจึงมาถึงที่นี่ตั้งแต่เนิ่นๆ ซุ่มรออย่างอดทนอดกลั้น

ราชันที่เหยียบย่างอมตะเคราะห์ขั้นสองคนหนึ่ง แต่เพื่อจัดการคนรุ่นหลังกลับไม่อายที่จะทำเช่นนี้ แสดงให้เห็นว่าเขาถูกทำให้โกรธจนกลายเป็นสภาพไหนแล้ว

ความมุมานะไม่ทรยศผู้มีความพยายาม หลินสวินปรากฏตัวแล้ว ซูคงที่คิดแก้แค้นล้างอายไหนเลยจะลังเลอะไรอีก

หนำซ้ำได้ลิ้มรสบทเรียนความเจ็บปวดเมื่อคราวก่อน ครั้งนี้เขาจึงงัดพลังทั้งหมดมาใช้ทันทีที่ลงมือ!

แรงกดดันระดับราชันอันน่าสะพรึงบีบคั้นมาเยือนประหนึ่งภูเขาถล่มคลื่นยักษ์ซัดทลาย ครอบคลุมจักรวาล กดดันจนแม้กระทั่งเคลื่อนไหวหลินสวินและเซียวชิงเหอยังรู้สึกยากลำบาก

ในใจทั้งคู่ไหวสั่น คิดไม่ถึงเลยสักนิดว่าจังหวะที่กำลังจะเข้าสู่ทะเลหมากดารา เจ้าเดรัจฉานเฒ่าซูคงจะถึงกับพุ่งพรวดออกมา

หนำซ้ำทันทีที่ลงมือก็โหมโจมตีสุดกำลัง!

พลังของราชันสังสารวัฏเดิมทีก็เพียงพอจะสังหารผู้ฝึกปราณห้าระดับใหญ่คนใดก็ตามอยู่แล้ว

นับประสาอะไรกับที่ซูคงคนนี้เป็นถึงราชันที่ข้ามอมตะเคราะห์สองครา

พลานุภาพการโจมตีนี้ ต่อให้เปลี่ยนเป็นระดับราชันแท้จริงก็ยังไม่กล้าขวางคมดาบของเขาด้วยซ้ำ!

ทว่าในช่วงคับขันอันตรายไร้ใดเปรียบนี้ ภาพที่คาดไม่ถึงก็บังเกิดขึ้น

กระบองเหล็กสีดำเมื่อมอันหนึ่งหวดอากาศเต็มแรง ดุจดั่งเสาตะกายนภาปรากฏ ทะลวงแดนสรวง เบียดห้วงอากาศแตกระเบิด ปลดปล่อยพลังศักดิ์สิทธิ์ปานผลาญฟ้าล้างพิภพ

โครม!

กระบองเหล็กทะยานผ่านฟ้า ระเบิดปะทุขึ้นอย่างเกรี้ยวกราดรุนแรง

อานุภาพศักดิ์สิทธิ์มรรคราชันที่แต่เดิมปกคลุมกลางฟ้าดินแถบนี้ ระเบิดกระจุยโครมครามราวกับเมฆอลหม่าน ส่งเสียงกู่ก้องสะเทือนโสตจวนจะหูหนวกออกมา

และในเวลาเดียวกันนี้ซูคงที่กำลังแสยะยิ้มเย็นชาเย้ยหยันก็อึ้งงันอย่างจัง ดวงตาแทบโปนถลน ตกใจเกือบขวัญหนีวิญญาณกระเจิง

ไม่รอให้เขาตอบสนองด้วยซ้ำ กระบองเหล็กก็ซัดกวาดเข้าร่างเขาเต็มเหนี่ยว

ปัง!

ภายใต้การจับจ้องด้วยสายตาตื่นตะลึงของหลินสวินและเซียวชิงเหอ ซูคงก็ถูกกระแทกลอยออกไปเสียงดังสวบเหมือนกับกระสอบทรายก็ไม่ปาน

เสียงกระดูกกล้ามเนื้อแตกร้าวดังระงมก้องขึ้น เห็นได้ชัดว่าร่างกายอันทรงพลังไร้ใดเปรียบของซูคงถูกกระแทกจนโค้งงอบิดเบี้ยว กระดูกสันหลังแตกหักจนหมด

ท่ามกลางเสียงร้องโหยหวนที่ทั้งวังเวงและน่าหวาดกลัว เขาลอยไปทางขอบฟ้าทั้งตัว และร่วงตุบลงในบริเวณส่วนลึกของลมหิมะเวิ้งว้าง

“โคตรเจ๋ง!” เซียวชิงเหอปากอ้าตาค้าง

หลินสวินก็รู้สึกพร่าตาน้อยๆ ไม่แพ้กัน ภาพนี้ชวนสะท้านใจเกินไปอย่างไม่ต้องสงสัย ราชันที่เหยียบย่างอมตะเคราะห์ขั้นสองคนหนึ่ง ถึงกับถูกกระบองด้ามหนึ่งกระแทกลอยจนไม่เห็นร่องรอยเหมือนหินอุกกาบาต!

ผู้ฝึกปราณบางส่วนที่ยังไม่ทันเริ่มเคลื่อนไหวบนชายฝั่งทะเลหมากดาราต่างพากันสูดหายใจเฮือก ท่าทางเหมือนเห็นผีตัวเป็นๆ

ตูม!

กระบองเหล็กสีดำเมื่อมที่ซัดออกมาถูกเก็บไปแล้ว ตกสู่กลางมือเงาร่างสูงใหญ่กำยำปานภูเขาลูกหนึ่ง จากนั้นก็อันตรธานลับไป

เพียงชั่วอึดใจ กลิ่นอายศักดิ์สิทธิ์บีบคั้นผู้คนที่ลอยคลุ้งกลางอากาศก็หายลับตามไปด้วยเช่นกัน

เงาร่างสูงใหญ่นี่คือชายหนุ่มคนหนึ่ง ผิวสีทองแดง ใบหน้าหยาบกระด้าง คิ้วหนาราวกับหมึก ดวงตาใหญ่และทอประกาย

สิ่งที่แปลกประหลาดยิ่งคือเขาสวมชุดหนังสัตว์ เรือนผมยาวดกดำยุ่งเหยิง ผิวบริเวณไหล่แขนที่โผล่เปลือยออกมาราวกับหินผาก้อนแล้วก้อนเล่าก็ไม่ปาน!

เขายืนอยู่ตรงนั้น ดุจดั่งคนป่าเถื่อนจากถิ่นทุรกันดารดั้งเดิม แฝงกลิ่นอายบ้าระห่ำที่พาให้ผู้คนใจสั่นออกมา

เวลานี้สายตาทุกคู่ล้วนไปอยู่ที่ร่างชายหนุ่มชุดหนังสัตว์คนนี้ สีหน้าเจือแววตกใจแกมสงสัย อยากรู้อยากเห็น และเคร่งขรึม

หลินสวินและเซียวชิงเหอย่อมไม่ต่างกัน

ครั้งนี้พวกเขาสามารถหลบเลี่ยงภัยได้ ยังต้องขอบคุณความช่วยเหลือจากชายหนุ่มชุดหนังสัตว์คนนี้อย่างมาก

เพียงแต่ไม่รอให้พวกเขาแสดงความขอบคุณ ชายหนุ่มเงาร่างสูงใหญ่นั้นก็ปลดปล่อยกลิ่นอายป่าเถื่อนบ้าคลั่งทั่วร่าง เอ่ยปากกล่าวเสียงดังกระหึ่ม “ข้าชื่ออาหลู่ อยากไปเข้าร่วมการแข่งขันกระดานยอดมกุฎรุ่นเยาว์ หากในมือพวกเจ้ามีแผนภาพลับนำทางก็พาข้าไปด้วย หากไม่มีก็ช่างเถิด”

เสียงของเขาก้องกระหึ่มดั่งฟ้าคำราม คำพูดไม่มีอ้อมค้อม ตรงไปตรงมายิ่ง

“เจ้าก็อยากเข้าร่วมการประลองกระดานยอดมกุฎรุ่นเยาว์ด้วยหรือ”

เซียวชิงเหอเบิกตากว้าง ยากจะเชื่อได้ เจ้าหมอนี่ใช้กระบองเดียวก็สามารถกระแทกราชันอมตะเคราะห์ขั้นสองลอยลิ่วแล้ว ยังต้องวิ่งแจ้นมาร่วมสนุกถึงที่นี่ด้วยหรือ

อาหลู่เกาหัวแกรกๆ กล่าวด้วยความสงสัยว่า “ปีนี้ข้าเพิ่งอายุสิบเก้า ทำไมจะเข้าร่วมไม่ได้”

สิบเก้า!?

เสียงสูดหายใจเฮือกดังขึ้นแถวนั้นอีกครั้ง พูดตามตรง ก่อนหน้านี้พวกเขาต่างคิดกันว่าเจ้าคนบึกบึนคนนี้เป็น ‘ผู้อาวุโส’ คนหนึ่งเสียอีก ไหนเลยจะคาดคิดว่าจะยังเด็กถึงเพียงนี้!

และเวลานี้หลังจากกลับสู่ความเยือกเย็น หลินสวินเพิ่งสังเกตว่าถึงแม้กลิ่นอายรอบตัวอาหลู่คนนี้จะกร้าวแกร่งยิ่ง แต่ยังไม่ก้าวเหนือระดับกระบวนแปรจุติ บนตัวก็ไม่ได้มีอานุภาพเฉพาะตัวอันเป็นส่วนหนึ่งของระดับราชันด้วยซ้ำ

“แต่เมื่อครู่เหตุใดใช้กระบองเดียวเจ้าก็ซัด…” เซียวชิงเหออึ้งงัน รู้สึกว่าสมองใช้งานไม่ค่อยได้อยู่บ้าง

ไม่รอให้พูดจบอาหลู่ก็กลอกตา แสยะปากยิ้มกล่าวว่า “เจ้านี่ช่างปัญญาอ่อนเสียจริง นั่นคืออานุภาพ ‘กระบองกระดูกมังกร’ ของข้า ไม่ใช่พลังของตัวข้าเองเสียหน่อย”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์