หลินสวินไม่มีทางลืมวาจาที่เขากล่าวในแดนฐิติประจิมตอนนั้น
สำหรับเผ่านี้ หลินสวินรังเกียจถึงขีดสุดและแค้นฝังหุ่นจริง ใช้เพียงคำว่าชื่อเสียงเลวร้าย ก่อกรรมมากมาย ไร้มโนธรรมมาบรรยายยังไม่พอ
ด้วยเหตุนี้ยามสังหารชายชุดดำนี่ วิธีการที่หลินสวินใช้จึงเผด็จการและนองเลือดเป็นพิเศษ
ละแวกใกล้เคียงพลันกระสับกระส่าย ผู้กล้าไม่น้อยต่างเผยสีหน้าหวาดผวา ถูกฉากนี้สั่นสะเทือน
“วิปริตจริงๆ แม้เป็นบุคคลแห่งยุคก็ไม่อาจแกร่งเช่นนี้กระมัง” มีคนกล่าวเสียงสั่น
ต่อสู้ถึงตอนนี้ เหล่าผู้กล้าที่ล้มตายในมือหลินสวินอย่างต่ำมีมากถึงหลายสิบคน ทั้งในหมู่บุคคลแห่งยุคยังมีเจ็ดแปดคนถูกหลินสวินสังหาร
ทว่าแต่ต้นจนจบหลินสวินล้วนไม่บาดเจ็บ!
บนแท่นมรรค หลินสวินไม่มีความคิดหยุดมือ เคลื่อนกวาดศัตรูต่อเนื่อง
“เจ้ากล้า!”
ชายหนุ่มชุดหรูคนหนึ่งร้องตกใจ สังเกตเห็นว่าหลินสวินพุ่งเข้ามา ทำให้เขาอกสั่นขวัญแขวน
“เจ้าโง่!” หลินสวินสีหน้าเยียบเย็น ชายเสื้อเขาพลิ้วไหว ผมดำแผ่สยาย ดวงตาทั้งสองล้ำลึกดุจหุบเหวสยบผู้คน
ตูม!
ขณะเอ่ยปากเขาพลันซัดฝ่ามือหนึ่งออกไป
ชายหนุ่มชุดหรูกระโจนถอย ร่างกายพริบวาบไหวเคลื่อน ตวาดเดือดดาลไปพร้อมกัน “เจ้ากำลังเรียกหายนะใส่ตัว แม้ไร้คู่ต่อกรที่นี่ แต่เมื่อถึงโลกภายนอกต้องตายแน่ ต้องถูกสังหารทิ้ง!”
เสียงฟุ่บดังสนั่น เสียงเขาเพิ่งแผ่วลง ลำคอก็ถูกดาบหักตัดขาดฉับพลัน ศีรษะที่เลือดไหลหลั่งปลิดลอยกลางอากาศ
“น่าชังนัก!”
คนอื่นสีหน้าคล้ำเขียว ในดวงตาเปี่ยมโทสะและเกลียดชัง เดิมต้องเป็นพวกเขาล้อมปราบศัตรู ไหนเลยจะคิดว่ากลับถูกอีกฝ่ายซึ่งตัวคนเดียวทยอยสังหาร
นี่ทำให้ใครต่างไม่คาดไม่ถึง เป็นการโจมตีหนักหน่วงเหลือเกิน
“เทพมารหลิน เจ้าควรรู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไร ไม่ก้มหัวโดยดีแต่กลับกระทำการป่าเถื่อน นี่มีแต่จะทำให้เจ้าตายอนาถยามหวนคืนโลกภายนอก!”
พวกเขาข่มขู่
“ผู้สืบทอดสำนักอย่างพวกเจ้าไม่ขายหน้าแย่รึ! ลงมือพร้อมกันยังทำอะไรข้าไม่ได้ บัดนี้ถูกข้าซัดพินาศ ไม่รู้จักยำเกรงยังกล้าประกาศศักดาข่มขู่ อาศัยคนอย่างพวกเจ้าคู่ควรกับคำว่าผู้กล้ารึ”
หลินสวินคนเดียวขวางอยู่บนแท่นมรรคดั่งจอมเทพมาร กดดันจนผู้คนปิ่มจะหายใจไม่ออก
ไม่ว่าผู้แข็งแกร่งที่อยู่ห่างจากแท่นมรรคไม่ไกล หรือพวกมากฝีมือเจนจัด และข้ารับใช้ที่เชิงเขา สีหน้าต่างผิดแปลกไม่น่าดู ถูกเด็กหนุ่มไร้สำนักไร้พรรคคนหนึ่งตำหนิเช่นนี้คือสิ่งที่พวกเขาไม่เคยเจอมาก่อน ในใจต่างโกรธแค้นอัดอั้นหาใดเปรียบ
“วันนี้มีข้าหลินสวินอยู่ที่นี่ หนูขี้ขโมยอย่างพวกเจ้าอย่าหวังได้ครองที่นี่สักคน!” วาจาหลินสวินเยียบเย็นอหังการ เปี่ยมมาดแห่งเทพมาร
“คุยโวไม่กระดาก ฆ่า!”
มีคนคำรามกราดเกรี้ยว บุกตะลุยเข้าไปพร้อมคนอื่นๆ
พวกเขายากลงจากหลังเสือ ไม่มีหนทางถอยแล้ว แม้หลินสวินแข็งแกร่งถึงขั้นทำให้พวกเขาหวาดกลัวและพรั่นพรึง แต่พวกเขาได้แต่ต้องสู้สุดตัว!
ถึงอย่างไรก็ไม่มีทางตายจริง
หากสามารถผลาญพลังกายหลินสวินจนหมด ทำให้เขาพ่ายแพ้ ไยจะไม่ถือว่าเป็นชัยชนะ
ทว่าน่าเสียดาย ผู้กล้าเหล่านี้หาใช่คู่ต่อสู้ของอีกฝ่าย ถูกหลินสวินสังหารจนเลือดหลั่งรินราวกระแสธาร ศีรษะมนุษย์เกลือกกลิ้ง
ผู้แข็งแกร่งกลุ่มนี้มีประมาณร้อยกว่าคน เป็นขุมอำนาจสุดท้ายที่ปีนสู่ยอดเขาครานี้ ขอบข่ายเรียกได้ว่ายิ่งใหญ่ที่สุด คนเยอะกำลังมาก
แต่ผลกลับไม่พลิกโผ ภายใต้การสังหารหมู่จากดาบหักของหลินสวิน โลหิตสาดกระจาย เสียงร้องโหยหวนสะท้อนก้องทุกเมื่อ
บนศิลามังกรขด โชควาสนามหามรรคหลากสายคล้ายไส้เดือนตัวเล็กกำลังรวมตัวและมากขึ้นราวติดปีก เกล็ดมังกรหนาแน่นที่เปล่งประกาย คือแสงแวววาวอันเป็นเอกลักษณ์ของโชควาสนามหามรรค
กระทั่งต่อมาบริเวณหางมังกรขดพลันส่องประกาย ปรากฏแสงแวววาวศักดิ์สิทธิ์ทองอร่าม เปี่ยมจิตวิญญาณดั่งภาพมายา
นี่คือลักษณ์ประหลาดที่เกิดจากการสั่งสมรวบรวมโชควาสนามหามรรคถึงระดับหนึ่ง น่าตื่นตาอัศจรรย์ยิ่ง
“ช่างเป็นปาฏิหาริย์! ถึงขั้นทำให้ ‘หางมังกร’ ส่องประกายระหว่างครองภูผา ในอดีตที่ผ่านสิ่งนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน!”
ณ เชิงเขา ผู้อาวุโสมากประสบการณ์คนหนึ่งตกใจไหวหวั่นไม่หยุด
ละแวกใกล้เคียงเองก็มีเสียงอื้ออึง คนมากมายตกตะลึงอ้าปากค้างยากจะเชื่อ
ศิลามังกรขดลักษณะคล้ายมังกรกระหวัดหมอบ แบ่งออกเป็นหางมังกร กรงเล็บมังกร ตัวมังกร หัวมังกร หนวดมังกร เขามังกร ตามังกรเจ็ดส่วน
เมื่อโชควาสนามหามรรคที่ได้รับรวบรวมถึงระดับหนึ่งก็สามารถทำให้ส่วนหนึ่งของ ‘มังกรขด’ เกิดแสงประกายศักดิ์สิทธิ์!
นี่เป็นตัวตัดสินความสูงต่ำของอันดับระหว่างการประลอง ‘ชิงโชควาสนา’ !
โชควาสนายิ่งมาก ชิ้นส่วนมังกรขดที่เกิดแสงศักดิ์สิทธิ์ก็ยิ่งเยอะ แน่นอนว่าอันดับก็ยิ่งสูงขึ้นไปเช่นกัน
แต่ในช่วงเวลาที่ผ่านมายังไม่เคยปรากฏเหตุการณ์เหมือนหลินสวินมาก่อน แค่ระหว่าง ‘ครองภูผา’ ก็ทำให้ส่วนหนึ่งของศิลามังกรขดเกิดแสงศักดิ์สิทธิ์ได้!
นี่เรียกได้ว่าเป็นการเปิดหน้าประวัติศาสตร์ ไร้ใดเปรียบตั้งแต่อดีตจวบจนปัจจุบัน!
“นี่ไม่เหนือความคาดหมาย เปลี่ยนเป็นผู้แข็งแกร่งอื่นที่มีความเชี่ยวชาญลึกซึ้งระดับ ‘เข้าถึงชำนาญ’ ในขอบเขตมกุฎ ตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกันก็สามารถทำได้ถึงขั้นนี้”
มีคนนิ่งสงบยิ่ง “ได้แค่พูดว่า เทพมารหลินอาศัยเหล่าศัตรู สถานการณ์ไม่ธรรมดาจึงมีโอกาสสร้างปาฏิหาริย์นี่”
เยี่ยนจั่นชิวลอบพยักหน้า วาจานี้ไม่เท็จเทียม
จากที่เขาดู โชควาสนาที่หลินสวินได้รับตอนนี้สามารถจัดอยู่ในอันดับหนึ่งของยอดเขาสามสิบหกลูกได้จริง
แต่สุดท้ายนี่ก็เป็นเพียงการ ‘ครองภูผา’
ยามศึกชิงโชควาสนาปะทุขึ้น โชควาสนาที่หลินสวินครองยิ่งมากก็ยิ่งพ่าย โชควาสนาที่ต้องสูญเสียไปก็จะยิ่งมีมาก!
ท้ายที่สุดมีความเป็นไปได้สูงว่าจะกลายเป็นการลำบากทำแทนคนอื่น
หืม?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์