ไม่ว่าพรสวรรค์เป็นเลิศแค่ไหน และไม่ว่าความคิดลึกซึ้งเท่าใด คนที่สามารถเด่นตระหง่านบนกระดานยอดมกุฎรุ่นเยาว์ครั้งนี้ล้วนเป็นคนหนุ่มสาวที่อายุไม่เกินสามสิบปี
ช่วงเวลานี้ใครเล่าจะไม่สะทกสะท้าน
ในฐานะผู้กล้าที่ก้าวสู่ขอบเขตมกุฎ เหนือกว่าคนรุ่นเดียวกัน แน่นอนว่าต่างหยิ่งทะนงในศักดิ์ศรี การแย่งชิงโชควาสนาครานี้ ไม่ว่าใครล้วนต้องทุ่มสุดกำลัง
ไม่มีใครอยากอยู่ใต้คนอื่นแน่!
การแย่งชิง ก็คือการชิงพลานุภาพสะท้านฟ้าสะเทือนดิน!
…
วู้ม!
ทันใดนั้นเสียงแปลกประหลาดพลันดังขึ้น ถาโถมปั่นป่วนฟ้าดิน
ภายใต้สายตาที่จับจ้องนับไม่ถ้วน ในเส้นทางประกายทองสามสิบหกสายนั่น มีสองสายที่กำลังเกิดคลื่นดุจกระแสวารี
เวลาต่อมายอดมกุฎรุ่นเยาว์ที่ยืนอยู่หน้าเส้นทางประกายทองสองสายนี้ ก็ถูกเคลื่อนย้ายไปบนสนามประลองตรงกลาง
แบ่งเป็นหนึ่งชายหนึ่งหญิง
ชายหนุ่มร่างกายสูงโปร่ง อานุภาพพลังดั่งหิมะน้ำแข็ง แผ่ความหนาวเย็นเสียดกระดูก
เขามาจากลัทธิเทพต้นกำเนิดแห่งแดนชัยบูรพา นามเลี่ยเหวินเหลียง
ส่วนหญิงสาวสะโอดสะองราวดอกบัวกลางสระ หน้าตาสุภาพ ทั่วร่างห้อมล้อมแสงมรรคสีม่วงอ่อนหลากสายเสมือนมายา
นางมาจากสำนักเอกอุ นามกู่เหลียงผิง
ทั้งสองต่างเป็นบุคคลแห่งยุคที่หลินสวินไม่รู้จัก แต่พวกเขาสามารถครองยอดเขากลายเป็นหนึ่งในสามสิบหกยอดมกุฎรุ่นเยาว์ได้ ก็เพียงพอพิสูจน์ความแข็งแกร่งของพวกเขาแล้ว
ไม่นานการต่อสู้ปะทุขึ้นอย่างไม่ผิดจากที่คาด ในสนามประลองประกายศักดิ์สิทธิ์ตัดสลับไปมา แสงสมบัติจู่โจม ทันทีที่เริ่มต้นก็ปรากฏสถานการณ์ต่อสู้ดุเดือดสะเทือนใต้หล้า
ณ เชิงเขา เสียงร้องประหลาดใจดังไม่หยุด
บนยอดเขา หลินสวินและเหล่ายอดมกุฎรุ่นเยาว์ต่างกำลังจับตามองใกล้ชิด
ไม่นานนักการต่อสู้ก็ปิดฉาก ตัดสินผลแพ้ชนะ
กู่เหลียงผิงอาศัยข้อได้เปรียบเล็กน้อย ซัดเลี่ยเหวินเหลียงจนแพ้พ่าย ทำให้เขาบาดเจ็บสาหัสเจียนตาย
ขณะเดียวกันบนศิลามังกรขดที่เดิมเป็นของเลี่ยเหวินเหลียง พลังโชควาสนามหามรรคดุจมายาสายหนึ่งพุ่งทะยาน โถมสู่ศิลามังกรขดที่กู่เหลียงผิงครอบครอง
อีกทั้งภูเขาเทพไร้มรณะยังมอบรางวัลโชควาสนามหามรรคต่างหากแก่กู่เหลียงผิงผู้ได้ชัยชนะคนนี้
การแย่งชิงโชควาสนาเป็นเช่นนี้นี่เอง!
ไม่เพียงยึดโชควาสนามหามรรคของคู่แข่ง ยังสามารถได้รับรางวัลจากภูเขาเทพไร้มรณะด้วยเหตุนี้
‘ไม่มีสมบัติอริยะและพลังต้องห้ามเป็นไพ่ตาย ที่ประลองกันคือพลังต่อสู้ที่แท้จริงของแต่ละคน เลี่ยเหวินเหลียงนั่นแข็งแกร่งยิ่ง แต่พลังมหามรรคที่ครอบครองกลับด้อยกว่ากู่เหลียงผิงเสี้ยวหนึ่ง’
หลินสวินใคร่ครวญ
ยอดมกุฎรุ่นเยาว์คนอื่นๆ ก็กำลังวิเคราะห์พลังต่อสู้ของกู่เหลียงผิงเช่นกัน พิจารณาว่าหากตนต้องประลองกับหญิงสาวผู้นี้ควรรับมือและชิงชัยอย่างไร
ไม่ช้าการประลองรอบที่สองก็เริ่มต้น ผู้ลงสนามคือโก่วเหยียนเจิน
คู่ต่อสู้ของเขาคือชายหนุ่มนามเกาซานไห่ มาจากสำนักยุทธ์เมฆาสวรรค์แห่งแดนฐิติประจิม พลังต่อสู้แข็งแกร่งยิ่ง
ตูม!
ทันทีที่การต่อสู้เริ่มต้น เกาซานไห่ก็เรียกสมบัติออกมาแล้วพุ่งเข้าไปเต็มกำลัง เห็นชัดว่าเขารู้ถึงความน่ากลัวของโก่วเหยียนเจินดี
โก่วเหยียนเจินยิ้มเหี้ยมเกรียม ถือแส้ยาวสีเลือดรวมเจ็ดสิบสองปล้องดุจกระดูกสันหลังสีโลหิต ภายใต้การสะบัดครั้งเดียว สนามประลองพลันเกิดเสียงสะเทือนเลือนลั่นเสียดหูหาใดเปรียบ
เงาร่างเขาอหังการฮึกเหิม แส้โลหิตทะยานฟ้าปล่อยคลื่นมหามรรคน่าหวาดกลัว เพียงแค่สิบกว่ากระบวนท่าก็กำราบเกาซานไห่ได้
ในกระบวนที่สี่สิบกว่า เกาซานไห่ถูกแส้เฆี่ยนจนแผลเต็มตัว กล้ามเนื้อกระดูกแตกหักเพิ่มมากขึ้น
ในกระบวนที่หกสิบกว่า เกาซานไห่ถูกฟาดจนศีรษะ ร่างกายต่างถูกแส้โลหิตฟาดกระจุยอย่างแข็งกร้าว
ซ่า…
ฝนโลหิตโปรยปราย อาบไล้เงาร่างโก่วเหยียนเจิน ขับเน้นจนเขาประหนึ่งมารร้ายกระหายเลือด น่าหวาดกลัวหาใดเปรียบ
“แข็งแกร่งเกินไปแล้ว!”
“เจ้าลูกหมาทมิฬนี่หยั่งรู้มหามรรค ‘อสูรมายาทมิฬ’ แล้ว นี่เป็นถึงพลังมหามรรคหายากที่จัดอยู่ในอันดับมหามรรคเทียมฟ้า อานุภาพอัศจรรย์อำมหิต”
“เผ่าสุนัขสวรรค์มายาทมิฬแม้ทำให้ผู้คนรังเกียจ แต่ไม่อาจไม่ยอมรับว่ารากฐานของเผ่านี้ช่างแข็งแกร่งยิ่ง โก่วเหยียนเจินนี่ต้องเป็นพวกคนแกนหลักระดับ ‘บั่นหมื่นเศียร’ ของเผ่าแน่”
ตรงเชิงเขาเสียงวิพากษ์วิจารณ์ดังต่อเนื่อง ล้วนถูกท่าทางต่อสู้อันเหี้ยมโหดดุดันนั่นของโก่วเหยียนเจินทำเอาตระหนก
หมายเอาชนะผู้แข็งแกร่งที่เป็นยอดมกุฎรุ่นเยาว์เหมือนตนนั้นไม่ง่าย
คิดสังหารอีกฝ่ายยิ่งยากเสียยิ่งกว่ายาก
โก่วเหยียนเจินกลับสามารถทำได้ถึงขั้นนี้ ล้วนพิสูจน์โดยไม่ต้องสงสัยแล้วว่า พลังต่อสู้ที่เขามีเพียงพอดันตนขึ้นสู่แนวหน้าในการแข่งขันชิงโชควาสนาครานี้!
‘ไม่แปลกที่กล้าจองหองอำมหิตเช่นนี้ ที่แท้ก็พอมีฝีมือ’
หลินสวินนัยน์ตาวาววาบ เขาเก็บรายละเอียดของการต่อสู้ไว้หมด ถือว่าเข้าใจศักยภาพที่แท้จริงของโก่วเหยียนเจินโดยคร่าวๆ
“หลินสวิน! เจ้าน่าจะรู้ว่าคนที่ข้าอยากสังหารที่สุดก็คือเจ้า ทางที่ดีเจ้าล้างคอรอข้าได้เลย!”
ทันใดนั้นโก่วเหยียนเจินพลันส่งเสียงตวาด นัยน์ตาแดงก่ำฉายประกายเหี้ยมโหด
จากนั้นเขาถูกเคลื่อนย้ายกลับแท่นมรรคบนยอดเขา ศิลามังกรขดข้างกายเขาเพิ่มรางวัลโชควาสนามหามรรคเช่นกัน
“ดูสิ เมื่อครู่ข้าพูดอะไรได้อย่างนั้น เทพมารหลินนี่ต่อให้ดันตนขึ้นสู่กระดานยอดมกุฎรุ่นเยาว์ได้ ก็ต้องถูกหมายหัวและกดดัน!”
บริเวณเชิงเขา ผู้แข็งแกร่งไม่น้อยมีความสุขบนความทุกข์ของคนอื่น
สีหน้าหลินสวินราบเรียบ ไม่สะทกสะท้าน
การชิงโชควาสนาครั้งนี้ คนที่เขาอยากสังหารที่สุดมีสองคน คนแรกคือชิงเหวินเจวี้ยน คนที่สองก็คือโก่วเหยียนเจินนี่!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์