“เดรัจฉานเฒ่า ใช้พลังระดับอริยะแสดงพฤติกรรมเดรัจฉาน เจ้ายังมีหน้ามาพูดถ้อยคำหน้าด้านไร้ยางอายเช่นนี้อีก!”
นัยน์ตาดำของหลินสวินเย็นเยียบ เพลิงโทสะสุมทรวง
เขาไม่อาจประนีประนอม และยิ่งเป็นไปไม่ได้ที่จะยอมให้จับโดยลดี เพราะการก้มหัว สิ่งที่แลกมานั้นย่อมเป็นความอัปยศที่มากยิ่งกว่าเดิม รวมถึงความตายอย่างแน่นอน!
เจ้าเฒ่าพวกนี้ล้วนลงมือโดยไม่สนศักดิ์ศรี หากไม่ฆ่าตนมีหรือจะพอใจ!
“ฮ่าๆ ปากคมจัดจ้าน แค่มดปลวกตัวเล็กจ้อยตัวเดียว คิดว่าหยิบยืมพลังผนึกต้องห้ามแล้วจะสามารถยืนหนึ่งใต้หล้าได้หรือ ยังห่างไกลลิบลับ!”
เวลานี้อริยะเซวี่ยถูทนไม่ไหวแล้ว ชิงลงมือก่อน ตบหนึ่งฝ่ามือลงมาผ่านระยะทางไกลโพ้นที่ขวางกั้นนี้ ราวกับผู้อาวุโสสั่งสอนลูกหลานที่ไม่อยู่ในโอวาท ข่มขวัญกดหัว เจือกลิ่นอายหมิ่นแคลนไม่รู้จบ
“สหายยุทธ์ เจ้าช้าก่อน บนตัวมดตัวน้อยนี่ยังมีศุภโชคอยู่ อย่าเพิ่งรีบเอาถึงตาย!” เต้าคุนและเมี่ยวหวาต่างลุกลนโพล่งออกมา ดูเหมือนหวังดี แต่ความเป็นจริงเจตนามุ่งร้ายอย่างยิ่ง
ตูม!
หลินสวินควบคุมพลังผนึกต้องห้าม เริ่มลงมือต้านทาน
ชั่วพริบตาประกายดาราดั่งกระแสน้ำ ประกายแสงและเกลียวคลื่นนานัปการพุ่งทะยานขึ้นไปพร้อมกัน สกัดกั้นการโจมตีครั้งนี้เอาไว้
เหนือความคาดหมาย พอเห็นภาพนี้กลับทำให้เหล่าอริยะพากันตาลุกวาว กล่าวว่า “เจ้าเด็กนี่สามารถขับเคลื่อนพลังผนึกต้องห้ามของทะเลหมากดาราได้จริงๆ ด้วย นี่ไม่ใช่ว่าหากจับเขาได้ ก็จะได้รับเคล็ดวิชาควบคุมผนึกต้องห้ามทะเลหมากดาราหรือ”
ทะเลหมากดาราถูกค่ายกลใหญ่วัฏจักรดาราปกคลุม นับแต่อดีตจนปัจจุบัน แม้แต่อริยะผลีผลามบุกเข้าไปในนั้นก็ยังต้องประสบภัยอันตราย
แต่ถ้าหากสามารถควบคุมปริศนาของค่ายกลใหญ่วัฏจักรดาราได้… นั่นก็เท่ากับควบคุมค่ายกลต้องห้ามสูงสุดอย่างหนึ่งได้เชียว!
เหล่าอริยะใจเต้นโครมครามทันที ยิ่งคิดก็ยิ่งชอบใจ รู้ดียิ่งว่าคุณค่าของการควบคุมค่ายกลต้องห้ามสูงสุดเช่นนี้มีมากมายเพียงใด!
“คุกเข่าลง!” ฟางหลิงซู่แค่นเสียงเย็น มือใหญ่ผอมแห้งเหี่ยวย่นยื่นออก กดสยบหลินสวินผ่านห้วงอากาศ เสมือนภูเขาเทพที่เคลื่อนย้ายมาเยือน หมายจะบีบบังคับให้หลินสวินคุกเข่าลงกับพื้น
“ไสหัวไป!”
หลินสวินตะโกนลั่น ประกายดาราไร้ที่สิ้นสุดโผล่ขึ้นจากผิวทะเล พลุ่งพล่านพลิกตลบ ครอบฟ้าบดบังตะวัน
เสียงสะเทือนยิ่งใหญ่ดังขึ้นหนึ่งครา เบื้องหน้าหลินสวินกรีดก้องไม่หยุด พลังน่าสะพรึงกำลังปะทะกันและกัน หากไม่ใช่เพราะร่างของเขาอยู่ภายใต้การกำบังของเกลียวคลื่นผนึกต้องห้าม เขาคงถูกสยบกดลงกับพื้นอย่างแน่นอน
“สหายยุทธ์ฟาง เจ้าระห่ำเช่นนี้ หากเผลอไปสังหารเจ้ามดนี่เข้าจะทำอย่างไร ข้าไม่อยากให้เจ้าเด็กนี่ตายทั้งอย่างนี้หรอกนะ ถึงแม้ชีวิตของเขาจะต้อยต่ำ แต่ศุภโชคบนตัวเขาล้ำค่ายิ่งนัก”
กลางห้วงอากาศ อริยะฝูหยาเอ่ยปากเนิบนาบ เงาร่างเขาเลือนราง ลวงตาพร่ามัว ประหนึ่งไม่มีตัวตนอยู่บนโลก แต่คำพูดกลับดูหมิ่นที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย
เพลิงโทสะในใจหลินสวินกำลังคุโชน อดหัวเราะเสียงเย็นไม่ได้ “อริยะขี้หมูขี้หมาอะไร ข้าดูแล้วก็แค่เดรัจฉานเฒ่ากลุ่มหนึ่งที่สมควรโดนพันดาบหมื่นแล่!”
“มดก็คือมด ไม่รู้ฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ!”
เหล่าอริยะต่างสีหน้าเรียบเฉย ไม่ไหวติง
ตูม!
อริยะอวี่หมิงลงมือแล้ว รวบนิ้วกดจุดหนึ่งกลางห้วงอากาศ
ทันใดนั้นพลังดรรชนีพลันควบรวม เปี่ยมด้วยพลังกฎระเบียบอริยมรรค พุ่งไปทางหว่างคิ้วของหลินสวินประหนึ่งนิ้วเดียวทะลวงฟ้า
ตูม!
ภาพน่าสะพรึงอุบัติขึ้น พลังผนึกต้องห้ามของทะเลหมากดาราไม่อาจสกัดกั้นไหว ถูกพลังดรรชนีสายนั้นแหวกออกอย่างง่ายดายปานหักทำลายหญ้าแห้งไม้ผุ!
หลินสวินไม่ลังเลสักนิด เรียกเจดีย์สมบัติไร้อักษรมากำบังอยู่เบื้องหน้า ตัวเจดีย์มีรัศมีแสงศักดิ์สิทธิ์ทองอร่ามไหลเวียน แผ่ไพศาลและเจิดจ้า
ท้ายที่สุดถึงแม้ดรรชนีนี้จะถูกสกัดเอาไว้ แต่หลินสวินกลับถูกโจมตี เลือดลมทั่วร่างปั่นป่วน อึดอัดจนแทบกระเลือด
เขาลอบทอดถอนใจในใจ อย่างมากที่สุดเขาทำได้เพียงหยิบยืมพลังไม่ถึงหนึ่งในพันส่วนของค่ายกลวัฏจักรดารา ย่อมเป็นไปไม่ได้ที่จะต้านทานพลังของอริยะทั้งหกได้
ยิ่งกว่านั้นอริยะเหล่านี้ยังเจ้าเล่ห์อย่างที่สุด ไม่ได้เข้าสู่ทะเลหมากดาราสักนิด เมื่อเป็นเช่นนี้แม้หลินสวินอยากหยิบยืมค่ายกลนี้โจมตีกลับ ก็เห็นได้ชัดว่าพลังไม่เพียงพอ
ว่ากันถึงที่สุดแล้ว ก็เพราะเขาประเมินความอดทนของขุมอำนาจเหล่านั้นสูงไป จนส่งผลให้สันนิษฐานผิดพลาด คิดไม่ถึงเลยสักนิดว่าเพื่อจัดการกับตน อีกฝ่ายจะส่งอริยะหกคนออกโรงอย่างไม่เสียดาย!
“เป็นเจดีย์สมบัติองค์นั้น!”
หน้าชายฝั่งทะเล เหล่าอริยะตาลุกวาว
“โอ้ น่าทึ่งนัก สร้างจากเหล็กเทพศุภโชคจริงๆ ด้วย แม้จะอยู่ในยุคบรรพกาลก็เรียกได้ว่าเป็นสมบัติชั้นสูงในหมู่ชั้นสูง มูลค่าประเมินไม่ได้!”
“ดีๆๆ! ครั้งนี้ไม่ได้มาเสียแรงเปล่า!”
พวกฟางหลิงซู่ต่างรู้สึกปิติยินดี มองหลินสวินราวกับไร้ตัวตน ความคิดทั้งหมดล้วนไปอยู่ที่ศุภโชคและสมบัติในมือหลินสวินทั้งสิ้น
นี่เป็นการดูเบาอย่างที่สุดโดยไม่ต้องสงสัย ในสายตาอริยะ แม้หลินสวินจะขึ้นเป็นที่หนึ่งในกระดานยอดมกุฎรุ่นเยาว์ แต่กลับเทียบชั้นไม่ติดกับศุภโชคและสมบัติในมือเขา ที่ดึงดูดยิ่งกว่า
“อย่าชักช้าเลย ลงมือพร้อมกันสยบเจ้าเด็กนี่!”
อริยะเมี่ยวหวานัยน์ตาลุกโชน เริ่มจะอดใจไม่ไหวแล้ว เกรงว่ายิ่งนานไปอาจมีเหตุเปลี่ยนแปลงไม่คาดฝัน แทบทนไม่ไหวอยากตัดสินชะตาชีวิตหลินสวินเสียเดี๋ยวนี้
ตูม!
ชั่วขณะนี้เหล่าอริยะล้วนลงมือผ่านทะเลหมากดาราที่ขวางกั้น มือใหญ่สายแล้วสายเล่าร่วงหล่นกดอัดลงมาทางหลินสวิน
พลังค่ายกลวัฏจักรดารากำลังกู่ก้อง ปรากฏระลอกคลื่นประกายดาราน่าสะพรึง แหวกทึ้งห้วงอากาศ ต้านทานฝ่ามือใหญ่เหล่านี้
พรวด!
เพียงชั่วขณะเท่านั้นหลินสวินก้ถูกซัดสะเทือนจนกระอักเลือกอย่างหนัก ร่างเกือบแหลกกระจุยคาที่
แม้ค่ายกลวัฏจักรดาราจะเหนือธรรมดา แต่ไหนเลยจะสามารถสกัดกั้นการโจมตีร่วมกันของอริยะทั้งหกได้ แม้ยังมีเจดีย์สมบัติไร้อักษรคอยกำบัง ก็ยังทำให้หลินสวินได้รับบาดเจ็บสาหัสอยู่ดี
สวบ!
หลินสวินกลายรางเป็นแสงเคลื่อนสายหนึ่ง พุ่งปราดไปยังส่วนลึกยิ่งกว่าของทะเลหมากดาราอย่างรวดเร็ว
แต่การขัดขืนเช่นนี้ย่อมเสียแรงเปล่า เพียงชั่วพริบตาเท่านั้น เส้นทางเบื้องหน้าก็ถูกตัดขาด พาให้หลินสวินไม่เหลือทางให้ถอย!
บนชายฝั่งทะเล บรรดาอริยะต่างเรียบเฉยยิ่ง สีหน้านิ่งสนิท ไม่กลัวหลินสวินหนีไปสักนิด เพราะพลังของพวกเขาได้ล้อมกรอบไว้อย่างแน่นหนาตั้งแต่แรกแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์