ในประตูเมือง เดิมทีผู้คนขวักไขว่ไปมาคับคั่ง คึกคักอย่างที่สุด
แต่พอการโจมตีของผู้แข็งแกร่งระดับราชันสี่คนปะทุขึ้นนอกประตูเมือง เกิดความสะเทือนสะท้านขวัญราวกับฟ้าถล่มดินทลาย ทำให้ผู้ฝึกปราณในประตูเมืองต่างตกใจ สั่นเทิ้มไปทั้งตัว
บรรยากาศที่เดิมครื้นเครงคึกคักก็หายไป
ทุกสายตาล้วนมองมายังประตูเมือง
ที่ตรงนั้นมีเงาร่างหนึ่งยืนอยู่ หน้าอกถูกกรีดเปิดออก เลือดสดไหลพรูราวกับน้ำตก เหมือนสัตว์ปีศาจที่เพิ่งหลุดพ้นพันธนาการ กลิ่นอายที่แผ่ออกมารอบตัวทำให้ทุกคนต่างหวาดหวั่น
แน่นอนว่าคนผู้นี้คือหลินสวิน
ตอนนี้พวงแก้มของเขาซีดขาว ชุ่มไปด้วยเลือดและเหงื่อทั่วทั้งตัว หน้าอกถูกปราณกระบี่ของผู้แข็งแกร่งระดับราชันคนหนึ่งแทงทะลุ ทำให้เขาบาดเจ็บสาหัส
ปราณกระบี่นั่นน่ากลัวเกินไป เต็มไปด้วยพลังระดับราชัน แม้หลินสวินจะหลบเลี่ยงอันตรายมาได้ แต่ก็ยังบาดเจ็บรุนแรง
“รังเกียจที่ข้าสังหารคนไม่มากพอจริงๆ หรือ…”
ยามนี้ดวงตาดำของหลินสวินเยียบเย็นอย่างที่สุด ความเจ็บปวดรุนแรงบนร่างไม่สามารถแทนที่เพลิงโกรธซึ่งลุกโชนขึ้นในใจเขา
แค้น!
ความแค้นสลักลึกลงกระดูก!
ช่วงเวลาอันตรายแห่งความเป็นความตายที่ประสบเมื่อครู่นี้ ทำให้หลินสวินถูกยั่วโทสะอย่างสิ้นเชิง ราชันสี่คนลงมือพร้อมกันเพื่อเล่นงานเขาคนเดียว!
คิดว่าตนรังแกได้ง่ายจริงหรือ
หลินสวินกำหมัดแน่นเงียบๆ เส้นเลือดบนหลังมือปูดนูน!
หรือจะบอกว่า คิดว่าอาศัยผู้แข็งแกร่งระดับราชันแล้ว จะสามารถมองตนเป็นเนื้อปลาบนเขียงที่สามารถฆ่าได้ตามใจชอบหรือ
…
นอกประตูเมืองฝุ่นควันคละคลุ้ง ราชันสี่คนสีหน้าอึมครึม สายตาเย็นชา จ้องหลินสวินที่อยู่ด้านในประตูเมืองอย่างไม่ละสายตา
ผู้ฝึกปราณคนอื่นๆ ต่างอึ้งจนพูดไม่ออก
ไม่มีใครคิดว่าภายใต้สถานการณ์ที่จนหนทางเช่นนี้ หลินสวินยังสามารถหลุดรอดได้!
นั่นเป็นถึงบุคคลที่เพิ่งบรรลุระดับราชันสี่คนเชียวนะ ลงมือพร้อมกัน เพียงพอที่จะสยบผู้กล้าขอบเขตมกุฎทุกคนได้อย่างง่ายดาย
แต่ตอนนี้กลับปล่อยให้หลินสวินหนีเคราะห์ไปได้
นี่ดูเหลือเชื่อเกินไป ทำให้ยากจะเชื่อ
“ดันปล่อยให้เขาหนีไปได้… น่าอายจริงๆ”
อูหยวนเจิ้นพึมพำ เขาโกรธจนหน้าเขียว อยากจะพุ่งเข้าเมืองเสียเดี๋ยวนี้ แต่สุดท้ายเขาก็ทนเอาไว้
เมืองโบราณเผาเซียนมีพลังต้องห้ามชั้นหนึ่งโดยธรรมชาติ กดข่มระดับราชัน หากเข้าไปโดยพลากรจะต้องถูกพลังต้องห้ามสะท้อนกลับ
“พูดได้เพียงว่าเจ้าหมอนี่เจ้าเล่ห์เกินไป หากไม่ใช่เพราะสหายเผ่าสุนัขสวรรค์มายาทมิฬมองทะลุฐานะของเขา จะปล่อยให้เขาฉวยโอกาสเข้าเมืองไปได้อย่างไร”
ผมสีเขียวทั่วศีรษะของซางชงแห่งเผ่าวิญญาณสมุทรพลิ้วไหว สีหน้าก็อึมครึมอย่างที่สุดเช่นกัน
“เขาถูกปราณกระบี่ของข้าโจมตีจนบาดเจ็บสาหัสแล้ว แม้เข้ามืองไปก็ยากจะรอดชีวิต!”
เมี่ยวเฉินแห่งสำนักยุทธ์นครนิลกัดฟัน ในแววตาแผ่ประกายหนาวเย็น แทบอยากจะเลือกใครสักคนมากัดเพื่อระบายอารมณ์
เดิมทีนางเป็นคนที่มีโอกาสสังหารหลินสวินที่สุด แต่กลับคิดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายไม่เพียงใจเหี้ยมกับศัตรู กับตัวเองก็ยังเหี้ยมยิ่งกว่า ไม่คิดจะหลีกหนี ยอมบาดเจ็บหนักเพื่อคว้าโอกาสรอดเพียงเสี้ยวเดียว
จวบจนกระทั่งตอนนี้ นางเองยังไม่เข้าใจว่าการโจมตีที่ผ่าใส่พลังจิตของตนมาจากหลินสวินหรือคนอื่น
หากไม่เป็นเช่นนี้ แม้หลินสวินสู้สุดชีวิต นางก็มั่นใจเต็มเปี่ยมว่าจะสังหารอีกฝ่ายได้
แต่เมื่อได้ยินคำพูดนี้ของนาง หวังอวิ๋นทงผู้สืบทอดลัทธิบูชาจันทร์ที่อยู่ข้างๆ พลันส่งเสียงคำรามยาว
“ทุกท่าน เทพมารหลินปรากฏตัวแล้ว ถูกพวกข้าโจมตีจนบาดเจ็บสาหัส เขาพ้นจากความตายแล้ว ตอนนี้อยู่ด้านในประตูเมือง เป็นโอกาสดีที่สุดในการสังหารเขา ทุกคนยังไม่ลงมืออีก?”
เสียงคำรามราวกับฟ้าร้องสะเทือนกลางฟ้าดิน ถึงขั้นกระจายไปยังท้องฟ้าเหนือเมืองโบราณเผาเซียนทั้งเมือง ทำให้แปดทิศสั่นไหว
ทันใดนั้นกองกำลังแต่ละขุมอำนาจใหญ่ที่กระจายตัวอยู่ในเมือง มีผู้แข็งแกร่งไม่รู้เท่าไหร่วางการกระทำในมือลง ต่างพุ่งออกมา
ถูกเตือนเช่นนี้ พวกอูหยวนเจิ้น เมี่ยวเฉิน ซางซงต่างตะโกนแจ้งข่าวบอกขุมอำนาจสำนักตัวเอง ให้ฉวยโอกาสนี้ล้อมโจมตีหลินสวิน!
เทพมารหลินที่แกล้วกล้าคนนี้ อาจสามารถทำให้ผู้ฝึกปราณคนใดๆ ในเมืองหวาดเกรง
แต่เทพมารหลินในตอนนี้บาดเจ็บสาหัสเจียนตายแล้ว เรียกได้ว่าไม่มีภัยคุกคามสักนิด เป็นโอกาสดีที่สุดในการสังหารเขา
หากรอให้ฟื้นตัว เช่นนั้นทุกอย่างก็สายเกินไปแล้ว!
ได้ยินเสียงตะโกนเหล่านี้ หลินสวินหันกลับมา ดวงตาดำเย็นเยียบถึงขีดสุด มองพวกอูหยวนเจิ้นเงียบๆ แวบหนึ่ง
จากนั้นก็หมุนตัวเดินไป
แม้เพียงสายตาเดียว แต่พวกอูหยวนเจิ้นต่างสะท้านในใจ สัมผัสได้อย่างฉับไวถึงไอสังหารในใจหลินสวิน
ทันใดนั้นบนใบหน้าของพวกเขายิ่งอึมครึมกว่าเดิม
พวกเขาในตอนนี้ล้วนบรรลุระดับราชันแล้ว ไม่สามารถเปรียบกับเมื่อก่อนได้อีกต่อไป เทพมารหลินนี่กลับยังกล้าข่มขู่เช่นนี้ ช่างไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง!
“สั่งการลงไป ปิดทางเข้าออกของเมืองโบราณเผาเซียน ให้เจ้าหมอนี่ติดปีกก็หนีไม่รอด!”
อูหยวนเจิ้นคำรามออกคำสั่ง
…
เขาคือเทพมารหลิน!
ในเมืองผู้ฝึกปราณที่เดิมตกใจ ล้วนมั่นใจในฐานะของหลินสวินแล้ว ต่างอดกลัวไม่ได้
เงียบไปนานครึ่งปี ทุกคนต่างคิดว่าเทพมารหลินสัมผัสได้ถึงความผิดปกตินานแล้ว จึงอาศัยพลังของเจดีย์มกุฎออกจากแดนเผาเซียนไป
แต่ใครจะคิดว่าเขากลับไม่ได้ไปไหน!
อีกอย่าง ก่อนหน้านี้ยังรอดพ้นจากการร่วมมือโจมตีของผู้แข็งแกร่งระดับราชันสี่คน!
“เทพมารหลินยังเหี้ยมหาญเหมือนเดิม!”
มีคนถอนหายใจ
“ไม่ได้ยินหรือ เขาบาดเจ็บสาหัสเจียนตายอยู่แล้ว ตอนนี้แค่ผู้แข็งแกร่งธรรมดาคนหนึ่งลงมือก็คุกคามชีวิตเขาได้แล้ว!”
มีคนตาเป็นประกาย
“ในเมืองมีกองกำลังขุมอำนาจใหญ่มากมายอยู่ หากพวกเขารู้ข่าวนี้ จะต้องลงมือสังหารหลินสวินทันทีอย่างไม่ต้องสงสัย”
มีคนถอนหายใจในใจ
ในสถานการณ์เช่นนี้เทพมารหลินจะรอดได้อย่างไร
ออกจากเมืองก็เผชิญกับการสังหารของผู้แข็งแกร่งระดับราชัน
อยู่ในเมืองต่อก็เหมือนเหยื่อที่ถูกขังอยู่ในกรง จะถูกเหล่าขุมอำนาจใหญ่ตามเก็บ!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์